โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย และการปฏิบัติให้ถูกกฎจราจรบนท้องถนน
ชื่อโครงการ | โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย และการปฏิบัติให้ถูกกฎจราจรบนท้องถนน |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาวิเศษ |
วันที่อนุมัติ | 3 กุมภาพันธ์ 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 29 ตุลาคม 2564 |
งบประมาณ | 12,295.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสุภาพร คุ้นเคย |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.651,99.459place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาปีพุทธศักราช 2542 ระบุไว้ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ มีการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง บ้าน ชุมชน และโรงเรียนควรร่วมกันจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพอย่างยั่งยืน ในปัจจุบันนี้พบว่าการเกิดอุบัติเหตุจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย และเกิดความรุนแรงจากอุบัติเหตุบนท้องถนนกับเด็กเป็นจำนวนมาก จากการสำรวจพบว่าประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดเป็นอันดับ ๑ ของโลก ซึ่ง ๘๐% ของอุบัติเหตุทางถนน เกิดจากการใช้รถจักรยานยนต์ แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการปกป้องตนเองจากความเสี่ยงดังกล่าว สอดคล้องกับข้อมูลที่บอกว่า มีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในเมืองไทย โดยเฉพาะเด็ก ใส่หมวกกันน็อกเพียงแค่ ๘% เท่านั้น ทำให้มีเด็กไทย เสียชีวิตจากการไม่ใส่หมวกกันน็อก ถึง ๕,๐๐๐ คน ต่อปี ปัจจุบันเด็กและเยาวชนจำนวนมาก มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานศึกษาในรูปแบบต่างๆ เช่น ผู้ปกครองขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปส่ง หรือเยาวชนขับขี่ด้วยตนเอง ซึ่งล้วนแต่มีความเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนนด้วยกันทั้งสิ้น และเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุสูงก็คือ ขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปยังสถานศึกษา ซึ่งบางคนมีพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ เช่น ขาดประสบการณ์และทักษะในการขับขี่ ประมาท ไม่เคารพกฎจราจร ขาดจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน ไม่ใส่ใจในความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้การเกิดอุบัติเหตุในเด็กและเยาวชนซึ่งอยู่ในวัยกำลังเรียน มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
อุบัติเหตุทางน้ำยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กไทยเสียชีวิตมากที่สุดเช่นกัน จากสภาพปัญหาของเด็กจมน้ำตายเป็นอุบัติเหตุที่ผู้เกี่ยวข้องกับเด็กไม่ให้ความสนใจศึกษาสาเหตุ และสร้างมาตรการป้องกัน ทั้งนี้อุบัติเหตุการจมน้ำมีในทุกกลุ่มอายุของเด็ก ตั้งแต่เด็กปฐมวัยถึงเด็กวัยรุ่น และอัตราการตายมีสถิติสูงกว่าอุบัติเหตุอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเล่นน้ำของเด็ก เช่น อากาศร้อน สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำธรรมชาติได้ง่าย และไม่มีผู้ดูแล อีกหนึ่งสาเหตุคือพฤติกรรมการเล่นน้ำของเด็กๆ การป้องกันตนเอง และไม่มีทักษะในการช่วยเหลือหรือเอาชีวิตรอดเมื่อเกิดเหตุการณ์ตกน้ำ จากการจมน้ำ ปลูกฝังให้เด็กรู้จักการ อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม และรู้จักการตะโกน โยน ยื่น เพื่อให้เด็กรู้จักวิธีป้องกันตนเองสามารถแก้ไขปัญหาเมื่อต้องพบกับเหตุการณ์จริงจากพื้นที่เสี่ยงต่อการตกน้ำ จมน้ำ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เด็กมีชีวิตรอดเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงได้
ดังนั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาวิเศษ จึงได้จัดทำโครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย และการปฏิบัติให้ถูกกฎจราจรบนท้องถนน เพื่อปลูกจิตสำนึกและเปลี่ยนพฤติกรรมให้เด็กไทยสวมหมวกกันน็อกจนเป็นนิสัย เพื่อลดความเสี่ยงและความรุนแรงจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด โดยมุ่งเน้นดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่สำคัญคือ ให้ความรู้ความเข้าใจ ปลูกฝังจิตสำนึกความปลอดภัยให้เหมาะสมกับวัย เพื่อเป็นการสร้าง ภูมิคุ้มกันความเสี่ยงในการดำเนินชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคต ที่จะแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างตรงจุด คือ การให้ความรู้ควบคู่ไปกับความบันเทิงซึ่งไม่เพียงแต่เด็กและเท่านั้นที่จะได้รับความรู้ ผู้ปกครอง และครู ก็จะได้รับความรู้พร้อมกันไปด้วย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ผู้ปกครอง ครู/ผู้ดูแลเด็ก มีความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนนและอุบัติเหตุทางน้ำ
|
0.00 | |
2 | เพื่อให้ผู้ปกครอง ครู/ผู้ดูแลเด็ก สามารถนำความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนนและอุบัติเหตุทางน้ำจากการอบรมไปดูแลและปลูกฝั่งให้เด็กนักเรียนปฏิบัติตามได้
|
0.00 | |
3 | เพื่อให้เด็กรู้จักวิธีป้องกันตนเองสามารถแก้ไขปัญหาเมื่อต้องพบกับเหตุการณ์จริงจากพื้นที่เสี่ยงต่อการตกน้ำ จมน้ำ
|
0.00 | |
4 | เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงและร่วมกันสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่นั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซด์
|
0.00 |
- เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ
- ประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อม
- ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๔. จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์และสถานที่
๕. ดำเนินงานตามโครงการ
- จัดอบรมให้ความรู้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองและครู/ผู้ดูแลเด็ก ในการให้ความรู้เรื่องการป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย และการปฏิบัติให้ถูกกฎจราจรบนท้องถนน
- รณรงค์ให้ผู้ปกครองจัดหาหมวกกันน็อคสวมให้กับเด็กและตนเองเป็นการป้องกันและลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุและการปฏิบัติให้ถูกกฎจราจรบนท้องถนน
- ครู/ผู้ดูแลเด็ก จัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย การปฏิบัติให้ถูกกฎจราจรบนท้องถนน
๖. ประเมินผลโครงการและสรุปรายงานผลการดำเนินงาน
- ผู้ปกครอง ครู/ผู้ดูแลเด็ก ได้รับความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนนและ
อุบัติเหตุทางน้ำ
๒. ผู้ปกครอง ครู/ผู้ดูแลเด็ก สามารถนำความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
และอุบัติเหตุทางน้ำจากการอบรมไปดูแลและปลูกฝั่งให้เด็กนักเรียนปฏิบัติตามได้
๓. เด็กนักเรียนรู้จักวิธีป้องกันตนเองสามารถแก้ไขปัญหาเมื่อต้องพบกับเหตุการณ์จริงจากพื้นที่เสี่ยงต่อ
การตกน้ำ จมน้ำและร่วมกันสวมหมวกกันน็อคในการลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ๔. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาวิเศษ มีวัสดุ-อุปกรณ์ ในการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ให้ความรู้เรื่องการ ป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำในเด็กปฐมวัย การปฏิบัติให้ถูกกฎจราจรบนท้องถนน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 11:50 น.