โครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในโรงเรียนประถมศึกษา "เด็กประกอบฟันสวย ยิ้มใส ห่างไกลฟันผุ" ปีงบ 64
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในโรงเรียนประถมศึกษา "เด็กประกอบฟันสวย ยิ้มใส ห่างไกลฟันผุ" ปีงบ 64 |
รหัสโครงการ | 64-L5202-(1)-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตำบลประกอบ |
วันที่อนุมัติ | 18 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 24 มีนาคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2564 |
งบประมาณ | 0.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวณัฏฐณิชา เจ๊ะเลาะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายสุธน โสระเนตร์ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.483,100.643place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 431 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของเด็กวัยเรียน (6 ปีขึ้นไป) ที่มีปัญหาฟันผุ | 431.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันปัญหาด้านสุขภาพเป็นปัยหาสำคัญอย่างหนึ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะโรคฟันผุจะพบมากในเด็กนักเรียนประถมศึกษาเมื่อเทียบกับโรคอื่นๆ ที่ตรวจพบในกลุ่มเดียวกัน ปัยหาด้านทันตสุขภาพนั้น นอกจากจะมีผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพช่องปากของเด็กแลัวยังมีผลกระทบต่อการเรียน และพัฒนาการของเด็กนักเรียนประถมศึกษาในช่วงอายุ 6-12 ปี เป็นวัยที่มีฟันแท้ขึ้นใหม่ๆ ลักษณะรูปร่างฟันมีหลุมร่องลึกทำให้เกิดโรคฟันผุได้ง่ายหากขาดทั้งความรู้ในเรื่องโรคในช่องปาก ความตระหนักในการดูแลสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลช่องปากล้วยก่อให้เกิดแนวโน้มโรคฟันผุ และภาวะเหงือกอักเสบสูงขึ้น ตลอดจนมีข้อจำกัดในเรื่องความสามารถในการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเองล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคในช่องปากได้ง่าย หากไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีพอโรคในช่องปากเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้และสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเริ่มต้นส่งเสริมตั้งแต่วัยเด็ก การฝึกฝนให้เด็กมีทันตสุขนิสัยที่ดีและการส่งเสริมและป้องกัน รวมทั้งการบำบัดรักษาในระยะเริ่มแรกของการเป็นโรคจะช่วยป้องกันและควบคุมโรคในช่องปากของเด็กได้ จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 8 พ.ศ. 2560 พบว่า มีอัตราการเกิดโรคฟันผุทำให้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางทันตสาธารณสุขทุกคนต้องร่วมมือกันในการแก้ปัยหา (วุฒิกุล ธนากาญจนภักดี) ซึ่งเด็กไทยในปัจจุบันส่วนใหญ่จะประสบปัยหาทางทันตสุขภาพ ดังนี้ 1. ฟันผุเพิ่มขึ้น 2. แปรงฟันที่โรงเรียนลดลง 3.กินขนมมากขึ้นและกินอาหารที่มีเส้นใยลดลง จากการสำรวจนักเรียนชั้นประถมศึกษา จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่ตำบลประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พ.ศ. 2562 ก้ได้ประสบปัยหาดังกล่าวเช่นกัน โดยเฉพาะปัยหาโรคฟันผุ พบว่ารักเรียนมีฟันแท้ผุ จำนวน 145 คน คิดเป็นร้อยละ 30.27 และในพื้นที่ตำบลประกอบพบว่ามีฟันผุ อุด ถอนที่สูงมากของนักเรียนอายุ 12 ปี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.80 ซี่ต่อคน เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยฟันผุ อุด ถอน ในระดับประเทศเท่ากับ1.40 ๙ี่ต่อคน (สภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศ ครั้งที่ 8 ประเทสไทย พ.ศ. 2560 - 2561) จากปัญหาดังกล่าวเนื่องจากนักเรียนขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเอง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาทางทันตสุขภาพที่สำคัญ การแก้ไขปัยหาดังกล่าวทำได้ดดยการใช้รุปแบบการให้บริการทันตกรรมครบวงจร การตรวจสุขภาพช่องปากการให้สุขศึกษา การให้บริการทันตกรรม การแปรงฟันที่ถูกวิธี และการติดตามประเมินผลทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตำบลประกอบ ตำบลประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ได้เห็นถึงความสำคัยของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในโรงเรียนประถมศึกษา "เด็กประกอบฟันสวย ยิ้มใส ห่างไกลฟันผุ "ขึ้น เพื่อให้เด็กนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีความตระหนักในการดูแลสุขภาพช่องปาก และได้รับการดูแลทันตสุขภาพอย่างเหมาะสม
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อลดภาวะฟันผุของเด็กวัยเรียน (6 ขึ้นไป) ลง ร้อยละของเด็กวัยเรียน (6 ปีขึ้นไป) ที่มีปัญหาฟันผุ |
431.00 | |
2 | 2. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมที่ดีขึ้นในการดูลสุขภาพช่องปาก ร้อยละ ของแกนนำนักเรียนและนักเรียนทั่วไปมีระดับความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมด้านทันตสุขภาพเพิ่มขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ (มากกว่าหรือเท่ากับ 12 คะแนน จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน) |
80.00 | |
3 | 3. เพื่อให้นักเรียนมีการแปรงฟันอย่างถูกวิธีและครอบคลุมทุกด้าน ร้อยละของแกนนำนักเรียนและนักเรียนทั่วไปมีค่า Plaque index เฉลี่ยลดลง (โดยใช้แบบบันทึกค่า Pi ของ Stallardet al.) |
80.00 | |
4 | 4. เพื่อให้นักเรียนมีการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันเป็นประจำทุกวัน ร้อยละของเด็กนักเรียนมีการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันเป็นประจำทุกวัน |
80.00 | |
5 | 5. เพื่อเสริมสร้างสุขภาพอนามัยช่องปากและบริการป้องกันโรคฟันผุในเด็ก ได้แก่ การตรวจสุขภาพช่องปาก การทาฟลูออไรด์วานิช และการบริการทางทันตกรรม ร้อยละของเด็กนักเรียนได้รับการเสริมสร้างและการบริการป้องกันโรคฟันผุ ได้แก่ การตรวจสุขภาพช่องปาก การทาฟลูออไรด์วานิช และการบริการทางทันตกรรม |
80.00 |
ขั้นเตรียมการ
1. สำรวจข้อมูลในโรงเรียน และจำนวนนักเรียนเพื่อนำมาวางแผนการปฏิบัติงาน
2. ร่างโครงการและแผนปฏิบัติงาน
3. วางแผนเพื่อจัดทำโครงการ
4. ประสานความร่วมมือส่วนราชการและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
5. ประสานวิทยากร
6. กำหนดวันดำเนินงาน
7. ดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
8. ติดตามผลการดำเนินงาน
9. ประเมินผลและสรุปโครงการ
ขั้นดำเนินการ
1. กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมอบรมให้ความรู้ด้านทันตสุขศึกษาแก่แกนนำโรงเรียน จำนวน 48 คน (โรงเรียนละ 12 คน)
- แบบสอบถามก่อนเข้าอบรม
1.1 อบรมให้ความรู้ด้านทันตสุขภาพและโภชนาการเกี่ยวกับสุขภาพ
1.2 ฝึกทักษะการแปรงฟัน
1.3 ฝึกทักาะการใช้ไหมขัดฟัน
1.4 ฝึกทักาะการตรวจฟันและจดบันทึก
2. กิจกรรมที่ 2 กิจกรรม Walk rally 4 ฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 431 คน (4 โรงเรียน) ดำเนินกิจกรรม 4 วัน วันละ 1 โรงเรียน
- แบบสอบถามก่อนเข้าอบรม
2.1 ฐานที่ 1 ให้ความรู้เรื่องโรคฟันผุและโรคหลอดเหงือกอักเสบ
2.2 ฐานที่ 2 ให้ความรู้เรื่องอาหารที่ีผลต่ออนามัยช่องปาก
2.3 ฐานที่ 3 ฝึกทักาะการแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟัน
2.4 ฐานที่ 4 แปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติ พร้อมย้อมคราบจุลินทรีย์
3. กิจกรรมที่ 3
3.1 ทำแบบสอบถามหลังเข้ารับการอบรม หลังให้ความรู้หนึ่งสัปดาห์
3.2 ทำกิจกรรมแปรงฟันหลังอาหารกลางวัน
-เปิดเพลงแปรงฟันในช่วงเสียงตามสายทุกวัน
-มีการบันทึกการแปรงฟันทุกวันของแต่ละห้อง
3.3 ให้บริการตรวจสุขภาพช่องปาก ทาฟลูออไรด์วานิช และการบริการทันตกรรม
3.4 ติดตามผลการปกิบัติงานอย่างต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน
4. สรุปผลการดำเนินโครงการ
ติดตามและประเมินผล
1. แบบทดสอบด้านความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ
2. แบบบันทึกการย้อมสีคราบจุลินทรีย์ (โดยใช้แบบบันทึกค่า Pl ของ Stallard et al.) มีคราบจุลินทรียืในฟันทุกตำแหน่งลดลงอย่างน่อย 1 ระดับ
3. แบบบันทึกการแปรงฟันหลังอาหารกลางวัน (โดยแกนนำนักเรียน)
4. นักเรียนในโรงเรียนได้รับการตรวจตรวจสุขภาพช่องปาก ทาฟลูออไรด์วานิช และบริการทันตกรรม
- นักเรียนมีสภาวะทางทันตสุขภาพที่ดีขึ้น
- นักเรียนมีความเข้าใจและเห็นความสำคัยของการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเอง
- นักเรียนมีทัศนคติและพฤติกรรมที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปาก
- นักเรียนสามารถดูแลสุขภาช่องปากของตนเองได้อย่างีประสิทธิภาพ
- นักเรียนสามารถแปรงฟันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
- นักเรียนสามารถลดความถี่ในการรับประทานอาหารได้
- นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 10:22 น.