โครงการกิจกรรมลดน้ำหนัก พิชิตความอ้วน ตามวิธีชุมชน ปีงบประมาณ 2564
ชื่อโครงการ | โครงการกิจกรรมลดน้ำหนัก พิชิตความอ้วน ตามวิธีชุมชน ปีงบประมาณ 2564 |
รหัสโครงการ | 64-L3031-12-15 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมาะมาวี |
วันที่อนุมัติ | 1 ธันวาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ธันวาคม 2563 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 34,900.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายมูฮัมมัดเฟาซี ลาเต๊ะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายมูฮำหมัดนาเซร์ ดอเลาะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.67,101.303place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เมตาบอลิค ซินโดรม (Metabolic syndrome) หรืออาจเรียกให้เข้าใจง่ายๆคือ “โรคอ้วนลงพุง “มีสาเหตุเริ่มมต้นจาการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม กินอาหารมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันสูง ร่วมกับการไม่ออกกำลังกาย ทำให้น้ำหนักมากเกินไป พุงยื่น สำหรับคนไทย ผู้ชายไม่ควรมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร ผู้หญิง ไม่ควรมีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร ผู้ที่มีปัญหาอ้วนลงพุง มักจะมีความผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ตั้งแต่ 130/80 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป (ความดันโลหิตตัวใดตัวหนึ่งสูงก็ถือว่าผิดปกติ ) น้ำตาลในเลือดสูง ตั้งแต่ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป ไขมันไตรกรีเซอไรด์สูง ตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL cholesterol ) ต่ำกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรสำหรับผู้ชาย และต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป สำหรับผู้หญิง การมีความผิดปกติต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อัมพาตที่เกิดจากหลอดเลือดสมองอุดตัน ทำให้สมองขาดเลือด นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน และยังก่อให้เกิดโรคตับเรื้อรังจากการที่มีไขมันสะสมอยู่ในเนื้อตับ ซึ่งนำโรคไปสู่โรคตับแข็งได้ ผู้ป่วยเมตาบอลิค ซินโดรม อาจจะไม่มีอาการผิดปกติอะไร ยกเว้น “อ้วนลงพุง”ดังนั้น หากไม่ได้รับการสุขภาพก็จะไม่ทราบว่ามีความดันโลหิตสูง น้ำตาลสูง หรือมีไขมันผิดปกติ บางรายมีความดันโลหิตสูง อาจจะมีอาการปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะ ส่วนรายที่มีน้ำตาลในเลือดสูงเข้าขั้นเบาหวาน อาจจะมีปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ หรือมีอาการอื่นๆของโรคเบาหวาน
จากข้อมูลองค์การอนามัยโลกในปี พ.ศ 2557 พบว่าทั่วโลกมีผู้ใหญ่ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน (ค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 30 กก/ตร.ม.ขึ้นไป อย่างน้อย 600 ล้านราย นั่นคือ ร้อยละ 39 ของผู้ใหญ่ในโลกนี้มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน อีกด้วย ในประเทศไทย โรคอ้วนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากถึง 20,000 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 5.1 ของการเสียชีวิตทั้งหมดในปี พ.ศ.2557 และจากผลการสำรวจล่าสุด พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยโรคอ้วน ติดอันดับ 5 ของเอเชียแปซิปิก โดยมีคนอ้วนมากถึง 17 ล้านคนทั่วประเทศ และยังแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 ล้านคนต่อปี
การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยทั่วประเทศโดยการตรวจร่างกาย คนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไปในปี พ.ศ.2552 พบว่ามีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน (ดัชนีมวลกายตั้งแต่ 25 กก./ตร.ม. ขึ้นไป) มากกว่า 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับผลการสำรวจในปี พ.ศ.2554 พบว่าเพิ่มขึ้น 2 เท่า (จาก 17.2% เป็น 34.7%) และภาวะอ้วนเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า (จาก 3.2 % เป็น 9.1 %) หากเปรียบเทียบในระดับภูมิภาคพบว่า คนไทยอ้วนสูงสุด เป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด 10 ประเทศอาเซียน รองจากมาเลเซียเท่านั้น โรคอ้วนมีโอกาสเกิดขึ้นกับบุคคลได้ทุกคน ในปัจจุบันยังไม่สามารถบ่งชี้ปัจจัยเสี่ยงที่แท้จริงของการเกิดภาวะอ้วนได้ อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงที่น่าจะเป็นสาเหตุของการเกิดถาวะอ้วนได้แก่ พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไขมันสูง มีพลังงานสูง วิถีชีวิต นั่งๆนอนๆ ขาดกิจกรรมทางกาย ประวัติความอ้วนในครอบครัว อายุที่มากขึ้น รวมทั้งการสูบบุหรี่
ปัจจุบันโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมาะมาวี มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 84 คน ซึ่งเป็นบุคคลต้นแบบในการทำงานด้านสุขภาพในชุมชนเพื่อขับเคลื่อนโยบายตำบลจัดการสุขภาพและหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จากผลการคัดกรองสุขภาพพบว่ามีผู้ที่รอบเอวและ BMI เกินเกณฑ์จำนวน 60 คนหรือคิดเป็นร้อยละ 70.5
จากข้อมูลข้างต้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมาะมาวี ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาโรคอ้วนในอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว จะเกิดปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนตามมาอีก โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะไขมันเลือดสูง โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่หากสามารถแก้ปัญหาโรคอ้วนได้ ก็จะทำให้อัตราการป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่นๆ ในหมู่บ้านซึ่งมีอยู่มาก ลดลงด้วย ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมาะมาวีจึงได้จัดทำโครงการ ลดน้ำหนัก พิชิตความอ้วน ตามวิธีชุมชน ปีงบประมาณ 2564 ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มีภาวะอ้วนมีพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนอยู่ในระดับดีอย่างน้อยร้อยละ 80
|
0.00 | |
2 | เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มีภาวะอ้วนที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มีน้ำหนักตัวลดลง อย่างน้อยร้อยละ 20 ของกลุ่มเป้าหมายที่มีภาวะอ้วน
|
0.00 | |
3 | เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มีภาวะอ้วน มีความรู้ในการป้องกันโรคอ้วน การรับรู้โอกาสเสี่ยง และความรุนแรงของโรคอ้วน อยู่ในระดับสูงอย่างน้อยร้อยละ 80
|
0.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มีภาวะอ้วนมีพฤติกรรมการป้องกันโรคอ้วนอยู่ในระดับดีอย่างน้อยร้อยละ 80 |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 : เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มีภาวะอ้วนที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มีน้ำหนักตัวลดลง อย่างน้อยร้อยละ 20 ของกลุ่มเป้าหมายที่มีภาวะอ้วน |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 : เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มีภาวะอ้วน มีความรู้ในการป้องกันโรคอ้วน การรับรู้โอกาสเสี่ยง และความรุนแรงของโรคอ้วน อยู่ในระดับสูงอย่างน้อยร้อยละ 80 |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 |
หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้
3.1 ขั้นตอนการเตรียมโครงการ/กิจกรรม 3.1.1 ประชุมวางแผนการจัดทำโครงการและรูปแบบการดำเนินโครงการ 3.1.2 รวบรวมรายชื่อกลุ่มเป้าหมายซึ่งได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มีภาวะอ้วนลงพุง 3.1.3 เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ 3.1.4 จัดทำคู่มือ “ภารกิจพิชิตความอ้วน”สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ 3.1.5 ทำหนังสือเรียนเชิญวิทยากรและติดต่อประสานงาน 3.1.6 จัดหาอุปกรณ์การออกกำลังกาย 3.1.7 ประชุมเตรียมความพร้อมของคณะ 3.1.8 ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมโครงการรับทราบเกี่ยวกับการอบรมตามวันละเวลาที่กำหนด
3.2 ขั้นตอนดำเนินโครงการ/กิจกรรม
ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องชั่งน้ำหนักวัดรอบเอวก่อนเข้าร่วมโครงการเพื่อประเมิน
3.2.1 ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนและรับคู่มือและทำแบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับโรคอ้วน
3.2.2 ฟังบรรยายโดยวิทยากรเรื่อง โรคอ้วน การเลือกบริโภคอาหารที่ถูกต้อง การควบคุมน้ำหนักตัว และวิธีการออกกำลังกายอย่างง่าย
3.2.3 นัดมาทำเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชั่งน้ำหนักและตรวจคู่มือเพื่อดูความก้าวหน้าของการลดน้ำของแต่ละคน เดือนละ 1 ครั้ง 3 เดือน
3.2.4 จัดประกวด ต้นแบบหุ่นดี สุขภาพดี เมื่อสิ้นสุดโครงการ
3.2.5 ประเมินผลโดยโครงการโดยการทำแบบสอบถาม
3.2.6 สรุปผลการดำเนินโครงการ
- ร้อยละ 80 ของ อสม.และประชาชน มีความรู้เกี่ยวกับโรคอ้วน และสามารถป้องกันพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน 2.ร้อยละ20 ของคนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์สามารถลดน้ำหนักได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 09:53 น.