โครงการรณรงค์ ควบคุมโรคไข้มาลาเรียในชุมชนบ้านกม.26นอก
ชื่อโครงการ | โครงการรณรงค์ ควบคุมโรคไข้มาลาเรียในชุมชนบ้านกม.26นอก |
รหัสโครงการ | 64-L8411-02-28 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกม.26นอก |
วันที่อนุมัติ | 16 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 2 สิงหาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 11,800.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวแวตีเมาะ วอเด็ง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.355399858,101.3271073place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 127 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคมาลาเรียพบมากในเขตพื้นที่มีอุณหภูมิเหมาะสมที่ทำให้เชื้อแบ่งตัวได้แก่ เขตร้อนแต่การกระจายของเชื้อโรคอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากโลกมีอุณหภูมิเพิ่มมากขึ้น และการเคลื่อนย้ายของประชากร สำหรับประเทศไทยจะพบเชื้อได้ทั่วไป ยกเว้นกรุงเทพฯ เชื้อมีมากในป่าเขาในจังหวัดตามแนวชายแดนของประเทศไทยพบว่ามีเชื้อ พี.ฟาลซิปารัม (P.falciparum) 70%พี.ไวแวกซ์(P.vivax) 50% ตัวพาหะที่นำโรคมาลาเรียคือยุงก้นปล่อง (ตัวเมีย) ซึ่งเรียกอย่างนี้เพราะว่าเวลาที่ยุงกัดคน มันจะเกาะโดยยกก้นขึ้นทำมุมกับผิวหนัง 45 องศา ในเมืองไทยพบยุงก้นปล่องที่สำคัญ 2 ชนิด คือ
1.Anopheles Dirusพบในป่าทึบ ชอบวางไข่ตามแอ่งน้ำนิ่งขังตามธรรมชาติ เช่น แอ่งหินในป่าทึบ นิสัยชอบกัดเลือดคน มากกว่าสัตว์อื่น ออกหากินตอนดึกถึงเช้ามืด และไม่ชอบเกาะฝาบ้าน
2.Anopheles Minimusพบตามชายป่า ชอบวางไข่ในลำธาร น้ำใสไหลเอื่อยๆ หลังจากกัดคน แล้วจะเกาะที่ฝาบ้าน แต่ในปัจจุบันมีการปรับตัวคือหลังจากกัดคนแล้วจะไม่เกาะฝาบ้านและจะกัดคนนอกบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะตอนหัวค่ำ ไข้มาลาเรียยังคงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัดยะลาเป็นจังหวัดหนึ่งซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซียซึ่งแต่ละปีจะมีการอพยพเคลื่อนย้ายของประชากรประกอบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนมีอาชีพเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้มาลาเรียและสภาพพื้นที่ตามแนวชายแดนเอื้อต่อการระบาดของโรคมาลาเรีย จากรายงานระบาดวิทยา สถานการณ์ไข้มาลาเรีย บ้านกม.26 นอก ตำบลตาเนาะปูเต๊ะพบผู้ป่วยทั้งหมดจำนวน ๑ คน ในปี 2563 เป็นพื้นที่ที่พบไข้มาลาเรียซ้ำซาก ( Hard core ) เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติส่วนใหญ่เป็นป่าเขา และประชาชนประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับป่าเป็นส่วนใหญ่และมีการป้องกันตนเองไม่ดีเท่าที่ควร จึงทำให้มีการระบาดของโรคมาลาเรียกระจาย จากการสอบสวนโรคผู้ป่วย พบว่าส่วนมากตอนกลางคืนไม่นอนกลางมุ้ง ยังไม่มีการป้องกันตัวเองด้วยวิธีอื่น
ดังนั้นทาง อสม.หมู่ที่ 1 บ้านกม.26 นอก เพื่อไม่ให้มีการระบาดของโรคมาลาเรีย จึงต้องมีการป้องกัน โดยการสร้างความเข้าใจ ให้ความสำคัญ และให้ความร่วมมือในการพ่นสารเคมีตกค้างในบ้าน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในชุมชนอย่างจริงจัง นำไปสู่การป้องกันโรคไข้มาลาเรียได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อลดอัตราการเกิดโรคไข้มาลาเรียจากปี63 ร้อยละ 20
|
||
2 | ครัวเรือนในพื้นที่ระบาด A2 ได้รับการพ่นสารเคมีตกค้างทุกหลัง
|
||
3 | เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดระดับการระบาดของโรค
|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 127 | 11,800.00 | 1 | 11,800.00 | |
2 - 31 ส.ค. 64 | พ่นฝาผนังหรือสารเคมีกำจัดยุงก้นปล่อง ในหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก | 127 | 11,800.00 | ✔ | 11,800.00 |
1 ประชาชนในหมู่บ้านกม.26 นอก มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาโรคไข้มาลาเรีย โดยมีการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
2 อัตราผู้ป่วยด้วยโรคไข้มาลาเรียลดลงร้อยละ20 จากปี 2563
3 มีการบูรณาการ ประสานความร่วมมือของภาคีเครือข่ายสุขภาพ องค์กรในชุมชน ในการป้องกัน ควบคุมโรคไข้มาลาเรีย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2564 09:40 น.