โครงการติดตามกลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูงด้วยการวัดความดันโลหิตที่บ้าน
ชื่อโครงการ | โครงการติดตามกลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูงด้วยการวัดความดันโลหิตที่บ้าน |
รหัสโครงการ | L8407-64-01-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลย่านซื่อ |
วันที่อนุมัติ | 25 กุมภาพันธ์ 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 10 มีนาคม 2564 - 15 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 16,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางวาสนา รงค์สมัคร |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายวรวิทย์ กาเส็มส๊ะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 7.00 | ||
2 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 8.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การวัดความดันโลหิต เป็นการตรวจร่างกายที่สามารถให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเบื้องต้น ซึ่งทำได้ภายในเวลารวดเร็วโดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใด ๆ การวัดอาจทำโดยสอดแขนจนสุดต้นแขนเข้าไปในเครื่องอัตโนมัติ หรือใช้ผ้าพันรอบแขนแล้วสูบลมให้ผ้าพองขึ้นจนเกิดแรงบีบที่แขน จากนั้นจึงค่อย ๆ ปล่อยลมออกและรอดูค่าความดันที่จะปรากฏคงที่ในเวลาต่อมา ภาวะความดันโลหิตสูง มักไม่มีอาการบ่งบอก ผู้ป่วยอาจไม่เคยรู้ตัวจนกระทั่งได้รับการตรวจความดันโลหิตเบื้องต้นเมื่อเข้ารับการรักษาหรือตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลการตรวจพบภาวะความดันโลหิตสูงและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นสามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง รวมถึงโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตาได้ บุคคลทั่วไปควรตรวจความดันโลหิตเป็นประจำเมื่อมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป การวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้านได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สามารถทำได้ง่าย ค่าความดันโลหิตที่วัดที่บ้านจะต่ำกว่าค่าที่วัดจากโรงพยาบาล จาการศึกษาพบว่าค่าความดันโลหิตที่วัดจากบ้าน มีความสัมพันธ์โรคแทรกซ้อน ซึ่ง ประโยชน์ของการวัดความดันโลหิตที่บ้าน คือการวัดความดันชนิดนี้เหมาะสำหรับบุคคลที่ความดันสูงที่โรงพยาบาล แต่วัดที่บ้านพบว่า ปกติ เพื่อตรวจว่าความดันโลหิตสูงหรือไม่ ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตแตกต่างกันระหว่างที่บ้านและที่โรงพยาบาล จากการตรวจคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ในปี 2564 พบกลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูง (ความดันโลหิต มากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท) จำนวน 93 คน จากกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด กลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องได้รับการติดตามวัดความดันโลหิตที่บ้านต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน โดยวัดตอนตื่นนอนตอนเช้า 2 ครั้ง และก่อนเข้านอน 2 ครั้ง เอาค่าที่ได้มาเฉลี่ย หากยังเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท จะต้องส่งพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป เพราะหากปล่อยไว้จะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ลดลง |
7.00 | 6.00 |
2 | เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ลดลง |
8.00 | 6.00 |
3 | เพื่อติดตามระดับความดันโลหิตต่อเนื่องที่บ้าน กลุ่มสงสัยป่วยความดันโลหิตสูงได้รับการวัดความดันโลหิตตามแนวทางครอบคลุม ร้อยละ 60 |
70.00 | 65.00 |
4 | เพื่อให้กลุ่มสงสัยป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการติดตามความดันโลหิตแล้วยังสูงได้รับการส่งต่อเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาครบทุกคน |
85.00 | 65.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 16,500.00 | 0 | 0.00 | |
15 มี.ค. 64 - 15 ก.ย. 64 | จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในกลุ่มเสี่ยง แบ่งกลุ่มย่อยตามรายหมู่บ้านๆละ 1 วัน | 0 | 16,500.00 | - |
1.จัดทำทะเบียนกลุ่มเป้าหมาย 2.จัดทำแนวทางการวัดความดันโลหิตที่บ้าน และแบบบันทึก 3. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในกลุ่มเสี่ยง/ผู้ดูแล พร้อมฝึกทักษะผู้ดูแล/ผู้ป่วยให้สามารถวัดความดันโลหิตได้ และวัดความดันโลหิต อย่างต่อเนื่องจนครบ 7 วัน พร้อมบันทึกในแบบบันทึก 4.หาค่าเฉลี่ยความดันโลหิตในรอบ 7 วัน หากยังสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ส่งพบแพทย์ 5.ประเมินผลการดำเนินงานและสรุปผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ ส่งให้กองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลย่านซื่อ
กลุ่มเป้าหมายที่เสี่ยงสูงต่อโรคความดันโลหิตสูง ไม่เปลี่ยนเป็นผู้ป่วย ร้อยละ9๐ กลุ่มสงสัยป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาตามมาตรฐาน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2564 15:56 น.