โครงการเด็กปฐมวัย ยิ้มสดใส ห่างไกลฟันผุ
ชื่อโครงการ | โครงการเด็กปฐมวัย ยิ้มสดใส ห่างไกลฟันผุ |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | คลินิกหมอครอบครัว |
วันที่อนุมัติ | 1 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 26,275.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | คลินิกหมอครอบครัว |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางไอลดา เจ๊ะหะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลยะหา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 35 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาฟันผุในฟันน้ำนมของเด็กปฐมวัยสามารถเกิดได้ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นมาในช่องปาก อยู่ในช่วงอายุประมาณ 6 เดือน เนื่องจากเคลือบฟันน้ำนมมีความหนาน้อยกว่าเคลือบฟันถาวรครึ่งหนึ่ง จึงเกิดฟันผุได้ง่ายกว่ามาก หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาฟันผุ คือ การเลี้ยงดูของครอบครัว เช่น การปล่อยให้เด็กหลับคาขวดนม การรับประทานขนมตามใจชอบและไม่ยอมแปรงฟัน อีกทั้งผู้ปกครองหลายคนยังมีความเชื่อผิด ๆ ว่า ฟันน้ำนมไม่จำเป็นต้องดูแลก็ได้ เดี๋ยวก็มีฟันถาวรขึ้นมาแทนที่ จึงไม่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กเท่าที่ควร ยังขาดการเข้าถึง เข้าใจ และนำข้อมูลด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปากมาใช้ให้เป็นประโยชน์ มีหลายการศึกษาที่ระบุว่า ความแตกฉานด้านสุขภาพ (Health Literacy) ของผู้ปกครอง สัมพันธ์กับสภาวะฟันผุในเด็กเล็กอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยผู้ปกครองที่มีความแตกฉานด้านสุขภาพในระดับดี เด็กจะไม่มีฟันผุเกิดขึ้น นอกจากนี้ ฟันน้ำนมยังมีหน้าที่ในการบดเคี้ยวอาหาร ให้ความสวยงาม สร้างความมั่นใจให้เด็ก รวมถึงความประทับใจแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย และสำคัญ คือ ช่วยกันที่ไว้สำหรับฟันถาวรที่กำลังจะขึ้นในอนาคต ดังนั้น หากมีการผุหรือสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนด จะทำให้เด็กมีความเจ็บปวด เคี้ยวอาหารไม่ได้ตามปกติ และได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงส่งผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็กได้
จากการสำรวจสภาวะช่องปากของเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลยะหา ปีงบประมาณ 2562 พบว่า มีฟันน้ำนมผุ ร้อยละ 84.84 สอดคล้องกับข้อมูลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งพบว่ากว่าร้อยละ ๕๐ ของเด็กไทยจะมีฟันผุก่อนเข้าเรียนในชั้นอนุบาล และยังพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีคราบจุลินทรีย์สะสมบริเวณคอฟัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการแปรงฟันไม่สะอาดหรือผู้ปกครองไม่ได้แปรงฟันให้ก่อนมาโรงเรียน จากข้อมูลดังกล่าวนี้จะเห็นได้ว่า ปัญหายังอยู่ในระดับที่สูงมาก
โดยสรุป ปัญหาฟันน้ำนมผุเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งด้านชีวภาพและด้านสังคมสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยหลังนี้เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่ามีผลต่อการเกิดฟันผุค่อนข้างมาก งานทันตสาธารณสุขได้ตระหนักและเล็งเห็นว่า ปัญหาฟันน้ำนมผุเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน อีกทั้งควรมีการกระตุ้นให้ผู้ปกครองเกิดการพัฒนา การเรียนรู้ ความเข้าใจ และพฤติกรรมของตนเองซึ่งเป็นด่านแรกที่มีความสำคัญในการเฝ้าระวัง ปลูกฝัง กวดขัน ให้เด็กเกิดทักษะและการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง อันจะส่งผลให้เด็กมีสุขภาพช่องปากที่ดี รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย จึงเห็นควรให้จัดโครงการดังกล่าวนี้ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อกระตุ้นให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็กปฐมวัย 2.เพื่อยกระดับความแตกฉานด้านสุขภาพของผู้ปกครอง 3.เพื่อป้องกันและหยุดยั้งการเกิดฟันผุในปฐมวัย 4.เพื่อสร้างเสริมการมีส่วมร่วมของผู้ปกครอง -ร้อยละ 80 ของผู้ปกครองมีระดับความแตกฉานด้านสุขภาพที่ดีขึ้น -ร้อยละ 80 ของเด็กปฐมวัยไม่มีคราบจุลินทรีย์สะสมบริเวณคอฟันฃ -มีการลงบันทึกผลการตรวจสุขภาพช่องปากครบถ้วนอย่างน้อยร้อยละ 80 |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 26,275.00 | 0 | 0.00 | |
1 มี.ค. 64 - 31 ส.ค. 64 | โครงการเด็กปฐมวัย ยิ้มสดใส ห่างไกลฟันผุ | 0 | 26,275.00 | - |
ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้
1 จัดประชุมครูและผู้ปกครองเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจกรรม
2 จัดโปรแกรมการพัฒนาความแตกฉานด้านสุขภาพให้แก่ผู้ปกครอง โดยเน้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็กปฐมวัย เฉพาะประเด็นที่สำคัญที่สุดไม่เกิน 3 ประเด็น เช่น วิธีการแปรงฟัน การเลือกประเภทของอาหารที่ควรให้เด็ก
รับประทาน เป็นต้น โดยโปรแกรมดังกล่าวนี้จะใช้วิธีการและเทคนิคต่างๆ เพื่อทำให้ผู้ปกครองเกิดความรู้ความเข้าใจได้ดีขึ้นและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
3 เคลือบฟลูออไรด์วานิชให้เด็กเพื่อป้องกันและหยุดยั้งการเกิดฟันผุในฟันน้ำนม
๔ ส่งเสริมและกระตุ้นให้ครูมีส่วนร่วมกับการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก โดยสอน
วิธีการตรวจฟันและต้องมีการบันทึกผลทุกวันในสมุดที่เตรียมไว้
๕ ทันตบุคลากรติดตามผลการบันทึกสภาวะช่องปากของเด็ก สัปดาห์ละ ๒ วัน และมีการสุ่มตรวจคราบจุลินทรีย์ในเด็กร่วมด้วย เพื่อประเมินประสิทธิผลของการดำเนินโครงการ
๕. ระยะเวลาดำเนินงาน
พฤษภาคม พ.ศ. 2564 – สิงหาคม พ.ศ. 2564
๖. สถานที่
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
๗. งบประมาณ
รายละเอียดของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีดังนี้
7.1 ค่าอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมกิจกรรมตามโปรแกรมการพัฒนาความแตกฉานด้านสุขภาพ จำนวน 35 คน x ๘๐ บาท เป็นเงิน 2,800 บาท
7.2 ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมกิจกรรมตาม
โปรแกรมการพัฒนาความแตกฉานด้านสุขภาพ จำนวน 35 คน x ๒๕ บาท เป็นเงิน 875 บาท
7.3 ค่าสมุดสะสมสติ๊กเกอร์เด็กนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 35 เล่ม
x 40 บาท เป็นเงิน 1,400 บาท
7.4 ค่าชุดสติ๊กเกอร์สำหรับติดในสมุดบันทึกสภาวะช่องปากของเด็ก จำนวน 35 แผ่น x 50 บาท เป็นเงิน 1,750 บาท
7.5 ค่าแปรงสีฟันและยาสีฟัน จำนวน 35 ชุด x 60 บาท เป็นเงิน 2,100บาท
7.6 ค่าแก้วน้ำพลาสติกสำหรับเด็กนักเรียนใช้บ้วนน้ำหลังจากแปรงฟัน จำนวน 35 ชิ้น
x 10 บาท เป็นเงิน 350 บาท
7.7 ค่าโมเดลสอนแปรงฟัน จำนวน 2 ชุด ชุดละ 7,000 บาท เป็นเงิน 14,000 บาท
7.8 ค่าจัดทำสื่อให้ความรู้เรื่องการแปรงฟันในเด็กนักเรียน จำนวน 1 ชุด ชุดละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท
7.9 ค่าจัดทำที่เก็บแปรงสีฟันและยาสีฟัน 1 ชุด เป็นเงิน 1,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26,275 บาท (สองหมื่นหกพันสองร้อยเจ็ดห้าบาทถ้วน) (ทุกรายการถัวเฉลี่ยกันได้)
- เด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลยะหา มีอัตราการเกิดฟันผุในฟันน้ำนมลดลง
- ผู้ปกครองมีระดับความแตกฉานด้านสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กได้
- ครูเกิดความตระหนักและมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้น
- เด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลยะหา มีอัตราการเกิดฟันผุในฟันน้ำนมลดลง
- ผู้ปกครองมีระดับความแตกฉานด้านสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กได้
- ครูเกิดความตระหนักและมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กปฐมวัยเพิ่มมากขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2564 00:00 น.