แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น
แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปากน้ำ รหัส กปท. L5312
อำเภอละงู จังหวัดสตูล
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 16 (2) “ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10”
อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2562 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สารตะกั่วเป็นมลพิษในสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงสำหรับมนุษย์ โดยมีผลกระทบต่อทุกระบบของร่ายกาย หากได้รับปริมาณมากในวัยเด็กจะมีผลโดยตรงต่อระดับสติปัญญา สมองและระบบประสาทอย่างถาวรได้ โดยเฉพาะในเด็กปฐมวัยที่มีอายุน้อยกว่า 6 ขวบ ซึ่งนับเป็นช่วงสำคัญที่สุดของชีวิตที่มีการพัฒนาของสมอง(ราชวิทยาลัยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย,2553) สารตะกั่วเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีผลกระทบต่อระบบประสาททั้งประสาทส่วนกลางและรอบส่วนกลาง เกิดภาวะซีด มีผลต่อท่อไต เกิดความดันโลหิตสูง ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติในเพศชายทำให้เชื้ออสุจิลดลง หญิงตั้งครรภ์ที่มีระดับตะกั่วสะสมในร่างกายสูงจะส่งตะกั่วไปยังทารกและทางน้ำนมได้ โดยทั่วไปตะกั่วสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 2 ทางหลัก คือ ทางการหายใจและทางปาก สำหรับทางผิวหนังมักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ทำงานในปั๊มน้ำมันหรือช่างซ่อมเครื่องยนต์ โดยทั่วไปมนุษย์สามารถรับสัมผัสสารตะกั่ว จาก 2 แหล่งใหญ่ที่สำคัญคือ จากการประกอบอาชีพ และจากสิ่งแวดล้อม(อรพันธ์ : วีระศักดิ์, 2557)เกาะบูโหลน เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในกลางท้องทะเลอันดามันห่างจากฝั่งราว 22 กิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนชาวเลมากกว่าร้อยละ 90 มีครัวเรือนราว 50 หลังคาเรือน รวมประชากรประมาณ 200 คน โดยพบว่า มีประชาชนประกอบอาชีพเสี่ยงต่อการรับสัมผัสตะกั่ว คือ ชาวประมงที่เป็นช่างตอกหมันเรือ อู่ต่อเรือและอาชีพมาดอวด จากรายงานวิจัยของคณะวิจัยจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(2561) พบว่า ผลการศึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อมและชีวภาพในพื้นที่เกาะบูโหลน พบปัญหาการปนเปื้อนตะกั่วในสิ่งแวดล้อม ในหลายแหล่ง โดยพบปริมาณการปนเปื้อนตะกั่วในพื้นที่บริเวณโรงเรียน(24.2 mg/kg)ในพื้นที่บ้านเรือน (8.95 mg/kg)พื้นที่จอดเรือและทำอวน(7.1 mg/kg)ขณะที่ผลการตรวจวัดปริมาณตะกั่วในแหล่งน้ำอุปโภค(บ่อน้ำ) พบปริมาณ 0.016 mg/L ซึ่งสอดคล้องกันมีการตรวจพบปริมาณตะกั่วในเล็บและมือของชาวประมงที่ซ่อมเรือ(0.25µg/cm2),ชาวประมงที่คลี่อวน(38.15 µg/cm2) และชาวประมงที่ทำอวน(1.32 µg/cm2) มีความเชื่อมโยงกับการตรวจทางชีวภาพซึ่งมีการตรวจพบปริมาณตะกั่วในเลือดของเด็กอายุ 1-3 ปี(6.04µg/dL) อายุ 3-5 ปี(5.69 µg/dL) ขณะเดียวกันได้มีการศึกษาพบปัญหาเด็กปฐมวัยมีภาวะ IQ ต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งในทางวิชาการได้มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า การรับสัมผัสตะกั่วในวัยเด็กเล็ก มีความสัมพันธ์ต่อภาวะ IQ ต่ำ จากรายงานทางวิชาการข้อมูลที่ได้ศึกษาถึงผลกระทบของสารตะกั่วในเด็ก ซึ่งจะได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ใหญ่ ตะกั่วในเลือดมีความสัมพันธ์กับระดับ IQ อย่างชัดเจน มารดาที่มีระดับตะกั่วสูงสามารถส่งผ่านตะกั่วไปยังทารกในครรภ์ได้ ทำให้ทารกในครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงในระดับพันธุกรรม ปัจจัยส่งเสริมให้เด็กสามารถได้รับผลกระทบจากตะกั่วได้มากเนื่องจากเด็กดูดซึมตะกั่วจากทางเดินอาหารได้ดีกว่าผู้ใหญ่ คือร้อยละ 50% ในขณะที่ผู้ใหญ่ดูดซึมได้เพียงร้อยละ 10% ของปริมาณที่รับประทาน เด็กมีระบบประสาทที่กำลังพัฒนา การสัมผัสตะกั่วนี้ทำให้การพัฒนาผิดรูปไป ช่วงเวลาที่เด็กมีความอ่อนไหวต่อสารพิษที่กระทบต่อพัฒนาการนั้นเป็นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ไปจนถึงช่วงเข้าสู่วัยรุ่น (Needleman et al., 1990; Bellinger, Stiles & Needleman, 1992;Rogan et al., 2001) ผลกระทบต่อพัฒนาการและระบบประสาทไม่สามารถแก้ไขได้ ถึงแม้ว่าจะใช้ยาขับตะกั่วให้ระดับในเลือดกลับมาเป็นปกติ การสัมผัสต่อตะกั่วตั้งแต่อายุน้อยๆ มีผลต่อการแสดงออกด้านพันธุกรรม โดยเห็นจากการที่มีการปรับเปลี่ยนของ DNA ใน cordblood ของมารดาที่มีระดับตะกั่วสูง (Basha et al., 2005; Wu et al., 2008; Pilsner et al., 2009) จากสภาพปัญหาการปนเปื้อนตะกั่วจากการประกอบอาชีพลงสู่สิ่งแวดล้อมในสถานที่ต่างๆ จนนำไปสู่การรับสัมผัสสารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายทั้งในกลุ่มบุคคลทำงานอาชีพที่เสี่ยงและประชาชนทั่วไป ได้แก่ ชาวประมงที่ประกอบอาชีพช่างตอกหมัน อู่ต่อเรือ อาชีพทำมาดอวน จากรายงานวิจัยการปนเปื้อนฝุ่นตะกั่วในบ้าน พบว่า บ้านช่างตอกหมันเรือมีระดับตะกั่วสูงกว่าบ้านควบคุม(บ้านที่ไม่ใช่บ้านช่างตอกหมันเรือ)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (จำนง และคณะ, 2552 : อรพันธ์ และคณะ,2554)สิ่งสำคัญคนทำงานยังมีโอกาสรับสัมผัสตะกั่วแล้วนำกลับไปปนเปื้อนแก่คนในครอบครัวได้อีก เช่น ภรรยา ลูกของผู้ประกอบอาชีพเสี่ยงอีกด้วย รวมถึงเด็กเล็กที่อาศัยอยู่ในบริเวณบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณที่มีการปนเปื้อนของปริมาณตะกั่วสะสมจำนวนมากก็มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับสัมผัสตะกั่วเข้าสู่ร่างกายได้มาก สอดคล้องกับรายงานศึกษาของ อรพันธ์ อันติมานนท์ พบว่า คนงานที่มีการทำงานเกี่ยวข้องกับตะกั่ว จะมีโอกาสที่จะนำตะกั่วกลับไปปนเปื้อนยังที่พักอาศัย โดยการปะปนไปกับเสื้อผ้าหรือผิวหนังของคนงานได้(อรพันธ์ อันติมานนท์,2552) และยังพบเด็กกลุ่มเสี่ยงเป็นลูกหลานของช่างตอกหมันและซ่อมเรือไม้มีระดับตะกั่วในเลือดสูง(สำนักโรคจากการประกอบอาชีพฯ,2556) นอกจากนี้ยังมีรายงานวิจัยยืนยันพบว่า โรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก ยังเป็นแหล่งปนเปื้อนของตะกั่วจากสีทาอาคาร สีจากเครื่องเล่นเด็ก แล้วนำไปสู่การรับสัมผัสสารตะกั่วเข้าสู่เด็กนักเรียนได้ง่ายโดยเฉพาะเด็กปฐมวัย ที่เล่นกับเครื่องเล่นเด็กหรือมักมีพฤติกรรมเล่นกับพื้นส่งผลให้รับสัมผัสตะกั่วได้ง่าย(ราชวิทยาลัยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย,2553)ซึ่งจากสภาพความเสี่ยงของการรับสัมผัสตะกั่วทั้งหมดข้างต้น ยังคงพบประสบปัญหาอยู่ในชุมชนพื้นที่เกาะบูโหลนโดยยังขาดมาตรการป้องกัน ควบคุม ที่รัดกุมตามที่ควรจะเป็น ทั้งที่สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขปัญหาการรับสัมผัสสารตะกั่วในประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวซึ่งเป็นความเสี่ยงและภัยคุกคามสุขภาพที่สำคัญที่จะส่งผลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งจะต้องอาศัยวิธีการ กระบวนการ หรือกิจกรรมต่างๆเพื่อช่วยยับยั้งหรือลดการสัมผัสสารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายให้ได้มากที่สุดภายใต้ข้อจำกัดของชุมชนพื้นที่เกาะที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากพื้นที่ชายฝั่ง ดังนั้น วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรจังหวัดตรัง จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาส่งเสริมการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการรับสัมผัสสารตะกั่วในชุมชนของพื้นที่เกาะบูโหลน ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการสร้างองค์ความรู้และส่งเสริมความตระหนักแก่ อสม. แกนนำชุมชน ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ประกอบอาชีพเสี่ยง สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง สามารถป้องกันตนเองจากการรับสัมผัสสารตะกั่วจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมจากแหล่งต่างๆ สิ่งสำคัญจำเป็นต้องเน้นวิธีป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุโดยการกำหนดมาตรการหรือวิธีการในการลดปริมาณสารตะกั่วที่จะปนเปื้อนลงสู่สิ่งแวดล้อมด้วย
-
1. เพื่อจัดทำสถานการณ์สภาพความเสี่ยงและพัฒนาระบบเฝ้าระวังของการรับสัมผัสตะกั่วจากสถานที่ทำงานและสิ่งแวดล้อมในชุมชนพื้นที่เกาะบูโหลนตัวชี้วัด : ได้สถานการณ์สภาพความเสี่ยงและรูปแบบของการเฝ้าระวังการรับสัมผัสตะกั่วในกลุ่มคนทำงานอาชีพเสี่ยง รวมทั้งประชาชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชนพื้นที่เกาะบูโหลนขนาดปัญหา 0.00 เป้าหมาย 0.00
-
2. เพื่อพัฒนาศักยภาพของ อสม.และแกนนำชุมชนในการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันการรับสัมผัสตะกั่วไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เกาะบูโหลนตัวชี้วัด : ร้อยละ 70 ของ แกนนำชุมชน อสม. ที่เข้าร่วมกิจกรรม มีความรู้ เกิดความตระหนักและสามารถร่วมมือกันในการประเมินความเสี่ยง ตรวจคัดกรองสุขภาพตามความเสี่ยงของการรับสัมผัสตะกั่ว ได้ขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
- 1. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาเสริมสร้างความรู้ พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากพิษภัยตะกั่วในประชาชนกลุ่มเสี่ยงของชุมชนพื้นที่เกาะบูโหลนฯรายละเอียด
ค่าอาหารกลางวัน 100 บ. x 30 คน x 1 มื้อ x 2 แห่ง = 6,000บาท ค่าอาหารว่าง 35 บ.x 30 คน x 2 มื้อ x 2 แห่ง = 4,200บาท ค่าวิทยากร 600 x 8 ชม.= 4,800 บาท ค่าพาหนะเรือเหมา = 4,000บาท ค่าที่พักเหมาจ่าย800 บ. x 4 คน x 2 คืน = 6,400 บาท
งบประมาณ 25,400.00 บาท - 2. จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพ อสม./แกนนำชุมชน ในการคัดกรองความเสี่ยงทางสุขภาพ ประเมินความเสี่ยงของการรับสัมผัสตะกั่วในชุมชนฯ โดยประยุกต์ใช้แผนที่ระบาดวิทยาภาคประชาชน(Popular epidemiology)รายละเอียด
ค่าวิทยากร 600 บ.x 2 คน x 8 ชม. =9,600 บาท ค่าอาหารกลางวัน 100 บ.x 30 คน x 1 มื้อ x 2 แห่ง = 6,000บาท ค่าอาหารว่าง 35 บ.x 30 คน x 2 มื้อ x 2 แห่ง= 4,200บาท ค่าพาหนะเรือเหมา = 4,000บาท ค่าที่พักเหมาจ่าย800 บ. x 4 คน x 2 คืน = 6,400 บาท รวม30,200 บาท
งบประมาณ 24,200.00 บาท - 3. อสม./แกนนำชุมชน ร่วมกับ วิทยลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดตรัง และองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ ดำเนินการ implement เชิงรุกในการประเมินความเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อม คัดกรองความเสี่ยงทางสุขภาพจากการรับสัมผัสตะกั่วฯรายละเอียด
ค่าเบี้ยเลี้ยง 240 บ.x 6 คน x 3 วัน=4,320 บ. ค่าพาหนะเรือเหมา = 4,000บ. ค่าที่พักเหมาจ่าย800 บ. x 6 คน x 2 คืน = 9,600 บ. รวม17,920 บาท
งบประมาณ 17,920.00 บาท
ตั้งแต่ วันที่ 3 ธันวาคม 2562 ถึง 15 พฤษภาคม 2563
หมู่ที่ 3 บ้านเกาะบูโหลน ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล
รวมงบประมาณโครงการ 67,520.00 บาท
1 ประชาชนกลุ่มเสี่ยง มีความรู้ความเข้าใจ เกิดความตระหนักในการป้องกันตนเองของการรับสัมผัสสารตะกั่วจากสถานที่ทำงานและสิ่งแวดล้อม 2 อสม. แกนนำชุมชน มีแนวทางในการดำเนินงานเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันการรับสัมผัสตะกั่วในประชาชนกลุ่มเสี่ยงแบบมีส่วนร่วม
ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้
- check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
- check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
- check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปากน้ำ รหัส กปท. L5312
อำเภอละงู จังหวัดสตูล
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ
(...........................................................)
ตำแหน่ง ...............................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................
แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปากน้ำ รหัส กปท. L5312
อำเภอละงู จังหวัดสตูล
ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้
(....................................................................)
ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม
วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................
ตำแหน่ง ....................................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................