ปัญหาด้านการจัดการขยะเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทยในปัจจุบัน การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและรูปแบบพฤติกรรมการบริโภค ส่งผลให้ปัยหาขยะมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทำให้เกิดการปนเปื้อนของพื้นดิน แหล่งน้ำและอากาศ ทำให้บ้านเมืองไม่เป๋นระเบียบเรียบร้อย ไม่เป็นที่เจริญแก่ผู้พบเห็น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนโดยทั่วไป การแก้ปัญหาของขยะมูลฝอย จึงควรปฏิบัติเพื่อป้องกันและแก้ไขผลเสียที่เกิดขึ้น โดยการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) ลดอัตราป่วยของประชาชนในชุมชนเกี่ยวกับโรคติดต่อในท้องถิ่น ที่เกิดจากแมลงเป็นพาหะนำโรค 2.)ให้ประชาชนในชุมชนมีความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะที่ต้นทาง การจัดการขยะแบบ 3Rs และสามารถทำน้ำหมักชีวภาพเองได้ 3.) รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ การจัดบ้านเรือนในชุมชนให้ถูกหลักสุขาภิบาล ผลการดำเนินโครงการพบว่า
กิจกรรมอบรมให้ความรู้การเรื่องการคัดแยกขยะที่ต้นทาง/การจัดการขยะแบบ 3Rs/สาธิตการทำน้ำหมักชีวภาพแก่ แกนนำในชุมชน หลักสูตร 1 วัน ( จำนวน 3 รุ่นๆละ 50 คน)
ตัวชี้วัดกิจกรรม ประชาชนในชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะที่ต้นทาง การจัดการขยะแบบ 3Rs และสามารถทำน้ำหมักชีวภาพเองได้ โดยใช้แบบประเมินก่อน-หลังอบรม จำนวน 10 ข้อ ผลการดำเนินกิจกรรม พบว่า ก่อนอบรม มีระดับความรู้ปานกลาง ร้อยละ 53.33 ส่วนหลังอบรม มีระดับความรู้ดีมาก ร้อยละ 81.33 และมีเพียงร้อยละ 40 ของครัวเรือนในชุมชนที่ทำน้ำหมักชีวภาพและนำไปใช้ประโยชน์
กิจกรรมรณรงค์ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการคัดแยกขยะในครัวเรือน
ตัวชี้วัดกิจกรรม บ้านเรือนในชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง และจัดบ้านเรือน สิ่งแวดล้อมรอบบ้านให้ถูกหลักสุขาภิบาล โดยการลงพื้นที่ครัวเรือนในชุมชนหมู่ที่ 10 บ้านปากปิง จำนวน 3 ครั้ง พบว่า ครั้งที่ 1 พบว่า มีเพียงร้อยละ 45 ที่มีการคัดแยกขยะในครัวเรือน ครั้งที่ 2 ครัวเรือนมีการคัดแยกขยะ ร้อยละ 61 และครั้งที่ 3 ครัวเรือนมีการคัดแยกขยะเพิ่มขึ้นร้อย 68
กิจกรรมรณรงค์การจัดบ้านเรือนให้ถูกหลักสุขาภิบาล
ก่อนดำเนินกิจกรรมรณรงค์การจัดบ้านเรือนให้ถูกหลักสุขาภิบาล บ้านเรือนส่วนใหญ่ในชุมชนยังมีแหล่งบริเวณรอบๆ บ้าน มีภาชนะที่มีน้ำขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง แต่หลังจากการลงพื้นที่บ้านเรือนในชุมชนแล้วและมีการแนะนำการจัดบ้านเรือนให้ถูกหลักสุขาภิบาล พบว่ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีขึ้น สามารถจัดบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมรอบบริเวณรอบๆ บ้านเรือน เพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 70 โดยมีเกณฑ์การประเมิน 2 ส่วน คือ
ลักษณะรอบบริเวณบ้าน โดยพิจารณาจากบริเวณบ้านสวยงาม ไม่มีขยะ และน้ำขัง มีการกำจัดขยะที่ถูกวิธี ไม่มีแหล่งเพราะพันธุ์ยุงลาย
ลักษณะภายในบ้าน โดยพิจารณาจาก มีการจัดข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่เป็นระเบียบ ความสะอาดของห้องครัว ห้องนอน และห้องน้ำ
สำหรับหลังจากดำเนินโครงการรณรงค์และส่งเสริมการลดปริมาณขยะในชุมชน หมู่ที่ 10 บ้านปากปิงพบผู้ป่วยไข้เลือดออก จำนวน 4 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 359.30 ต่อแสนประชากร ฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนในชุมชนต้องให้ความสำคัญและตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ที่ทุกคนต้องช่วยกันและให้ความร่วมมือในการลดปริมาณขยะในชุมชนเพื่อป้องกันจากโรคภัยต่างๆ ที่ตามมา เพราะถ้าชุมชนมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ประชาชนในชุมชนก็อยู่อย่างเป็นสุข