ธรรมชาติ สุขภาพ บำบัด
ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลร่มเมือง ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมตาม โครงการธรรมชาติ สุขภาพบำบัด โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลร่มเมือง จำนวน 30,000 บาท โดยมีเป้าหมายคือผู้สูงอายุ จำนวน 80 คน มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิถีชีวิตมิติสุขภาพ
2. เพื่อเรียนรู้วิธีฟื้นฟูสุขภาพกายสุขภาพใจ ด้วยวิธีบำบัดธรรมชาติ
3. เพื่อเสริมสร้าง กระตุ้น การดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง
4. เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมด้านสุขภาวะในวัยผู้สูงอายุ
ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 89 คน โดยเดินทางตามหมายกำหนดการ ดังนี้
เวลา กิจกรรม
๐๗.๓๐ น. ลงทะเบียน ณ สำนักงานเทศบาลตำบลร่มเมือง
๐๘.๐๐ น. รถเคลื่อนออกจาก ทต.ร่มเมือง เส้นทางถนนท่านช่วย – ทุ่งนาชี แยกขวาไปยัง
สมหวังไสแกระ ไปน้ำตกเขาคราม ชมปลาหวด เข้าสู่ การเรียนรู้ ฐานที่ 1 มัจฉาบำบัด
10.00 น. รับประทานอาหารว่าง
10.15 น. ออกจากน้ำตกเขาคราม ไปสายน้ำมีชีวิตบ้านขาม เข้าสู่ การเรียนรู้ ฐานที่ 2 วารีบำบัด
๑1.3๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ สายน้ำมีชีวิตบ้านขาม
๑2.๓๐น. ออกจากสายน้ำมีชีวิตบ้านขาม ไปยัง โรงคั่วกาแฟบ้านวงศ์ ต.บ้านนา เข้าสู่ การเรียนรู้
ฐานที่ 3 กลิ่นบำบัด
๑๒.๐๐ น. - รับประทานอาหารกลางวัน (จากข้าวห่อที่ทุกท่านนำไปเอง) ที่วัดเขียนบางแก้ว
๑4.0๐ น. ออกจากโรงคั่วกาแฟบ้างวงศ์ ต.บ้านนา ไปยังอุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง ต.ลำสินธุ์
รำลึกความทรงจำ และถอดบทเรียน ฐานความรู้ ทั้ง 3 ฐาน
๑4.๓๐ น. รับประทานอาหารว่าง
14.45 น. นำเสนอและรายงานผลการเรียนรู้
๑๖.0๐ น. เดินทางกลับเทศบาลตำบลร่มเมือง
ฐานที่ 1 มัจฉาบำบัดโดยปลาหวด ณ น้ำตกเขาคราม มีวิทยากร คือ นายคำน้อย หนูแสง ซึ่งน้ำตกเขาคราม อยู่ในท้องที่หมู่ที่ ๑๐ ตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม อีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นแหล่งน้ำซับขนาดใหญ่และไหลลดหลั่นลงมาเป็นแอ่งน้ำ มีความสวยงามมาก และที่น้ำตกเขาคราม มีการอนุรักษ์ปลาหวดไว้เป็นจำนวนมาก ปลาหวด หรือ ปลาพลวง หรือชาวบ้านเรียกว่าปลาภูเขานั้น เป็นปลามีรสชาติอร่อย โดยเฉพาะหากนำไปแกงเหลือง (แกงส้ม) แกงเผ็ดนั้นจะอร่อยมาก โดยปลาหวดในช่วงหน้าฝนจะมีไข่ทุกๆ ตัว บางแห่งก็นำพุงปลาไปทำเป็นแกงไตปลา ซึ่งความอร่อยก็ไม่แพ้แกงเหลือง (แกงส้ม) สำหรับปลาหวด (ปลาพลวง) หรือปลาภูเขานั้น เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด สำหรับในพื้นที่ จ.พัทลุง นั้น มีการจัดทำเขตอนุรักษ์ ไม่ให้ผู้ใดเข้ามาจับปลาดังกล่าว จำนวน 4 แห่ง คือ พื้นที่บริเวณน้ำตกไพรวัลย์ น้ำตกโตปากราง อ.กงหรา และพื้นที่บริเวณน้ำตกเขาคราม น้ำตกโตนแพรทอง อ.ศรีนครินทร์ โดยฝูงปลาดังกล่าวจะอาศัยอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น และเมื่อผู้สูงอายุตำบลร่มเมืองได้เข้ามาสัมผัสกับธรรมชาติ ได้นั่งหย่อนเท้าลงในน้ำตก ก็จะมีปลาเข้ามาตอดที่เท้า เป็นการตอดเอาผิวหนังที่เสียออกไป และกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทใต้ฝ่าเท้า กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกสดชื่น เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศวิถีธรรมชาติ ที่มีอากาศบริสุทธิ์ มีสายน้ำไหล สงบ ร่มรื่น ผู้สูงอายุมีความรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ
ฐานที่ 2 วารีบำบัด โดยการเหยียบทรายอ่อนนวดฝ่าเท้า และแกว่งน้ำในน้ำ ณ สายน้ำมีชีวิตบ้านขาม มีวิทยากร คือ นายนิกร มีบุญเอียด ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้เล่าว่า ธรรมชาติท่ามกลางป่าเขา เป็นที่ซ่อนตัวของคลองบ้านขามใน ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ที่รับน้ำมาจากป่าต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด ปัจจุบันเป็นชุมชนท่องเที่ยว 1 ใน 10 ของแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ของจังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนจำนวนมาก จุดเด่นของคลองบ้านขามคือ น้ำใสสะอาด ทรายขาว มีฝูงปลาจำนวนมาก น้ำไม่ลึก เด็กๆ และผู้สูงอายุ เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย มีฐานผจญภัย เช่น โหนเชือก ไต่เชือก รวมทั้งกองดินเหนียวริมคลองขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าสไลเดอร์บ้านขาม ก็เป็นอีกของเล่นยอดนิยม ซึ่งที่สายน้ำมีชีวิตบ้านขามแห่งนี้ จะมีการไหลของน้ำนำพาทรายอ่อนมาอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อผู้สูงอายุตำบลร่มเมือง ได้เดินเท้าเปล่าลงไปในน้ำ ได้เหยียบทรายอ่อนก็จะรู้สึกผ่อนคลาย สบายเท้า และยังมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถนั่งแกว่งเท้าในน้ำคลอง เพื่อเป็นการผ่อนคลาย บำบัดจิตใจได้ดีอีกด้วย
ฐานที่ 3 กลิ่นบำบัด ณ โรงคั่วกาแฟบ้านป่า ซึ่งตั้งอยู่ตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ ขับรถตรงมาจากพัทลุงมุ่งหน้าสู่จังหวัดตรัง จะอยู่ซ้ายมือ เข้าซอยมาทางเดียวกันกับบ้านหน้าเกาะบลิสฟูล รีสอร์ท ทางเข้าจะมีป้ายบอกตลอดทาง ที่นี่ผู้สูงอายุจะได้ทำการทดลองคั่วเมล็ดกาแฟโรบัสต้าด้วยตนเอง และได้สูดดมกลิ่นจากการคั่วเมล็ดกาแฟสด จะทำให้รู้สึกสดชื่น มีอารมณ์ดี รู้สึกผ่อนคลาย เป็นการใช้กลิ่นกาแฟคั่วสดในการบำบัดจิต อีกทั้งการดื่มกาแฟยังมีประโยชน์มากมายดังนี้
1. ลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่ว
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปี 2002 เผยว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลงประมาณ 25% เช่นเดียวกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ผู้ชายที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้ด้วย
2. กาแฟช่วยลดความเครียด
คนที่ดื่มกาแฟประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน จะลดความเครียดได้ประมาณ 15 % แต่หากดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน จะสามารถลดความเครียดได้ถึง 20% เลยทีเดียว
3. ช่วยกระตุ้นความจำ
ผลการวิจัยจากภาครังสีวิทยาของอเมริกาเหนือกล่าวว่า หากดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน จะสามารถพัฒนาความจำ และปฏิกิริยาตอบโต้ได้ดีขึ้น สอดคล้องกับการวิจัยของอีกสถาบันหนึ่งที่บอกว่า ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป หากดื่มกาแฟมากกว่า 3 แก้วต่อวัน จะมีความจำที่ดีขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ หรือดื่มกาแฟน้อยกว่านี้
ส่วนมหาวิทยาลัยเซาท์ฟรอริด้าก็เผยว่า คนอายุล่วงเข้าวัยกลางคน ควรดื่มกาแฟประมาณ 4-5 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมน GCSF สารที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ด้วย
4. รอดจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2
จากการศึกษาของภาคการเกษตรและเคมีอาหารของสหรัฐอเมริกา ทำให้ทราบว่า นักดื่มกาแฟตัวยง จะมีโอกาสรอดพ้นจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ประมาณ 50% เนื่องจากคาเฟอีนมีคุณสมบัติช่วยยับยั้ง hIAPP และโพลีเปปไทด์ ตัวการก่อให้เกิดโปรตีนผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั่นเอง
5. ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่า การดื่มกาแฟวันละ 2-5 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับได้ด้วย โดยประสิทธิภาพของคาเฟอีน จะช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ และกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับได้ในระดับหนึ่ง
6. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ
มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า คาเฟอีนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม และอาจจะทำให้น้ำหนักคุณลดลงได้ แต่ล่าสุดผลการวิจัยเมื่อปี 2006 เพิ่งจะได้ข้อสรุปว่า คาเฟอีนในเมล็ดกาแฟสดคั่วบด มีผลกับการลดน้ำหนักในผู้หญิงได้จริง และสามารถลดน้ำหนักเฉลี่ยได้ 7.7 กิโลกรัมภายใน 22 สัปดาห์
7. ลดความเสี่ยงเป็นโรคพาคินสัน
สถาบันการแพทย์อเมริกันได้ทำการวิจัยและพบว่า คาเฟอีนในกาแฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงเป็นโรคพาคินสัน โดยผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้วเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคพาคินสันได้ถึง 25%
8. ปลุกความตื่นตัวได้ในทันที
คาเฟอีนมีคุณสมบัติไม่ต่างจากสารกระตุ้นดี ๆ ชนิดหนึ่ง ที่สามารถปลุกความตื่นตัวให้กับร่างกายที่อ่อนล้า หรืออ่อนเพลียได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ยืนยันด้วยการทดลองกับนักกีฬากลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ดื่มกาแฟระหว่างที่ฝึกซ้อม และพบว่า นักกีฬากลุ่มที่ดื่มกาแฟจะสามารถฝึกซ้อมกีฬาได้นานขึ้น เรียกได้ว่ามีความอึดมากกว่าเดิมนั่นเอง โดยความคึกคักที่เกิดขึ้นจะมีระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
9. ลดโอกาสเป็นโรคเกาต์
สำหรับคนที่กลัวจะเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แนะนำให้ดื่มกาแฟประมาณ 3-6 แก้วต่อวันอย่างต่อเนื่อง เพราะผลการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งหนึ่งยืนยันแล้วว่า คาเฟอีนมีส่วนช่วยบรรเทาการอักเสบของข้อ เนื่องมาจากกรดยูริกที่เกินขนาดอย่างได้ผล และคนที่ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ได้ถึง 60%
แต่อย่างไรก็ดี เพื่อสุขภาพ ก็ควรดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำตาล นม และครีมเทียมน้อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ และที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ