ผู้สูงอายุเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการใช้ยาได้มากกว่าบุคคลทั่วไป เนื่องจากการทำงานของอวัยวะต่างๆ เสื่อมประสิทธิภาพไปตามวัยที่มากขึ้น ทำให้มีผลกระทบต่อกระบวนการดูดซึม การแตกตัว การละลาย การออกฤทธิ์ การกำจัดของตัวยาในร่างกาย ซึ่งรวมไปถึงปัญหาอื่นๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงอันตรายของการใช้ยาในวัยผู้สูงอายุด้วย เช่น ปัญหาการหลงลืม ปัญหาการช่วยเหลือตนเอง ดังนั้น การใช้ยาในผู้สูงอายุต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ สาเหตุของปัญหาจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ เกิดจากการมีโรคหลายชนิดและได้รับยาหลายอย่าง อาจทำให้ยาอาจทำให้ยามีผลต่อผู้สูงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกาย ซึ่งมีผลต่อการทำงานของยา ตับและไต ทำงานได้น้อยลง ทำให้เปลี่ยนแปลงยาและกำจัดยาออกจากร่างกายได้น้อยลง อาจเกิดระดับยาเกินจนเป็นพิษได้ ความสามารถสมองลดลง อาจมีอาการสับสนได้ จึงมักเจอปัญหาจากการใช้ยาในวัยผู้สูงอายุ ที่ล้วนแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้สูงอายุทั้งสิ้น โดยการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) เพื่อสำรวจพฤติกรรมการกินยาของผู้สูงอายุในชุมชน 2.) เพื่อให้ผู้สูงอายุและผู้กำกับการกินยามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการกินยาที่ถูกวิธีและถูกต้อง 3.) เพื่อให้ผู้สูงอายุปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินยาให้ถูกต้องและถูกวิธี ผลการดำเนินโครงการพบว่า
กิจกรรมที่ 1 สำรวจพฤติกรรมการกินยาของผู้สูงอายุในชุมชน จากการสำรวจพฤติกรรมการกินยาของผู้สูงอายุในชุมชน มีจำนวนผู้สูงอายุในชุมชน หมู่ที่ 8 บ้านอุไร จำนวน 80 คน โดยได้ออกแบบสำรวจพฤติกรรมการกินยาของผู้สูงอายุในชุมชน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้สูงอายุ จำนวน 7 ข้อ ผลการสำรวจ พบว่า ผู้สูงอายุ และส่วนที่ 2 ข้อมูลพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ยาของผู้สูงอายุ จำนวน 11 ข้อ สามารถจำแนกตามหลักการบริหารยาได้ 4 กลุ่ม คือ 1.การได้รับยาถูกคน 2.การได้รับยาถูกขนาดและเวลา 3.ผลข้างเคียงของยา 4.การเก็บรักษายา พบว่า พฤติกรรมการใช้ยาของผู้สูงอายุ ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คะแนนเฉลี่ย 5.26 ร้อยละ 59.87 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยมาก 2 อันดับแรก ได้แก่ ด้านได้รับยาถูกคน ร้อยละ 38.16 รองลงมาด้านการได้รับยาถูกขนาดและเวลา ร้อยละ 32.48
กิจกรรมที่ 2 อบรมให้ความรู้เรื่องการกินยาที่ถูกวิธีในผู้สูงอายุ แก่ผู้สูงอายุในชุมชน และผู้กำกับควบคุมการกินยาของผู้สูงอายุ ในเรื่องของการใช้ยาในวัยผู้สูงอายุ เรื่องกลุ่มยาที่ใช้บ่อย/กลุ่มยาที่มีความเสี่ยงสูงที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้สูงอายุ รวมถึงปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ ตลอดจนมีการสาธิต/แนะนำการใช้ตะกร้าใส่ยา ให้ผู้สูงอายุและผู้กำกับการกินยาผู้สูงอายุ ทดลองใส่ยาและหยิบยากินเอง พบว่า ก่อนการอบรม ส่วนใหญ่ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้อยู่ในระดับกลุ่มปานกลาง ร้อยละ 69.91 หลังการอบรม ส่วนใหญ่ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้อยู่ในระดับดี ร้อยละ 76.99 จึงสรุปได้ว่า การจัดการอบรมครั้งนี้ ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้เพิ่มขึ้น
กิจกรรมที่ 3 ลงเยี่ยมผู้สูงอายุในชุมชน โดยอาสาสมัครสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่เภสัชกร การลงเยี่ยมผู้สูงอายุแต่ละรายในชุมชน หมู่ที่ 8 บ้านอุไร จำนวน 80 คน เพื่อติดตามการกินยาของผู้สูงอายุแต่ละราย ทั้งนี้ยังให้คำแนะนำ ตลอดจนให้คำปรึกษาการใช้ยาในผู้สูงอายุ โดยเจ้าหน้าที่เภสัชกรเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ผู้สูงอายุและผู้กำกับการกินยา ได้เข้าใจเกี่ยวกับการกินยาได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยยิ่งขึ้น
กิจกรรมที่ 4 ติดตามผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินยาของผู้สูงอายุ จากการติดตามผลพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ยาของผู้สูงอายุ พบว่า มากกว่าร้อยละ 70 ของผู้สูงอายุและผู้กำกับการกินยา มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินยาได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี ซึ่งมีแนวโน้มไปในทางที่ดี