แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลนาโหนด
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลนาโหนด
ชมรมทีมสุขภาพคลินิกเติมยา รพ.สต.บ้านต้นไทร
1.นางสุกัญญา ขำยา
2.นางหทัยพรดำฝ้าย
3.นายสมศักดิ์ปุรินทราภิบาล
4.นางจุไรนาคมิตร
5.นางทัตพิชา หวานศรี
ม.2,4,5,7,8,9,11 ตำบลนาโหนด
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
สถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรังของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทร ในปี 2566 จากกลุ่มเป้าหมายประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 2,654 คน ได้ดำเนินการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน จำนวน 2,538 คน คิดเป็นร้อยละ 95.6 พบกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 452 คน โดยมีกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง (ค่าความดันโลหิตอยู่ระหว่าง 120-139/80-89 mmhg.)จำนวน 231 คน กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง (ค่าความดันโลหิตมากกว่า 140/90 mmhg.)จำนวน 221 คน และพบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานจำนวน230 คน โดยมีกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน(ค่าน้ำตาลในเลือด 110 mg%)จำนวน203 คน กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน (ค่าน้ำตาลในเลือดเท่ากับหรือมากกว่า 126 mg%) จำนวน 27 คน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทร มีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคและขึ้นทะเบียนเป็นโรคเบาหวาน จำนวน 210 คน โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 509 คน ได้รับการส่งต่อมารับยาต่อเนื่องในหน่วยปฐมภูมิโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทร โรคเบาหวาน จำนวน 104 คน โรคความดันโลหิตสูง จำนวน 221คน รวมผู้ป่วยเรื้อรังรับยาต่อเนื่องในหน่วยปฐมภูมิโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทร จำนวน 325 คนจากข้อมูลประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป เมื่อคัดกรองพบภาวะเสี่ยง ควรได้รับความรู้ความเข้าใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเป็นป้องกันการเกิดโรคในกลุ่มเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเรื้อรัง ได้แก่ ภาวะไตวาย ภาวะจอประสาทตาเสื่อม ภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือด และในปีงบประมาณ 2566 ได้จัดทำโครงการฯปรับเปลี่ยนแต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายในการอบรมมากเกินทำให้คุณภาพในการติดตามการปรับเปลี่ยนน้อยมาก ในปีงบประมาณ 2567 จึงได้มีการดำเนินการวางแผนในการจัดอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองโดยกำหนดกลุ่มเสี่ยงหมู่บ้านละ 30 คน รวมท้ังหมด 7 หมู่บ้าน
ในการนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทร จึงได้จัดทำโครงการลดพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ปีงบประมาณ 2567ขึ้น โดยตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้นไปจำนวน 1,372 คน และจัดให้การอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในประชาชนกลุ่มเสี่ยงของแต่ละหมู่บ้านๆละ 30 คน รวมท้ังหมด 7 หมู่บ้านโดยให้ความรู้ความเข้าใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดอัตราการเกิดโรคในกลุ่มเสี่ยง ก่อนมีการรติดตามตรวจสุขภาพซ้ำ และมีการส่งต่อพบแพทย์ และขึ้นทะเบียนรับการรักษาตามระบบอย่างถูกต้องต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/05/2024
กำหนดเสร็จ 31/05/2024
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?จำนวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรอง ท้ังหมด 7 หมู่บ้านๆละ 30 คน รวมจำนวนกลุ่มเสี่ยง 210 คน ได้รับการอบรมเกี่ยวกับลดพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงอย่างถูกต้อง ร้อยละ 80(จำนวน 168 คน)
จำนวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรอง ท้ังหมด 7 หมู่บ้านๆละ 30 คน รวมจำนวนกลุ่มเสี่ยง 210 คนได้นำความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับลดพฤติกรรมเสี่ยงมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคที่ถูกต้อง ร้อยละ 80 (จำนวน 168 คน)
จำนวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรอง ท้ังหมด 7 หมู่บ้านๆละ 30 คน รวมจำนวนกลุ่มเสี่ยง 210 คนได้รับการติดตามตรวจสุขภาพซ้ำร้อยละ 80 (จำนวน 168 คน)
จำนวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรอง ท้ังหมด 7 หมู่บ้านๆละ 30 คน รวมจำนวนกลุ่มเสี่ยง 210 คนที่ได้รับการตรวจสุขภาพซ้ำและมีภาวะสงสัยป่วยได้รับการส่งต่อ
จำนวนประชาชนกลุ่มสงสัยป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคฯได้มีการขึ้นทะเบียนโรคฯและรักษาตามระบบทุกคน