แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เปาะเส้ง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เปาะเส้ง
องค์กรสตรีตำบลเปาะเส้ง
ตำบลเปาะเส้ง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/07/2023
กำหนดเสร็จ 30/09/2023
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
จากงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลเปาะเส้ง จำนวน 16,495 บาทตามรายละเอียดดังนี้
- ค่าป้ายไวนิล (ป้ายโครงการขนาด 1.5x 3 เมตร) เป็นเงิน1,125 บาท
- ค่าวิทยากร 6 ชั่วโมง ๆ ละ 600 บาท วิทยากร 2 คน เป็นเงิน7,200 บาท
- ค่าแฟ้มใส่เอกสาร จำนวน 60 อันๆละ 15 บาท เป็นเงิน900 บาท
- ค่าสมุดจำนวน 60 เล่มๆละ 5 บาท เป็นเงิน300 บาท
- ค่าปากกา จำนวน60 ด้ามๆละ 5 บาท เป็นเงิน300 บาท
- ค่าอาหารว่าง จำนวน 60 คน ๆ ละ 2 มื้อๆ ละ 25 บาท เป็นเงิน3,000 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 60 คน ๆ ละ 1 มื้อๆ ละ 50 บาท เป็นเงิน3,000 บาท
- ปากกาเมจิก 15 แท่งๆละ 18 บาท เป็นเงิน270 บาท
- กระดาษชารจ์ 20 แผ่นๆละ20แผ่น เป็นเงิน400 บาท
หมายเหตุ...ทุกรายการสามารถถั่วเฉลี่ยกันได้
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัวและผลกระทบในเรื่องยาเสพติด
2. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยาเสพติด และทักษะในการปฏิเสธเพื่อหลีกเลี่ยงยาเสพติด
3. สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ไดรับเพิ่มเติมไปปรับใช้ในครอบครัวเพื่อป้องกัน ไม่ให้สมาชิกใน
ครอบครัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้
4. สามารถสร้างเครือข่ายครอบครัวในการเฝ้าระวงัยาเสพติดในชุมชน