กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

การเข้าสุนัต (ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย) เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ชายมุสลิมทุกคนจะต้องปฏิบัติ เป็นการทำความสะอาดร่างกายที่ต้องตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์ของชาย เพื่อขจัดความสกปรก ซึ่งความมุ่งหมายอันสำคัญในเรื่องนี้คือเพื่อความสะอาดเป็นสำคัญ ในด้านการแพทย์ให้ความเห็นว่า สุนัตเป็นมาตรการที่มีความสำคัญในทางสุขวิทยาเป็นอย่างมาก ปัจจุบันด้านสุขวิทยาเจริญมากว่าอดีต สมควรให้มีการเข้าสุนัต และแนะนำให้เด็กที่เกิดมาทุกคนได้รับการเข้าสุนัต โดยในรายที่เด็กมีหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์แคบและตึงมากอาจทำให้ไม่สามารถดึงให้หุ้มอวัยวะสืบพันธุ์เพศชายได้หมด ส่วนในรายที่มีหนังหุ้มยาวมากเกินควรอาจส่งผลให้มีการขังของน้ำปัสสาวะบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหากชำระความสะอาดไม่ดี และในรายที่หนังหุ้มแคบมากอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดเมื่ออวัยวะสืบพันธุ์เพศชายแข็งตัว และปัสสาวะลำบาก เหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการเข้าสุนัต อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญทางโรคมะเร็งยังค้นพบว่าการเป็นโรคมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชาย จะมีอัตราสูงในเพศชายที่ไม่ได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะสืบพันธุ์ รวมทั้งการเข้าสุนัตจะช่วยในเรื่องการป้องกันและลดปัญหาการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ โรคซิฟิลิส โรคมะเร็งปากมดลูกของเพศหญิง ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆได้ถึงร้อยละ 60 – 70
ดังนั้น คณะกรรมการมัสยิดนูรุณฮูดาจึงมีความประสงค์ที่จะเสนอโครงการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายในเยาวชนมุสลิม ประจำปี 2564 เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีอันดีงามตามหลักศาสนาอิสลาม และเหตุผลทางสาธารณสุข เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลภายในครอบครัวของประชาชนในพื้นที่ ที่ปัจจุบันค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้ไม่เพียงพอกับการใช้จ่าย ตลอดจนเพื่อเป็นการรณรงค์ สร้างความตระหนักให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในการดูแลสุขภาพ สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขด้านการส่งเสริมและป้องกันโรคติดเชื้อ ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่การเข้าสุนัตจะทำในเด็กชาย อายุระหว่าง 5 – 12 ปี การเข้าสุนัตนิยมทำในช่วงปิดเทอม เพื่อความสะดวกในการรักษาแผล ซึ่งจะใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 7 – 15 วัน