
กองทุนตำบลปาเสมัส
กิจกรรมติดตามเจาะเลือดเชิงรุกในหมู่ที่ 8 เพื่อตรวจเชื้อโรคเท้าช้างและจ่ายยาป้องกันโรคเท้าช้าง @ขอเสนอโครงการเฝ้าระวังโรคเท้าช้างในพื้นที่ ปีงบประมาณ 2567
1. ขั้นเตรียมการ
1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางการดำเนินงาน
1.2 เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ
1.3 ประชาสัมพันธ์โครงการโดยใช้ไวนิลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทราบ
2. ขั้นดำเนินการ
2.1 ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรคเท้าช้าง
2.2 กิจกรรมติดตามเจาะเลือดตรวจเชื้อโรคเท้าเช้าและจ่ายยาป้องกันโรคเท้าช้าง
1) รณรงค์กินยารักษากลุ่ม (MDA) แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
2) ดำเนินการเจาะเลือดในประชาชนพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้างเพื่อค้นหาผู้ป่วยราย
ใหม่ระยะแพร่เชื้อ
3. ขั้นการประเมินผล
3.1 ติดตามความครอบคลุมการจ่ายยารักษากลุ่ม (MDA) ในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
3.2 ติดตามผลการเจาะเลือดค้นห้าผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ในพื้นที่
3.3 ติดตามผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ให้ได้รับการรักษาและเจาะเลือดซ้ำทุกราย
3.4 ประเมินผลโครงการ
1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางการดำเนินงาน
1.2 เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ
1.3 ประชาสัมพันธ์โครงการโดยใช้ไวนิลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทราบ
2. ขั้นดำเนินการ
2.1 ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรคเท้าช้าง
2.2 กิจกรรมติดตามเจาะเลือดตรวจเชื้อโรคเท้าเช้าและจ่ายยาป้องกันโรคเท้าช้าง
1) รณรงค์กินยารักษากลุ่ม (MDA) แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
2) ดำเนินการเจาะเลือดในประชาชนพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้างเพื่อค้นหาผู้ป่วยราย
ใหม่ระยะแพร่เชื้อ
3. ขั้นการประเมินผล
3.1 ติดตามความครอบคลุมการจ่ายยารักษากลุ่ม (MDA) ในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
3.2 ติดตามผลการเจาะเลือดค้นห้าผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ในพื้นที่
3.3 ติดตามผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ให้ได้รับการรักษาและเจาะเลือดซ้ำทุกราย
3.4 ประเมินผลโครงการ
ผลลัพท์: 2. กิจกรรมติดตามเจาะเลือดเชิงรุกในหมู่ที่ 8 เพื่อตรวจเชื้อโรคเท้าช้างและจ่ายยาป้องกันโรคเท้าช้าง
- ชุดตรวจวินิจฉัยโรคเท้าช้างแบบรวดเร็ว ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานโครงการควบคุมงานโรคติดต่อฯ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- เวชภัณฑ์ยา Diethylcarbamazine Citrate 300 mg ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานโครงการควบคุมงานโรคติดต่อฯ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- ค่าถ่ายเอกสารแบบคัดกรอง จำนวน 500 แผ่น แผ่นละ ๐.๕๐ สตางค์ เป็นเงิน 25๐ บาท
- ปากกาเขียนบนแผ่นสไลด์ จำนวน 20 แท่งๆละ 15 บาท เป็นเงิน 300 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 16 คน x 35 บาท x 10 วัน เป็นเงิน 5,600 บาท
- ถุงผ้าลดโลกร้อน ขนาด 12 x 14 นิ้ว จำนวน 16 ใบๆละ 30 บาท เป็นเงิน 480 บาท
รวมเป็นเงิน 6,630 บาท
- ชุดตรวจวินิจฉัยโรคเท้าช้างแบบรวดเร็ว ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานโครงการควบคุมงานโรคติดต่อฯ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- เวชภัณฑ์ยา Diethylcarbamazine Citrate 300 mg ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานโครงการควบคุมงานโรคติดต่อฯ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- ค่าถ่ายเอกสารแบบคัดกรอง จำนวน 500 แผ่น แผ่นละ ๐.๕๐ สตางค์ เป็นเงิน 25๐ บาท
- ปากกาเขียนบนแผ่นสไลด์ จำนวน 20 แท่งๆละ 15 บาท เป็นเงิน 300 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 16 คน x 35 บาท x 10 วัน เป็นเงิน 5,600 บาท
- ถุงผ้าลดโลกร้อน ขนาด 12 x 14 นิ้ว จำนวน 16 ใบๆละ 30 บาท เป็นเงิน 480 บาท
รวมเป็นเงิน 6,630 บาท
กิจกรรมอบรมให้ความรู้โรคเท้าช้างและวิธีการเจาะเลือดในกลุ่มเสี่ยง @ขอเสนอโครงการเฝ้าระวังโรคเท้าช้างในพื้นที่ ปีงบประมาณ 2567
1. ขั้นเตรียมการ
1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางการดำเนินงาน
1.2 เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ
1.3 ประชาสัมพันธ์โครงการโดยใช้ไวนิลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทราบ
2. ขั้นดำเนินการ
2.1 ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรคเท้าช้าง
2.2 กิจกรรมติดตามเจาะเลือดตรวจเชื้อโรคเท้าเช้าและจ่ายยาป้องกันโรคเท้าช้าง
1) รณรงค์กินยารักษากลุ่ม (MDA) แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
2) ดำเนินการเจาะเลือดในประชาชนพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้างเพื่อค้นหาผู้ป่วยราย
ใหม่ระยะแพร่เชื้อ
3. ขั้นการประเมินผล
3.1 ติดตามความครอบคลุมการจ่ายยารักษากลุ่ม (MDA) ในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
3.2 ติดตามผลการเจาะเลือดค้นห้าผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ในพื้นที่
3.3 ติดตามผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ให้ได้รับการรักษาและเจาะเลือดซ้ำทุกราย
3.4 ประเมินผลโครงการ
1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางการดำเนินงาน
1.2 เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ
1.3 ประชาสัมพันธ์โครงการโดยใช้ไวนิลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทราบ
2. ขั้นดำเนินการ
2.1 ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรคเท้าช้าง
2.2 กิจกรรมติดตามเจาะเลือดตรวจเชื้อโรคเท้าเช้าและจ่ายยาป้องกันโรคเท้าช้าง
1) รณรงค์กินยารักษากลุ่ม (MDA) แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
2) ดำเนินการเจาะเลือดในประชาชนพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้างเพื่อค้นหาผู้ป่วยราย
ใหม่ระยะแพร่เชื้อ
3. ขั้นการประเมินผล
3.1 ติดตามความครอบคลุมการจ่ายยารักษากลุ่ม (MDA) ในพื้นที่เสี่ยงแพร่เชื้อโรคเท้าช้าง
3.2 ติดตามผลการเจาะเลือดค้นห้าผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ในพื้นที่
3.3 ติดตามผู้ป่วยโรคเท้าช้างรายใหม่ให้ได้รับการรักษาและเจาะเลือดซ้ำทุกราย
3.4 ประเมินผลโครงการ
ผลลัพท์: 1. กิจกรรมอบรมให้ความรู้โรคเท้าช้างและวิธีการเจาะเลือดในกลุ่มเสี่ยง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 80 คน และผู้ที่เกี่ยวข้องและสังเกตการณ์ จำนวน 10 คน (แบ่ง 2 รุ่นๆละ 45 คน)
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรม และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 45 คน
จำนวน 2 มื้อๆละ 35 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 6,300 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 45 คน x 80 บาท จำนวน 1 มื้อ จำนวน 2 รุ่น
เป็นเงิน 7,200 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 1 คน จำนวน 6 ชั่วโมงๆละ 600 บาท × 2 วัน
เป็นเงิน 3,600 บาท
- ปากกา แท่งละ 5 บาท จำนวน 80 แท่ง เป็นเงิน 400 บาท
- สมุดปกอ่อน เล่มละ 10 บาท จำนวน 80 เล่ม เป็นเงิน 800 บาท
- แฟ้มพลาสติกใสมีกระดุม จำนวน 80 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 800 บาท
- ค่าป้ายไวนิลโครงการฯ จำนวน 1 ผืน ขนาด 1.2 ม. x 2.4 ม. เป็นเงิน 750 บาท
รวมเป็นเงิน 19,850 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรม และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 45 คน
จำนวน 2 มื้อๆละ 35 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 6,300 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 45 คน x 80 บาท จำนวน 1 มื้อ จำนวน 2 รุ่น
เป็นเงิน 7,200 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 1 คน จำนวน 6 ชั่วโมงๆละ 600 บาท × 2 วัน
เป็นเงิน 3,600 บาท
- ปากกา แท่งละ 5 บาท จำนวน 80 แท่ง เป็นเงิน 400 บาท
- สมุดปกอ่อน เล่มละ 10 บาท จำนวน 80 เล่ม เป็นเงิน 800 บาท
- แฟ้มพลาสติกใสมีกระดุม จำนวน 80 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 800 บาท
- ค่าป้ายไวนิลโครงการฯ จำนวน 1 ผืน ขนาด 1.2 ม. x 2.4 ม. เป็นเงิน 750 บาท
รวมเป็นเงิน 19,850 บาท
งบประมาณ จัดอบรมให้ความรู้ @โครงการหมู่บ้านต้นแบบ ลด และเลิกบุหรี่โดยชุมชนมีส่วนร่วม ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ประจำปีงบประมาณ 2567
4.1 ตั้งคณะทำงานชุมชนปลอดบุหรี่ และจัดประชุมคณะทำงาน
4.2 ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนในพื้นที่ทราบและให้ความร่วมมือความสนใจเข้าร่วมโครงการ
4.3 สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายทุกครัวเรือนด้วยแบบสำรวจก่อนและหลังการดำเนินงานโครงการ และคืนข้อมูลสู่ชุมชน
4.4 จัดทำทะเบียน กลุ่มติดบุหรี่ กลุ่มเสี่ยง รวมถึงกลุ่มประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น จำนวนร้านค้าขายบุหรี่ในชุมชน จำนวนมัสยิดในชุมชน ฯลฯ
4.5 สนับสนุนให้ชุมชนจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นชุมชนปลอดบุหรี่ และส่งเสริมการปฏิบัติตาม
กฎหมาย จัดโซนนิ่งเขตสูบบุหรี่/ไม่สูบบุหรี่
4.5.1 จัดทำนโยบายและประกาศ มัสยิด/ชุมชนปลอดบุหรี่
4.5.2 จัดประชุมคณะกรรมการมัสยิด เพื่อแจ้งเรื่องการดำเนินงานตามโครงการ
4.5.3 จัดระบบเฝ้าระวังโดยแกนนำชุมชน อาสาสมัคร อสม. ในกลุ่มเสี่ยง
4.5.4 ส่งเสริมให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น ร้านค้าในชุมชนห้ามขายบุหรี่
แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การห้ามติดป้ายโฆษณาบุหรี่
4.6 จัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดความรู้ ความตระหนัก และค่านิยมที่ถูกต้อง โดยให้สอดคล้องกับปัญหาและวิถีวัฒนธรรมของชุมชน
4.7 จัดมุมความรู้ในมัสยิด ร้านค้าในชุมชน ให้มีสื่อ ที่ให้ความรู้แก่คนที่มีการศึกษาและวัยต่างๆ
4.8 จัดงานรณรงค์ไม่สูบบุหรี่สอดคล้องกับงานบุญ ประเพณี หรือเทศกาลต่างๆ เช่น วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. และวันสำคัญทางประเพณีหรือเทศกาลต่าง ๆ รณรงค์ “บ้านปลอดบุหรี่” พร้อมมอบป้าย
4.9 สนับสนุน ให้ความรู้ ช่วยเหลือให้เข้าถึงบริการ และสร้างแรงจูงใจเลิกบุหรี่ “กลุ่มติดบุหรี่”
4.9.1 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่ให้เข้าร่วมโครงการ
4.9.2 ร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีคลินิกเลิกบุหรี่ เพื่อส่งต่อผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่เข้ารับคำปรึกษาแนะนำและรักษา
4.9.3 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่เลิกบุหรี่ : รางวัลคนต้นแบบ (เลิกสูบบุหรี่)
4.9.4 สนับสนุนให้มีกลุ่ม/ชมรมเลิกบุหรี่
4.9.5 จัดทำเอกสารให้ความรู้ สร้างความเข้าใจขั้นตอนการเลิกบุหรี่
4.2 ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนในพื้นที่ทราบและให้ความร่วมมือความสนใจเข้าร่วมโครงการ
4.3 สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายทุกครัวเรือนด้วยแบบสำรวจก่อนและหลังการดำเนินงานโครงการ และคืนข้อมูลสู่ชุมชน
4.4 จัดทำทะเบียน กลุ่มติดบุหรี่ กลุ่มเสี่ยง รวมถึงกลุ่มประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น จำนวนร้านค้าขายบุหรี่ในชุมชน จำนวนมัสยิดในชุมชน ฯลฯ
4.5 สนับสนุนให้ชุมชนจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นชุมชนปลอดบุหรี่ และส่งเสริมการปฏิบัติตาม
กฎหมาย จัดโซนนิ่งเขตสูบบุหรี่/ไม่สูบบุหรี่
4.5.1 จัดทำนโยบายและประกาศ มัสยิด/ชุมชนปลอดบุหรี่
4.5.2 จัดประชุมคณะกรรมการมัสยิด เพื่อแจ้งเรื่องการดำเนินงานตามโครงการ
4.5.3 จัดระบบเฝ้าระวังโดยแกนนำชุมชน อาสาสมัคร อสม. ในกลุ่มเสี่ยง
4.5.4 ส่งเสริมให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น ร้านค้าในชุมชนห้ามขายบุหรี่
แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การห้ามติดป้ายโฆษณาบุหรี่
4.6 จัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดความรู้ ความตระหนัก และค่านิยมที่ถูกต้อง โดยให้สอดคล้องกับปัญหาและวิถีวัฒนธรรมของชุมชน
4.7 จัดมุมความรู้ในมัสยิด ร้านค้าในชุมชน ให้มีสื่อ ที่ให้ความรู้แก่คนที่มีการศึกษาและวัยต่างๆ
4.8 จัดงานรณรงค์ไม่สูบบุหรี่สอดคล้องกับงานบุญ ประเพณี หรือเทศกาลต่างๆ เช่น วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. และวันสำคัญทางประเพณีหรือเทศกาลต่าง ๆ รณรงค์ “บ้านปลอดบุหรี่” พร้อมมอบป้าย
4.9 สนับสนุน ให้ความรู้ ช่วยเหลือให้เข้าถึงบริการ และสร้างแรงจูงใจเลิกบุหรี่ “กลุ่มติดบุหรี่”
4.9.1 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่ให้เข้าร่วมโครงการ
4.9.2 ร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีคลินิกเลิกบุหรี่ เพื่อส่งต่อผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่เข้ารับคำปรึกษาแนะนำและรักษา
4.9.3 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่เลิกบุหรี่ : รางวัลคนต้นแบบ (เลิกสูบบุหรี่)
4.9.4 สนับสนุนให้มีกลุ่ม/ชมรมเลิกบุหรี่
4.9.5 จัดทำเอกสารให้ความรู้ สร้างความเข้าใจขั้นตอนการเลิกบุหรี่
ผลลัพท์: 1. อบรมให้ความรู้แกนนำนักเรียน จำนวน 11,600 บาท
- ค่าอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม (ผู้ดำเนินงาน 10 คน) จำนวน 10 คนๆ ละ 80 บาท/มื้อ จำนวน 1 มื้อ เป็นเงิน 800 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ และผู้ดำเนินงาน
จำนวน 70 คน ๆ ละ 35 บาท/มื้อ จำนวน 2 มื้อ เป็นเงิน 4,900 บาท
- ค่าป้ายโครงการ ขนาด 1 x 2 เมตร จำนวน 1 ป้าย ๆ ละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
- ค่าป้ายห้ามสูบบุหรี่ จำนวน 6 ป้าย ๆ ละ 300 บาท เป็นเงิน 1,800 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากร ชั่วโมงละ 600 บาท จำนวน 3 คน
คนละ 2 ชั่วโมง เป็นเงิน 3,600 บาท
2. อบรมให้ความรู้คณะกรรมการมัสยิด จำนวน 19,100 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ (มัสยิดละ 12 คน จำนวน 8 แห่ง และ
ผู้ดำเนินงาน 4 คน) จำนวน 100 คน ๆ ละ 80 บาท/มื้อ จำนวน 1 มื้อ เป็นเงิน 8,000 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ และผู้ดำเนินงาน
จำนวน 100 คน ๆ ละ 35 บาท/มื้อ จำนวน 2 มื้อ เป็นเงิน 7,000 บาท
- ค่าป้ายโครงการ ขนาด 1 x 2 เมตร จำนวน 1 ป้าย ๆ ละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากร ชั่วโมงละ 600 บาท จำนวน 3 คน
คนละ 2 ชั่วโมง เป็นเงิน 3,600 บาท
- ค่าอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม (ผู้ดำเนินงาน 10 คน) จำนวน 10 คนๆ ละ 80 บาท/มื้อ จำนวน 1 มื้อ เป็นเงิน 800 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ และผู้ดำเนินงาน
จำนวน 70 คน ๆ ละ 35 บาท/มื้อ จำนวน 2 มื้อ เป็นเงิน 4,900 บาท
- ค่าป้ายโครงการ ขนาด 1 x 2 เมตร จำนวน 1 ป้าย ๆ ละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
- ค่าป้ายห้ามสูบบุหรี่ จำนวน 6 ป้าย ๆ ละ 300 บาท เป็นเงิน 1,800 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากร ชั่วโมงละ 600 บาท จำนวน 3 คน
คนละ 2 ชั่วโมง เป็นเงิน 3,600 บาท
2. อบรมให้ความรู้คณะกรรมการมัสยิด จำนวน 19,100 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ (มัสยิดละ 12 คน จำนวน 8 แห่ง และ
ผู้ดำเนินงาน 4 คน) จำนวน 100 คน ๆ ละ 80 บาท/มื้อ จำนวน 1 มื้อ เป็นเงิน 8,000 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ และผู้ดำเนินงาน
จำนวน 100 คน ๆ ละ 35 บาท/มื้อ จำนวน 2 มื้อ เป็นเงิน 7,000 บาท
- ค่าป้ายโครงการ ขนาด 1 x 2 เมตร จำนวน 1 ป้าย ๆ ละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากร ชั่วโมงละ 600 บาท จำนวน 3 คน
คนละ 2 ชั่วโมง เป็นเงิน 3,600 บาท
งบประมาณสำหรับการสนับสนุนให้ชุมชนจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นชุมชนปลอดบุหรี่ มัสยิด ปลอดบุหรี่ @โครงการหมู่บ้านต้นแบบ ลด และเลิกบุหรี่โดยชุมชนมีส่วนร่วม ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ประจำปีงบประมาณ 2567
7.2 งบประมาณสำหรับการสนับสนุนให้ชุมชนจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นชุมชนปลอดบุหรี่ มัสยิด
ปลอดบุหรี่ จำนวน 14,200 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าป้ายประกาศนโยบาย ขนาด 1 x 2 เมตร จำนวน 8 ป้าย ๆ ละ 500 บาท
เป็นเงิน 4,000 บาท
- ค่าป้ายห้ามสูบบุหรี่ ขนาด 30 x 60 ซม. จำนวน 16 ป้าย ๆ ละ 300 บาท
เป็นเงิน 4,800 บาท
- ค่าป้ายเขตสูบบุหรี่ ขนาด 30 x 60 ซม. จำนวน 8 ป้าย ๆ ละ 300 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท
- ค่าสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ จำนวน 150 แผ่น ๆ ละ 20 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
ปลอดบุหรี่ จำนวน 14,200 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าป้ายประกาศนโยบาย ขนาด 1 x 2 เมตร จำนวน 8 ป้าย ๆ ละ 500 บาท
เป็นเงิน 4,000 บาท
- ค่าป้ายห้ามสูบบุหรี่ ขนาด 30 x 60 ซม. จำนวน 16 ป้าย ๆ ละ 300 บาท
เป็นเงิน 4,800 บาท
- ค่าป้ายเขตสูบบุหรี่ ขนาด 30 x 60 ซม. จำนวน 8 ป้าย ๆ ละ 300 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท
- ค่าสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ จำนวน 150 แผ่น ๆ ละ 20 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
ผลลัพท์: 8.1 ชุมชนมีการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลดละเลิกบุหรี่
8.2 มีคนต้นแบบในชุมชนที่สามารถเลิกบุหรี่ได้
8.2 มีคนต้นแบบในชุมชนที่สามารถเลิกบุหรี่ได้
งบประมาณจัดประชุมคณะทำงานและประชาสัมพันธ์โครงการ @โครงการหมู่บ้านต้นแบบ ลด และเลิกบุหรี่โดยชุมชนมีส่วนร่วม ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ประจำปีงบประมาณ 2567
4.1 ตั้งคณะทำงานชุมชนปลอดบุหรี่ และจัดประชุมคณะทำงาน
4.2 ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนในพื้นที่ทราบและให้ความร่วมมือความสนใจเข้าร่วมโครงการ
4.3 สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายทุกครัวเรือนด้วยแบบสำรวจก่อนและหลังการดำเนินงานโครงการ และคืนข้อมูลสู่ชุมชน
4.4 จัดทำทะเบียน กลุ่มติดบุหรี่ กลุ่มเสี่ยง รวมถึงกลุ่มประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น จำนวนร้านค้าขายบุหรี่ในชุมชน จำนวนมัสยิดในชุมชน ฯลฯ
4.5 สนับสนุนให้ชุมชนจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นชุมชนปลอดบุหรี่ และส่งเสริมการปฏิบัติตาม
กฎหมาย จัดโซนนิ่งเขตสูบบุหรี่/ไม่สูบบุหรี่
4.5.1 จัดทำนโยบายและประกาศ มัสยิด/ชุมชนปลอดบุหรี่
4.5.2 จัดประชุมคณะกรรมการมัสยิด เพื่อแจ้งเรื่องการดำเนินงานตามโครงการ
4.5.3 จัดระบบเฝ้าระวังโดยแกนนำชุมชน อาสาสมัคร อสม. ในกลุ่มเสี่ยง
4.5.4 ส่งเสริมให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น ร้านค้าในชุมชนห้ามขายบุหรี่
แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การห้ามติดป้ายโฆษณาบุหรี่
4.6 จัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดความรู้ ความตระหนัก และค่านิยมที่ถูกต้อง โดยให้สอดคล้องกับปัญหาและวิถีวัฒนธรรมของชุมชน
4.7 จัดมุมความรู้ในมัสยิด ร้านค้าในชุมชน ให้มีสื่อ ที่ให้ความรู้แก่คนที่มีการศึกษาและวัยต่างๆ
4.8 จัดงานรณรงค์ไม่สูบบุหรี่สอดคล้องกับงานบุญ ประเพณี หรือเทศกาลต่างๆ เช่น วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. และวันสำคัญทางประเพณีหรือเทศกาลต่าง ๆ รณรงค์ “บ้านปลอดบุหรี่” พร้อมมอบป้าย
4.9 สนับสนุน ให้ความรู้ ช่วยเหลือให้เข้าถึงบริการ และสร้างแรงจูงใจเลิกบุหรี่ “กลุ่มติดบุหรี่”
4.9.1 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่ให้เข้าร่วมโครงการ
4.9.2 ร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีคลินิกเลิกบุหรี่ เพื่อส่งต่อผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่เข้ารับคำปรึกษาแนะนำและรักษา
4.9.3 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่เลิกบุหรี่ : รางวัลคนต้นแบบ (เลิกสูบบุหรี่)
4.9.4 สนับสนุนให้มีกลุ่ม/ชมรมเลิกบุหรี่
4.9.5 จัดทำเอกสารให้ความรู้ สร้างความเข้าใจขั้นตอนการเลิกบุหรี่
4.2 ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนในพื้นที่ทราบและให้ความร่วมมือความสนใจเข้าร่วมโครงการ
4.3 สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายทุกครัวเรือนด้วยแบบสำรวจก่อนและหลังการดำเนินงานโครงการ และคืนข้อมูลสู่ชุมชน
4.4 จัดทำทะเบียน กลุ่มติดบุหรี่ กลุ่มเสี่ยง รวมถึงกลุ่มประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น จำนวนร้านค้าขายบุหรี่ในชุมชน จำนวนมัสยิดในชุมชน ฯลฯ
4.5 สนับสนุนให้ชุมชนจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นชุมชนปลอดบุหรี่ และส่งเสริมการปฏิบัติตาม
กฎหมาย จัดโซนนิ่งเขตสูบบุหรี่/ไม่สูบบุหรี่
4.5.1 จัดทำนโยบายและประกาศ มัสยิด/ชุมชนปลอดบุหรี่
4.5.2 จัดประชุมคณะกรรมการมัสยิด เพื่อแจ้งเรื่องการดำเนินงานตามโครงการ
4.5.3 จัดระบบเฝ้าระวังโดยแกนนำชุมชน อาสาสมัคร อสม. ในกลุ่มเสี่ยง
4.5.4 ส่งเสริมให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น ร้านค้าในชุมชนห้ามขายบุหรี่
แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การห้ามติดป้ายโฆษณาบุหรี่
4.6 จัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดความรู้ ความตระหนัก และค่านิยมที่ถูกต้อง โดยให้สอดคล้องกับปัญหาและวิถีวัฒนธรรมของชุมชน
4.7 จัดมุมความรู้ในมัสยิด ร้านค้าในชุมชน ให้มีสื่อ ที่ให้ความรู้แก่คนที่มีการศึกษาและวัยต่างๆ
4.8 จัดงานรณรงค์ไม่สูบบุหรี่สอดคล้องกับงานบุญ ประเพณี หรือเทศกาลต่างๆ เช่น วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. และวันสำคัญทางประเพณีหรือเทศกาลต่าง ๆ รณรงค์ “บ้านปลอดบุหรี่” พร้อมมอบป้าย
4.9 สนับสนุน ให้ความรู้ ช่วยเหลือให้เข้าถึงบริการ และสร้างแรงจูงใจเลิกบุหรี่ “กลุ่มติดบุหรี่”
4.9.1 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่ให้เข้าร่วมโครงการ
4.9.2 ร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีคลินิกเลิกบุหรี่ เพื่อส่งต่อผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่เข้ารับคำปรึกษาแนะนำและรักษา
4.9.3 สนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มติดบุหรี่เลิกบุหรี่ : รางวัลคนต้นแบบ (เลิกสูบบุหรี่)
4.9.4 สนับสนุนให้มีกลุ่ม/ชมรมเลิกบุหรี่
4.9.5 จัดทำเอกสารให้ความรู้ สร้างความเข้าใจขั้นตอนการเลิกบุหรี่
ผลลัพท์: 7.1 งบประมาณจัดประชุมคณะทำงานและประชาสัมพันธ์โครงการ จำนวน 5,750 บาท ค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับคณะทำงานฯ และผู้ดำเนินงาน จำนวน 50 คน ๆ ละ 35
บาท/มื้อ จำนวน 1 มื้อ เป็นเงิน 1,750 บาท
- ค่าป้ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ ขนาด 1 x 2 เมตร แผ่นละ 500 บาท จำนวน 8 แผ่น
เป็นเงิน 4,000 บาท
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับคณะทำงานฯ และผู้ดำเนินงาน จำนวน 50 คน ๆ ละ 35
บาท/มื้อ จำนวน 1 มื้อ เป็นเงิน 1,750 บาท
- ค่าป้ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ ขนาด 1 x 2 เมตร แผ่นละ 500 บาท จำนวน 8 แผ่น
เป็นเงิน 4,000 บาท
กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มแกนนำจิตอาสา และ อสม. และผู้ที่เกี่ยวข้อง @โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพจิตในชุมชน ปีงบประมาณ 2567
๑. จัดทำโครงการเสนอขอสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลปาเสมัส
๒. ประชุมจิตอาสา , อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ
๓. ดำเนินการกิจกรรมตามโครงการฯ
๓.๑ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้สุขภาพจิตกลุ่มเป้าหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คน จำนวน 1 วัน
๓.๒ กิจกรรมเชิงปฏิบัติการประเมินภาวะเครียดและภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย โดยแบ่งเป็นกลุ่ม 5 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 กิจกรรมแบบประเมินความสุข
กลุ่มที่ 2 กิจกรรมแบบประเมินภาวะเครียด ST-5
กลุ่มที่ 3 กิจกรรมแบบประเมินภาวะซึมเศร้า 2Q
กลุ่มที่ 4 กิจกรรมคัดกรองโรคซึมเศร้า 9 Q
กลุ่มที่ 5 กิจกรรมคัดกรองการฆ่าตัวตาย 8 Q,
4. สรุปและประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการฯ
๒. ประชุมจิตอาสา , อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ
๓. ดำเนินการกิจกรรมตามโครงการฯ
๓.๑ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้สุขภาพจิตกลุ่มเป้าหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คน จำนวน 1 วัน
๓.๒ กิจกรรมเชิงปฏิบัติการประเมินภาวะเครียดและภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย โดยแบ่งเป็นกลุ่ม 5 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 กิจกรรมแบบประเมินความสุข
กลุ่มที่ 2 กิจกรรมแบบประเมินภาวะเครียด ST-5
กลุ่มที่ 3 กิจกรรมแบบประเมินภาวะซึมเศร้า 2Q
กลุ่มที่ 4 กิจกรรมคัดกรองโรคซึมเศร้า 9 Q
กลุ่มที่ 5 กิจกรรมคัดกรองการฆ่าตัวตาย 8 Q,
4. สรุปและประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการฯ
ผลลัพท์: 1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มแกนนำจิตอาสา และ อสม. และผู้ที่เกี่ยวข้อง
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คนๆ ละ 2 มื้อๆละ 35 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 4,900 บาท
- ค่าอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คนๆละ 1 มื้อๆละ 80 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 5,600 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยาย
จำนวน 2 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆละ 600 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 3,600 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่ม
จำนวน 5 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆ ละ 400 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 6,000 บาท
- ค่าป้ายไวนิลโครงการขนาด 1 x 2 เมตร
จำนวน ๑ ผืนๆละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
- กระดาษ เอ 4 จำนวน 1 รีมๆละ 200 บาท เป็นเงิน 200 บาท
- สมุด จำนวน 60 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 600 บาท
- ปากกา จำนวน 60 ด้ามๆละ 5 บาท เป็นเงิน 300 บาท
- แฟ้มใส่เอกสาร จำนวน 60 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 600 บาท
รวมเป็นเงินทั้งหมด 22,300 บาท (สองหมื่นสองพันสามร้อยบาทถ้วน)
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คนๆ ละ 2 มื้อๆละ 35 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 4,900 บาท
- ค่าอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คนๆละ 1 มื้อๆละ 80 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 5,600 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยาย
จำนวน 2 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆละ 600 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 3,600 บาท
- ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่ม
จำนวน 5 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆ ละ 400 บาท จำนวน 1 วัน เป็นเงิน 6,000 บาท
- ค่าป้ายไวนิลโครงการขนาด 1 x 2 เมตร
จำนวน ๑ ผืนๆละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
- กระดาษ เอ 4 จำนวน 1 รีมๆละ 200 บาท เป็นเงิน 200 บาท
- สมุด จำนวน 60 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 600 บาท
- ปากกา จำนวน 60 ด้ามๆละ 5 บาท เป็นเงิน 300 บาท
- แฟ้มใส่เอกสาร จำนวน 60 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 600 บาท
รวมเป็นเงินทั้งหมด 22,300 บาท (สองหมื่นสองพันสามร้อยบาทถ้วน)
บำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน (Community Based Treatment : CBTx @โครงการบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน (Community Based Treatment : CBTx) ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ประจำปีงบประมาณ 2567
แนวคิด CBTx เป็นการดูแลผู้ใช้ยาเสพติดให้ได้รับการบำบัดฟื้นฟูใกล้บ้าน หรือภายในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการฟื้นฟูทางการแพทย์และทางสังคม โดยใช้ศักยภาพและความร่วมมือของคนในชุมชนและหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้อง ตามบริบทและวิถีของชุมชนนั้น ๆ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
1. จัดตั้งทีมงานหรือชุดปฏิบัติการประจำตำบล เพื่อจัดทำแผนแนวทางการดำเนินงาน รวมถึง ให้คำปรึกษา/คำแนะนำ พร้อมชักชวนให้ผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูฯ ในชุมชน
2. ทีมงานหรือชุดปฏิบัติการประจำตำบล ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข/สถานพยาบาล ให้การดูแล ฟื้นฟูภายในชุมชนตามแนวทางที่สาธารณสุขกำหนดดังนี้
1) สัมภาษณ์เบื้องต้นผู้เข้ารับการฟื้นฟู
2) ซักประวัติ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น
3) กิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์
4) สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโทษพิษภัยของยาเสพติด
5) แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน
6) ปรับทัศนคติ
7) ติดตามผลการบำบัดรักษา
8) ให้คำปรึกษา แนวทางการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และการประกอบอาชีพ
3. ทีมงานหรือชุดปฏิบัติการประจำตำบล กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือเชิงสัมคม เช่น การจัดหาสถานที่ในการฝึกอาชีพ การสนับสนุนทุนประกอบอาชีพ การศึกษาต่อ เป็นต้น
4. รายงานผลการดำเนินงานในระบบข้อมูลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.)
1. จัดตั้งทีมงานหรือชุดปฏิบัติการประจำตำบล เพื่อจัดทำแผนแนวทางการดำเนินงาน รวมถึง ให้คำปรึกษา/คำแนะนำ พร้อมชักชวนให้ผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูฯ ในชุมชน
2. ทีมงานหรือชุดปฏิบัติการประจำตำบล ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข/สถานพยาบาล ให้การดูแล ฟื้นฟูภายในชุมชนตามแนวทางที่สาธารณสุขกำหนดดังนี้
1) สัมภาษณ์เบื้องต้นผู้เข้ารับการฟื้นฟู
2) ซักประวัติ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น
3) กิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์
4) สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโทษพิษภัยของยาเสพติด
5) แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน
6) ปรับทัศนคติ
7) ติดตามผลการบำบัดรักษา
8) ให้คำปรึกษา แนวทางการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และการประกอบอาชีพ
3. ทีมงานหรือชุดปฏิบัติการประจำตำบล กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือเชิงสัมคม เช่น การจัดหาสถานที่ในการฝึกอาชีพ การสนับสนุนทุนประกอบอาชีพ การศึกษาต่อ เป็นต้น
4. รายงานผลการดำเนินงานในระบบข้อมูลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.)
ผลลัพท์: 1) ค่าอาหารกลางวัน สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม มื้อละ 80 บาท * จำนวน 3 มื้อต่อวัน 160 คน * จำนวน 7 วัน (เข้าค่ายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในรูปแบบศาสนบำบัด 7 วัน ) เป็นเงิน 268,800 บาท
2) ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม มื้อละ 35 บาท จำนวน 2 มื้อต่อวัน 160 คน * จำนวน 7 วัน (เข้าค่ายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในรูปแบบศาสนบำบัด 7 วัน) เป็นเงิน 78,400 บาท
3) ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 2 คน จำนวน 3 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 3,600 บาท
4) ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 1 คน จำนวน 5 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
5) ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 1 คน จำนวน 21 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 12,600 บาท
2) ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม มื้อละ 35 บาท จำนวน 2 มื้อต่อวัน 160 คน * จำนวน 7 วัน (เข้าค่ายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในรูปแบบศาสนบำบัด 7 วัน) เป็นเงิน 78,400 บาท
3) ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 2 คน จำนวน 3 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 3,600 บาท
4) ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 1 คน จำนวน 5 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
5) ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 1 คน จำนวน 21 ชั่วโมงๆ ละ 600 บาท เป็นเงิน 12,600 บาท
กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน (To be number one) ปีงบประมาณ ๒๕๖6 จำนวน 70 คน จำนวน 2 รุ่นๆละ 2 วัน @โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด(To be number one) ในชุมชนปีงบประมาณ 2567
จากงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลปาเสมัส ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖7 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 79,650 บาท (เจ็ดหมื่นเก้าพันหกร้อยห้าสิบบาทถ้วน) รายละเอียดดังนี้
1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน (To be number one) ปีงบประมาณ ๒๕๖6 จำนวน 70 คน จำนวน 2 รุ่นๆละ 2 วัน
1. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คน ๆ ละ 35 บาท จำนวน 2 มื้อ จำนวน 2 วัน จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 19,600 บาท
2. ค่าอาหารกลางวันผู้เข้าร่วมอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คน ๆ ละ 80 บาท จำนวน 1 มื้อ จำนวน 2 วัน จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 22,400 บาท
3. ค่าสมนาคุณวิทยากรในการบรรยาย
จำนวน 2 คน จำนวน 3 ชั่วโมงๆละ 600 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 7,200 บาท
4. ค่าสมนาคุณวิทยากรในการจัดกิจกรรมกลุ่ม
จำนวน 5 กลุ่มๆละ 1 คน จำนวน 6 ชั่วโมงๆละ 400 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 24,000 บาท
5. ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดอบรม
ค่าสมุดปกอ่อน จำนวน 120 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
ค่าปากกา จำนวน 120 ด้ามๆละ 5 บาท เป็นเงิน 600 บาท
ค่าแฟ้มใส่เอกสาร จำนวน 120 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
ค่าปากกาเคมี จำนวน 5 กล่องๆละ 132 บาท เป็นเงิน 660 บาท
ค่ากระดาษถ่ายเอกสารขนาดเอ 4 จำนวน 2 รีมๆละ 200 บาท เป็นเงิน 400 บาท
ค่ากระดาษโปสเตอร์สี จำนวน 50 แผ่นๆละ 15 บาท เป็นเงิน 750 บาท
ค่ากระดาษซาลาเปา จำนวน 50 แผ่นๆ ละ 5 บาท เป็นเงิน 250 บาท
ดินสอสี จำนวน 10 กล่องๆละ 89 บาท เป็นเงิน 890 บาท
ค่าป้ายโครงการฯ ขนาด 1×2 เมตร จำนวน 1 แผ่นๆ ละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน (To be number one) ปีงบประมาณ ๒๕๖6 จำนวน 70 คน จำนวน 2 รุ่นๆละ 2 วัน
1. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คน ๆ ละ 35 บาท จำนวน 2 มื้อ จำนวน 2 วัน จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 19,600 บาท
2. ค่าอาหารกลางวันผู้เข้าร่วมอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 70 คน ๆ ละ 80 บาท จำนวน 1 มื้อ จำนวน 2 วัน จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 22,400 บาท
3. ค่าสมนาคุณวิทยากรในการบรรยาย
จำนวน 2 คน จำนวน 3 ชั่วโมงๆละ 600 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 7,200 บาท
4. ค่าสมนาคุณวิทยากรในการจัดกิจกรรมกลุ่ม
จำนวน 5 กลุ่มๆละ 1 คน จำนวน 6 ชั่วโมงๆละ 400 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 24,000 บาท
5. ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดอบรม
ค่าสมุดปกอ่อน จำนวน 120 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
ค่าปากกา จำนวน 120 ด้ามๆละ 5 บาท เป็นเงิน 600 บาท
ค่าแฟ้มใส่เอกสาร จำนวน 120 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
ค่าปากกาเคมี จำนวน 5 กล่องๆละ 132 บาท เป็นเงิน 660 บาท
ค่ากระดาษถ่ายเอกสารขนาดเอ 4 จำนวน 2 รีมๆละ 200 บาท เป็นเงิน 400 บาท
ค่ากระดาษโปสเตอร์สี จำนวน 50 แผ่นๆละ 15 บาท เป็นเงิน 750 บาท
ค่ากระดาษซาลาเปา จำนวน 50 แผ่นๆ ละ 5 บาท เป็นเงิน 250 บาท
ดินสอสี จำนวน 10 กล่องๆละ 89 บาท เป็นเงิน 890 บาท
ค่าป้ายโครงการฯ ขนาด 1×2 เมตร จำนวน 1 แผ่นๆ ละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
ผลลัพท์: 1. เยาวชนมีส่วนร่วมในการรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดชุมชน
2. เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจและมีภูมิคุ้มกันทางจิตในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
3. ผู้เสพสารเสพติดหน้าใหม่ในกลุ่มเยาวชนลดลง
2. เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจและมีภูมิคุ้มกันทางจิตในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
3. ผู้เสพสารเสพติดหน้าใหม่ในกลุ่มเยาวชนลดลง
สถานีตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป @โครงการสถานีรักษ์สุขภาพในหมู่บ้าน (Health Station check) ปีงบประมาณ 2567
1. คัดเลือกจุดจัดตั้ง สถานีรักษ์สุขภาพ (Health Station Check) ในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 4 หมู่บ้าน
(2,4,5,8)
2. จัดเตรียมวัสดุครุภัณฑ์ประกอบการดำเนินงานในจุดบริการ สถานีรักษ์สุขภาพ (Health Station
Check) ดังนี้
- เครื่องวัดความดันอัตโนมัติแบบพกพา
- สายวัดรอบเอวแบ่งเกณฑ์ความเสี่ยง
- แถบตรวจน้ำตาลในเลือดแบบปลายนิ้ว
- เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดปลายนิ้ว
- เข็มสำหรับเจาะปลายนิ้ว
- เครื่องชั่งน้ำหนัก
- ที่วัดส่วนสูง
- โต๊ะขนาดไม่น้อยกว่า 60*120 เซนติเมตร
- เก้าอี้มีพนักพิงสำหรับนั่งวัดความดันโลหิต
- ปลั๊กพ่วงสำหรับต่อไฟกับเครื่องวัดความดัน/ชั่งน้าหนัก
- ค่าไวนิลสื่อความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อและปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อ
- ค่าป้ายไวนิลโครงการ แสดง “จุดบริการตรวจเช็คสุขภาพด้วยตนเอง Health station
check” - QR Code แสดง application ในการประมวลผลการคัดกรอง และเชื่อมต่อข้อมูล
กับหน่วยบริการสาธารณสุข (NCD Application) - บริการ WI-FI
3. เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ในการตั้งจุดบริการ มีป้ายสื่อสารข้อมูลวิธีการวัดความดัน การวัดรอบเอว การวัดออกชิเจนในเลือด การวัดน้ำตาลในเลือด มีรายละเอียดการแปรผลติดไว้ที่จุดบริการ มีการจัดเวรให้บริการ มอบหมายให้ อสม. 1 - 2 ราย อยู่ประจำจุดบริการในระยะแรกเพื่อแนะนำการใช้บริการอุปกรณ์และการ ลงทะเบียนกรอกข้อมูล
4. ประชาสัมพันธ์ในการเข้าใช้บริการในจุดบริการ Health station check ผ่านเสียงตามสายของชุมชน การประชุมประจำเดือนในชุมชน เช่น การประชาสัมพันธ์ของสำงานเทศบาลตำบลปาเสมัส โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปาเสมัส การจัดรายการวิทยุ และสื่อโซเชียลต่างๆ เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น กลุ่มวัยทำงาน (เป้าหมาย 5,000 คน) กลุ่มผู้สูงอายุ (เป้าหมาย 1,000 คน) และกลุ่มอื่นๆ
5. ดำเนินการบริการ Health station check โดยเมื่อมีผู้รับบริการที่ Health station check เจ้าหน้าที่ หรือ อสม. ที่ประจำจุดบริการ Health station check โดยมีการจัดตารางให้บริการในแต่ละวัน แนะนำการใช้อุปกรณ์ เช่น การวัดความดัน การชั่งน้ำหนัก การวัด รอบเอว การเจาะเลือด ประเมินค่าน้ำตาล และให้ผู้รับบริการทำการลงทะเบียน กรอกข้อมูลทางสุขภาพที่ประเมินได้ เข้าไปใน TAK NCD Application (ในกรณีที่พบว่าดัชนีสุขภาพมี ปัญหาและมีความรุนแรง หรือเป็นภาวะฉุกเฉิน สามารถปรึกษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทันที หรือ ประสานเรียก 1669) จะมีการแปลผลในระดับต่างๆ ตามดัชนีสุขภาพที่กรอกลงไป และทำการประมวลผล โดยแบ่งการประมวลผลเป็น 4 กลุ่มดังนี้
• กลุ่มปกติ
• กลุ่มเสี่ยงต่ำ
• กลุ่มเสี่ยงสูง
• กลุ่มสงสัยป่วย
ในกรณีที่พบว่า มีความเสี่ยงสูง และสงสัยป่วย เจ้าหน้าที่หรือบุคลากรทางสุขภาพจะทำการติดตาม เพื่อ ประเมินและนัดหมายเข้ารับบริการในสถานบริการสุขภาพต่อไป
6. บุคลากรทางสุขภาพดำเนินการติดตามข้อมูล/ผู้รับบริการที่มีความเสี่ยง เข้าสู่ระบบการดูแล และ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
7. นำผลการติดตาม มาวิเคราะห์และเรียบเรียงในกลุ่มภาวะสุขภาพต่างๆ ว่าได้รับการติดตามปรับเปลี่ยน พฤติกรรม แล้วมีผลทางด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยติดตามประเมินผลภายใน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน
(2,4,5,8)
2. จัดเตรียมวัสดุครุภัณฑ์ประกอบการดำเนินงานในจุดบริการ สถานีรักษ์สุขภาพ (Health Station
Check) ดังนี้
- เครื่องวัดความดันอัตโนมัติแบบพกพา
- สายวัดรอบเอวแบ่งเกณฑ์ความเสี่ยง
- แถบตรวจน้ำตาลในเลือดแบบปลายนิ้ว
- เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดปลายนิ้ว
- เข็มสำหรับเจาะปลายนิ้ว
- เครื่องชั่งน้ำหนัก
- ที่วัดส่วนสูง
- โต๊ะขนาดไม่น้อยกว่า 60*120 เซนติเมตร
- เก้าอี้มีพนักพิงสำหรับนั่งวัดความดันโลหิต
- ปลั๊กพ่วงสำหรับต่อไฟกับเครื่องวัดความดัน/ชั่งน้าหนัก
- ค่าไวนิลสื่อความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อและปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อ
- ค่าป้ายไวนิลโครงการ แสดง “จุดบริการตรวจเช็คสุขภาพด้วยตนเอง Health station
check” - QR Code แสดง application ในการประมวลผลการคัดกรอง และเชื่อมต่อข้อมูล
กับหน่วยบริการสาธารณสุข (NCD Application) - บริการ WI-FI
3. เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ในการตั้งจุดบริการ มีป้ายสื่อสารข้อมูลวิธีการวัดความดัน การวัดรอบเอว การวัดออกชิเจนในเลือด การวัดน้ำตาลในเลือด มีรายละเอียดการแปรผลติดไว้ที่จุดบริการ มีการจัดเวรให้บริการ มอบหมายให้ อสม. 1 - 2 ราย อยู่ประจำจุดบริการในระยะแรกเพื่อแนะนำการใช้บริการอุปกรณ์และการ ลงทะเบียนกรอกข้อมูล
4. ประชาสัมพันธ์ในการเข้าใช้บริการในจุดบริการ Health station check ผ่านเสียงตามสายของชุมชน การประชุมประจำเดือนในชุมชน เช่น การประชาสัมพันธ์ของสำงานเทศบาลตำบลปาเสมัส โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปาเสมัส การจัดรายการวิทยุ และสื่อโซเชียลต่างๆ เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น กลุ่มวัยทำงาน (เป้าหมาย 5,000 คน) กลุ่มผู้สูงอายุ (เป้าหมาย 1,000 คน) และกลุ่มอื่นๆ
5. ดำเนินการบริการ Health station check โดยเมื่อมีผู้รับบริการที่ Health station check เจ้าหน้าที่ หรือ อสม. ที่ประจำจุดบริการ Health station check โดยมีการจัดตารางให้บริการในแต่ละวัน แนะนำการใช้อุปกรณ์ เช่น การวัดความดัน การชั่งน้ำหนัก การวัด รอบเอว การเจาะเลือด ประเมินค่าน้ำตาล และให้ผู้รับบริการทำการลงทะเบียน กรอกข้อมูลทางสุขภาพที่ประเมินได้ เข้าไปใน TAK NCD Application (ในกรณีที่พบว่าดัชนีสุขภาพมี ปัญหาและมีความรุนแรง หรือเป็นภาวะฉุกเฉิน สามารถปรึกษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทันที หรือ ประสานเรียก 1669) จะมีการแปลผลในระดับต่างๆ ตามดัชนีสุขภาพที่กรอกลงไป และทำการประมวลผล โดยแบ่งการประมวลผลเป็น 4 กลุ่มดังนี้
• กลุ่มปกติ
• กลุ่มเสี่ยงต่ำ
• กลุ่มเสี่ยงสูง
• กลุ่มสงสัยป่วย
ในกรณีที่พบว่า มีความเสี่ยงสูง และสงสัยป่วย เจ้าหน้าที่หรือบุคลากรทางสุขภาพจะทำการติดตาม เพื่อ ประเมินและนัดหมายเข้ารับบริการในสถานบริการสุขภาพต่อไป
6. บุคลากรทางสุขภาพดำเนินการติดตามข้อมูล/ผู้รับบริการที่มีความเสี่ยง เข้าสู่ระบบการดูแล และ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
7. นำผลการติดตาม มาวิเคราะห์และเรียบเรียงในกลุ่มภาวะสุขภาพต่างๆ ว่าได้รับการติดตามปรับเปลี่ยน พฤติกรรม แล้วมีผลทางด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยติดตามประเมินผลภายใน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน
ผลลัพท์: • เครื่องวัดความดันอัตโนมัติแบบพกพา จำนวน 4 เครื่องๆละ 3,000 บาท เป็นเงิน 12,000 บาท
• เครื่องชั่งน้ำหนักแบบเข็ม จำนวน 4 เครื่องๆละ 1,900 บาท เป็นเงิน 7,600 บาท
• แผ่นตรวจน้ำตาลในเลือด จำนวน 20 กล่องๆละ 890 บาท เป็นเงิน 17,800 บาท
• เข็มเจาะเลือด จำนวน 20 กล่องๆละ 200 บาท เป็นเงิน 4,000 บาท
• เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด จำนวน 4 เครื่องๆละ 3,000 บาท เป็นเงิน 12,000 บาท
• โต๊ะขนาด กว้าง 60 ซม. ยาว 120 ซม. สูง 75 ซม.
จำนวน 4 ตัวๆละ 2,000 บาท เป็นเงิน 8,000 บาท
• เก้าอี้พลาสติกสำหรับนั่ง จำนวน 8 ตัวๆละ 300 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท
• ปลั๊กไฟพ่วงสำหรับต่อไฟ จำนวน 4 อันๆละ 300 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
• ชุดอุปกรณ์สื่อความรู้โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
วงล้อประเมินค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
จำนวน 4 อันๆละ 1,490 บาท เป็นเงิน 5,960 บาท
วงล้อเกณฑ์ความเสี่ยงโรคความดันและโรคเบาหวาน
จำนวน 4 อันๆละ 1,490 บาท เป็นเงิน 5,960 บาท
สายวัดรอบเอวแบบตลับ จำนวน 4 อันๆละ 90 บาท เป็นเงิน 360 บาท
ที่วัดส่วนสูงแบบพกพา จำนวน 4 อันๆละ 390 บาท เป็นเงิน 1,560 บาท
ชุดขาตั้งแบบ X- Stand โรคเบาหวาน
จำนวน 4 ชุดๆละ 1,390 บาท เป็นเงิน 5,560 บาท
ชุดขาตั้งแบบ X- Stand โรคความดันโลหิตสูง
จำนวน 4 ชุดๆละ 1,390 บาท เป็นเงิน 5,560 บาท
• ป้ายไวนิล แสดง “จุดบริการตรวจเช็คสุขภาพด้วยตนเอง Health station check” - QR Code
ขนาด 1.5×2 เมตร จำนวน 4 แผ่นๆละ 750 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
• กล่องพลาสติกสำหรับใส่เก็บอุปกรณ์ จำนวน 4 กล่องๆละ 300 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
รวมเป็นเงิน 94,160 บาท (เก้าหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยหกสิบบาทถ้วน)
• เครื่องชั่งน้ำหนักแบบเข็ม จำนวน 4 เครื่องๆละ 1,900 บาท เป็นเงิน 7,600 บาท
• แผ่นตรวจน้ำตาลในเลือด จำนวน 20 กล่องๆละ 890 บาท เป็นเงิน 17,800 บาท
• เข็มเจาะเลือด จำนวน 20 กล่องๆละ 200 บาท เป็นเงิน 4,000 บาท
• เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด จำนวน 4 เครื่องๆละ 3,000 บาท เป็นเงิน 12,000 บาท
• โต๊ะขนาด กว้าง 60 ซม. ยาว 120 ซม. สูง 75 ซม.
จำนวน 4 ตัวๆละ 2,000 บาท เป็นเงิน 8,000 บาท
• เก้าอี้พลาสติกสำหรับนั่ง จำนวน 8 ตัวๆละ 300 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท
• ปลั๊กไฟพ่วงสำหรับต่อไฟ จำนวน 4 อันๆละ 300 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
• ชุดอุปกรณ์สื่อความรู้โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
วงล้อประเมินค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
จำนวน 4 อันๆละ 1,490 บาท เป็นเงิน 5,960 บาท
วงล้อเกณฑ์ความเสี่ยงโรคความดันและโรคเบาหวาน
จำนวน 4 อันๆละ 1,490 บาท เป็นเงิน 5,960 บาท
สายวัดรอบเอวแบบตลับ จำนวน 4 อันๆละ 90 บาท เป็นเงิน 360 บาท
ที่วัดส่วนสูงแบบพกพา จำนวน 4 อันๆละ 390 บาท เป็นเงิน 1,560 บาท
ชุดขาตั้งแบบ X- Stand โรคเบาหวาน
จำนวน 4 ชุดๆละ 1,390 บาท เป็นเงิน 5,560 บาท
ชุดขาตั้งแบบ X- Stand โรคความดันโลหิตสูง
จำนวน 4 ชุดๆละ 1,390 บาท เป็นเงิน 5,560 บาท
• ป้ายไวนิล แสดง “จุดบริการตรวจเช็คสุขภาพด้วยตนเอง Health station check” - QR Code
ขนาด 1.5×2 เมตร จำนวน 4 แผ่นๆละ 750 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท
• กล่องพลาสติกสำหรับใส่เก็บอุปกรณ์ จำนวน 4 กล่องๆละ 300 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท
รวมเป็นเงิน 94,160 บาท (เก้าหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยหกสิบบาทถ้วน)
จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขในหมู่บ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหมด 100 คน แบ่งออกเป็น 2 รุ่นๆละ 50 คน /รุ่นละ 1 วัน @โครงการสถานีรักษ์สุขภาพในหมู่บ้าน (Health Station check) ปีงบประมาณ 2567
1. คัดเลือกจุดจัดตั้ง สถานีรักษ์สุขภาพ (Health Station Check) ในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 4 หมู่บ้าน
(2,4,5,8)
2. จัดเตรียมวัสดุครุภัณฑ์ประกอบการดำเนินงานในจุดบริการ สถานีรักษ์สุขภาพ (Health Station
Check) ดังนี้
- เครื่องวัดความดันอัตโนมัติแบบพกพา
- สายวัดรอบเอวแบ่งเกณฑ์ความเสี่ยง
- แถบตรวจน้ำตาลในเลือดแบบปลายนิ้ว
- เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดปลายนิ้ว
- เข็มสำหรับเจาะปลายนิ้ว
- เครื่องชั่งน้ำหนัก
- ที่วัดส่วนสูง
- โต๊ะขนาดไม่น้อยกว่า 60*120 เซนติเมตร
- เก้าอี้มีพนักพิงสำหรับนั่งวัดความดันโลหิต
- ปลั๊กพ่วงสำหรับต่อไฟกับเครื่องวัดความดัน/ชั่งน้าหนัก
- ค่าไวนิลสื่อความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อและปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อ
- ค่าป้ายไวนิลโครงการ แสดง “จุดบริการตรวจเช็คสุขภาพด้วยตนเอง Health station
check” - QR Code แสดง application ในการประมวลผลการคัดกรอง และเชื่อมต่อข้อมูล
กับหน่วยบริการสาธารณสุข (NCD Application) - บริการ WI-FI
3. เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ในการตั้งจุดบริการ มีป้ายสื่อสารข้อมูลวิธีการวัดความดัน การวัดรอบเอว การวัดออกชิเจนในเลือด การวัดน้ำตาลในเลือด มีรายละเอียดการแปรผลติดไว้ที่จุดบริการ มีการจัดเวรให้บริการ มอบหมายให้ อสม. 1 - 2 ราย อยู่ประจำจุดบริการในระยะแรกเพื่อแนะนำการใช้บริการอุปกรณ์และการ ลงทะเบียนกรอกข้อมูล
4. ประชาสัมพันธ์ในการเข้าใช้บริการในจุดบริการ Health station check ผ่านเสียงตามสายของชุมชน การประชุมประจำเดือนในชุมชน เช่น การประชาสัมพันธ์ของสำงานเทศบาลตำบลปาเสมัส โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปาเสมัส การจัดรายการวิทยุ และสื่อโซเชียลต่างๆ เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น กลุ่มวัยทำงาน (เป้าหมาย 5,000 คน) กลุ่มผู้สูงอายุ (เป้าหมาย 1,000 คน) และกลุ่มอื่นๆ
5. ดำเนินการบริการ Health station check โดยเมื่อมีผู้รับบริการที่ Health station check เจ้าหน้าที่ หรือ อสม. ที่ประจำจุดบริการ Health station check โดยมีการจัดตารางให้บริการในแต่ละวัน แนะนำการใช้อุปกรณ์ เช่น การวัดความดัน การชั่งน้ำหนัก การวัด รอบเอว การเจาะเลือด ประเมินค่าน้ำตาล และให้ผู้รับบริการทำการลงทะเบียน กรอกข้อมูลทางสุขภาพที่ประเมินได้ เข้าไปใน TAK NCD Application (ในกรณีที่พบว่าดัชนีสุขภาพมี ปัญหาและมีความรุนแรง หรือเป็นภาวะฉุกเฉิน สามารถปรึกษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทันที หรือ ประสานเรียก 1669) จะมีการแปลผลในระดับต่างๆ ตามดัชนีสุขภาพที่กรอกลงไป และทำการประมวลผล โดยแบ่งการประมวลผลเป็น 4 กลุ่มดังนี้
• กลุ่มปกติ
• กลุ่มเสี่ยงต่ำ
• กลุ่มเสี่ยงสูง
• กลุ่มสงสัยป่วย
ในกรณีที่พบว่า มีความเสี่ยงสูง และสงสัยป่วย เจ้าหน้าที่หรือบุคลากรทางสุขภาพจะทำการติดตาม เพื่อ ประเมินและนัดหมายเข้ารับบริการในสถานบริการสุขภาพต่อไป
6. บุคลากรทางสุขภาพดำเนินการติดตามข้อมูล/ผู้รับบริการที่มีความเสี่ยง เข้าสู่ระบบการดูแล และ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
7. นำผลการติดตาม มาวิเคราะห์และเรียบเรียงในกลุ่มภาวะสุขภาพต่างๆ ว่าได้รับการติดตามปรับเปลี่ยน พฤติกรรม แล้วมีผลทางด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยติดตามประเมินผลภายใน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน
(2,4,5,8)
2. จัดเตรียมวัสดุครุภัณฑ์ประกอบการดำเนินงานในจุดบริการ สถานีรักษ์สุขภาพ (Health Station
Check) ดังนี้
- เครื่องวัดความดันอัตโนมัติแบบพกพา
- สายวัดรอบเอวแบ่งเกณฑ์ความเสี่ยง
- แถบตรวจน้ำตาลในเลือดแบบปลายนิ้ว
- เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดปลายนิ้ว
- เข็มสำหรับเจาะปลายนิ้ว
- เครื่องชั่งน้ำหนัก
- ที่วัดส่วนสูง
- โต๊ะขนาดไม่น้อยกว่า 60*120 เซนติเมตร
- เก้าอี้มีพนักพิงสำหรับนั่งวัดความดันโลหิต
- ปลั๊กพ่วงสำหรับต่อไฟกับเครื่องวัดความดัน/ชั่งน้าหนัก
- ค่าไวนิลสื่อความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อและปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อ
- ค่าป้ายไวนิลโครงการ แสดง “จุดบริการตรวจเช็คสุขภาพด้วยตนเอง Health station
check” - QR Code แสดง application ในการประมวลผลการคัดกรอง และเชื่อมต่อข้อมูล
กับหน่วยบริการสาธารณสุข (NCD Application) - บริการ WI-FI
3. เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ในการตั้งจุดบริการ มีป้ายสื่อสารข้อมูลวิธีการวัดความดัน การวัดรอบเอว การวัดออกชิเจนในเลือด การวัดน้ำตาลในเลือด มีรายละเอียดการแปรผลติดไว้ที่จุดบริการ มีการจัดเวรให้บริการ มอบหมายให้ อสม. 1 - 2 ราย อยู่ประจำจุดบริการในระยะแรกเพื่อแนะนำการใช้บริการอุปกรณ์และการ ลงทะเบียนกรอกข้อมูล
4. ประชาสัมพันธ์ในการเข้าใช้บริการในจุดบริการ Health station check ผ่านเสียงตามสายของชุมชน การประชุมประจำเดือนในชุมชน เช่น การประชาสัมพันธ์ของสำงานเทศบาลตำบลปาเสมัส โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปาเสมัส การจัดรายการวิทยุ และสื่อโซเชียลต่างๆ เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เช่น กลุ่มวัยทำงาน (เป้าหมาย 5,000 คน) กลุ่มผู้สูงอายุ (เป้าหมาย 1,000 คน) และกลุ่มอื่นๆ
5. ดำเนินการบริการ Health station check โดยเมื่อมีผู้รับบริการที่ Health station check เจ้าหน้าที่ หรือ อสม. ที่ประจำจุดบริการ Health station check โดยมีการจัดตารางให้บริการในแต่ละวัน แนะนำการใช้อุปกรณ์ เช่น การวัดความดัน การชั่งน้ำหนัก การวัด รอบเอว การเจาะเลือด ประเมินค่าน้ำตาล และให้ผู้รับบริการทำการลงทะเบียน กรอกข้อมูลทางสุขภาพที่ประเมินได้ เข้าไปใน TAK NCD Application (ในกรณีที่พบว่าดัชนีสุขภาพมี ปัญหาและมีความรุนแรง หรือเป็นภาวะฉุกเฉิน สามารถปรึกษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทันที หรือ ประสานเรียก 1669) จะมีการแปลผลในระดับต่างๆ ตามดัชนีสุขภาพที่กรอกลงไป และทำการประมวลผล โดยแบ่งการประมวลผลเป็น 4 กลุ่มดังนี้
• กลุ่มปกติ
• กลุ่มเสี่ยงต่ำ
• กลุ่มเสี่ยงสูง
• กลุ่มสงสัยป่วย
ในกรณีที่พบว่า มีความเสี่ยงสูง และสงสัยป่วย เจ้าหน้าที่หรือบุคลากรทางสุขภาพจะทำการติดตาม เพื่อ ประเมินและนัดหมายเข้ารับบริการในสถานบริการสุขภาพต่อไป
6. บุคลากรทางสุขภาพดำเนินการติดตามข้อมูล/ผู้รับบริการที่มีความเสี่ยง เข้าสู่ระบบการดูแล และ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
7. นำผลการติดตาม มาวิเคราะห์และเรียบเรียงในกลุ่มภาวะสุขภาพต่างๆ ว่าได้รับการติดตามปรับเปลี่ยน พฤติกรรม แล้วมีผลทางด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยติดตามประเมินผลภายใน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน
ผลลัพท์: กิจกรรมที่ 1 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขในหมู่บ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งหมด 100 คน แบ่งออกเป็น 2 รุ่นๆละ 50 คน /รุ่นละ 1 วัน ดังนี้
1. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 50 คนๆละ 2 มื้อๆละ 35 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 7,000 บาท
2. ค่าอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 50 คนๆละ 1 มื้อๆละ 80 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 8,000 บาท
3. ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยาย
จำนวน 1 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆละ 600 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 3,600 บาท
4. ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่ม
จำนวน 4 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆละ 400 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 9,600 บาท
5. ค่าแฟ้มใสติดกระดุม จำนวน 80 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 800 บาท
6. ค่าปากกา จำนวน 80 ด้ามๆละ 5 บาท เป็นเงิน 400 บาท
7. ค่าสมุด จำนวน 80 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 800 บาท
8. ค่าป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ ขนาดกว้าง 1×2 เมตร
จำนวน 1 แผ่นๆละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
รวมเป็นเงิน 30,700 บาท (สามหมื่นเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
รวมทั้งหมด 100 คน แบ่งออกเป็น 2 รุ่นๆละ 50 คน /รุ่นละ 1 วัน ดังนี้
1. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 50 คนๆละ 2 มื้อๆละ 35 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 7,000 บาท
2. ค่าอาหารกลางวันสำหรับผู้เข้ารับการอบรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 50 คนๆละ 1 มื้อๆละ 80 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 8,000 บาท
3. ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยาย
จำนวน 1 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆละ 600 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 3,600 บาท
4. ค่าสมนาคุณวิทยากรกลุ่ม
จำนวน 4 คนๆละ 3 ชั่วโมงๆละ 400 บาท จำนวน 2 รุ่น เป็นเงิน 9,600 บาท
5. ค่าแฟ้มใสติดกระดุม จำนวน 80 อันๆละ 10 บาท เป็นเงิน 800 บาท
6. ค่าปากกา จำนวน 80 ด้ามๆละ 5 บาท เป็นเงิน 400 บาท
7. ค่าสมุด จำนวน 80 เล่มๆละ 10 บาท เป็นเงิน 800 บาท
8. ค่าป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ ขนาดกว้าง 1×2 เมตร
จำนวน 1 แผ่นๆละ 500 บาท เป็นเงิน 500 บาท
รวมเป็นเงิน 30,700 บาท (สามหมื่นเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
project version 4.4.01 release 2022-02-13. ช่วยเหลือ