แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสะเตงนอก
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสะเตงนอก
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก
ตำบลสะเตงนอก
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
งานสร้างเสริมภูมคุ้มกันโรค เป็นงานที่มีความสำคัญในการที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคและส่งเสริมสุขภาพพื้นฐานให้แก่ประชาชน ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ช่วยลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางทรัพยากรบุคคลและภาระค่าใช้จ่ายต่างๆในการดูแลรักษาผู้ป่วย ควบคุมการกระจายของโรค โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนอาจเกิดการระบาดได้ถ้าไม่สามารถให้วัคซีนได้ครอบคลุมเพียงพอ หรือให้ไม่ครบตามจำนวนครั้งที่กำหนด ภูมิคุ้มกันที่สร้างจากวัคซีนมีระดับลดลง เมื่อเวลาผ่านไปต้องได้รับการกระตุ้นซ้ำ และประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงได้จากปัจจัยต่างๆเช่น การเก็บรักษาวัคซีนไม่ได้มาตรฐาน เทคนิคการให้บริการหรือการฉีดวัคซีน เช่น ฉีดลึกหรื้อตื้นเกินไป เป็นต้น
จากการสำรวจเด็กในพื้นที่ ในส่วนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก พบเด็กอายุ 0 - 5 ปี ในปีงบ 2562 จำนวน 1,023 คน เด็กที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์อายุ จำนวน 913 คน คิดเป็นร้อยละ 89.24 ได้รับวัคซีนช้ากว่าเกณฑ์อายุ 85 คน คิดเป็นร้อยละ 8.30 เด็กที่ไม่ยินยอมมารับวัคซีนหรือบ่ายเบี่ยงการรับวัคซีน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 2.44ซึ่งพบว่ายังเป็นปัญหาในการดูแลสุขภาพของเด็ก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จึงจัดทำ โครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนในเด็ก 0- 5 ปี เพื่อให้การพัฒนางานสาธารณสุขของตำบลสะเตงนอก มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาและแนวโน้มสุขภาพอนามัยอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาในด้านอื่นฯอย่างต่อเนื่องต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
หลักการและเหตุผล
งานสร้างเสริมภูมคุ้มกันโรค เป็นงานที่มีความสำคัญในการที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคและส่งเสริมสุขภาพพื้นฐานให้แก่ประชาชน ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ช่วยลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางทรัพยากรบุคคลและภาระค่าใช้จ่ายต่างๆในการดูแลรักษาผู้ป่วย ควบคุมการกระจายของโรค โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนอาจเกิดการระบาดได้ถ้าไม่สามารถให้วัคซีนได้ครอบคลุมเพียงพอ หรือให้ไม่ครบตามจำนวนครั้งที่กำหนด ภูมิคุ้มกันที่สร้างจากวัคซีนมีระดับลดลง เมื่อเวลาผ่านไปต้องได้รับการกระตุ้นซ้ำ และประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงได้จากปัจจัยต่างๆเช่น การเก็บรักษาวัคซีนไม่ได้มาตรฐาน เทคนิคการให้บริการหรือการฉีดวัคซีน เช่น ฉีดลึกหรื้อตื้นเกินไป เป็นต้น
จากการสำรวจเด็กในพื้นที่ ในส่วนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก พบเด็กอายุ 0 - 5 ปี ในปีงบ 2562 จำนวน 1,023 คน เด็กที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์อายุ จำนวน 913 คน คิดเป็นร้อยละ 89.24 ได้รับวัคซีนช้ากว่าเกณฑ์อายุ 85 คน คิดเป็นร้อยละ 8.30 เด็กที่ไม่ยินยอมมารับวัคซีนหรือบ่ายเบี่ยงการรับวัคซีน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 2.44ซึ่งพบว่ายังเป็นปัญหาในการดูแลสุขภาพของเด็ก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จึงจัดทำ โครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนในเด็ก 0- 5 ปี เพื่อให้การพัฒนางานสาธารณสุขของตำบลสะเตงนอก มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาและแนวโน้มสุขภาพอนามัยอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาในด้านอื่นฯอย่างต่อเนื่องต่อไป
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 04/02/2019
กำหนดเสร็จ 30/09/2019
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้ปกครองตระหนักและเห็นความสำคัญในการได้รับวัคซีนตามเกณฑ์
2. เด็กอายุ 0-5 ปี ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ร้อยละ 95