โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ประจำปีงบประมาณ 2560
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ประจำปีงบประมาณ 2560 |
รหัสโครงการ | 60-L5188-1-13 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะสะบ้า |
วันที่อนุมัติ | 19 มิถุนายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 21,632.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางอรสา ชูศรี |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.863,100.891place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่รักษาไม่หายแต่สามารถป้องกันและควบคุมได้ด้วยการเรียนรู้โรคและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูง โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่มีอัตราการเป็นโรคเพิ่มมากขึ้นเกือบทุกประเทศทั่วโลก จากการสำรวจทั่วโลก(WHO) ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕พบว่ามีผู้ป่วยเบาหวาน ๑๓๕ ล้านคน คาดว่าในปี พ.ศ.๒๕๕๔ จะมีผู้ป่วยเบาหวานมากถึง ๓๐๐ ล้านคนสำหรับในประเทศไทยจากการสำรวจข้อมูลของ National Health And Surveyพบว่าความชุกของโรคเพิ่มขึ้นจากร้อยละ๔.๔ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙เป็นร้อยละ๙.๖หรือ ๒.๔ ล้านคนในปี พ.ศ.๒๕๔๓และจากจำนวนดังกล่าวมีผู้ที่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวานคิดเป็นร้อยละ ๔.๘ เท่านั้นซึ่งเกือบร้อยละ ๕๐ ที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นเบาหวานซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการภาวะแทรกซ้อน เช่นไตวายหัวใจเป็นแผลเรื้อรังบางรายก็มีอันตรายจนถึงชีวิตได้ ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลเกาะสะบ้า ร่วมกับ อสม.ในพื้นที่ดำเนินการตรวจคัดกรองประชากรกลุ่มเป้าหมาย อายุ ๓๕ ปีขึ้นไป พบกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน จำนวน ๑๗ คน กลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง ๘๔คน จากประชากรเป้าหมาย๓,๑๘๔ คน จากการประเมินความเข้าใจในเรื่องความรู้การดูแลตนเองพบว่าส่วนใหญ่มีความรู้อยู่ในเกณฑ์ดี การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย จากการซักประวัติรายบุคคลบางรายพบว่ามีความรู้แต่ยังขาดทักษะในการปฏิบัติตัว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะสะบ้ารวมทั้งอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.)มีความมุ่งมั่นในการพัฒนารูปแบบการดูแลกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน และความดันโลหิตสูงจึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อ กระตุ้นให้กลุ่มเสี่ยง มีความรู้ และหันมาดูแลสุขภาพของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการในการดูแลสุขภาพไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ให้มีภาวะเสี่ยงมากขึ้นกว่าเดิมและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม ตามศักยภาพ สภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตในชุมชน จะทำให้กลุ่มเสี่ยงเกิดกำลังใจและมีความพยายามในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีมากขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | กลุ่มเสี่ยงมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถควบคุมระดับน้ำตาล และความดันโลหิตได้ดีขึ้น
|
||
2 | กลุ่มเสี่ยงมีความรู้และตระหนักถึงแนวทางการดูแลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
|
||
3 | กลุ่มเสี่ยงเกิดการรวมกลุ่มช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน
|
||
4 | กลุ่มเสี่ยงมีการดูแลสุขภาพโดยการปลูกผักกินเอง เน้นใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
|
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
18 ก.ย. 60 | การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ | 200 | 21,632.00 | ✔ | 21,632.00 | |
รวม | 200 | 21,632.00 | 1 | 21,632.00 |
1 ประชุมทีมสุขภาพและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเพื่อชี้แจงโครงการ 2 สำรวจกลุ่มเสี่ยงเบาหวานความดันโลหิตสูงเพื่อเข้าร่วมโครงการ 3 จัดทำหนังสือเชิญวิทยากรและชี้แจงโครงการ 4 จัดกิจกรรมค่ายเบาหวานความดันโลหิตสูง 5 ประมวลผลและวิเคราะห์การจัดกิจกรรมค่ายเบาหวานและความดันโลหิตสูง
1.กลุ่มเสี่ยงมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถควบคุมระดับน้ำตาล และความดันโลหิตได้ดีขึ้น ปัญหา มีส่วนร่วมในการช่วยดูแลผู้ป่วยส่งผลให้การรักษามีผลดียิ่งขึ้น
2.กลุ่มเสี่ยงมีความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพิ่มขึ้น
3.กลุ่มเสี่ยงเกิดการรวมกลุ่มช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน อย่างน้อย ๑ กลุ่ม
4.กลุ่มเสี่ยงมีการดูแลสุขภาพโดยการปลูกผักกินเอง อย่างน้อย ๕๐ %
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 16:19 น.