โครงการตรวจคัดกรองความเสี่ยงสุขภาพประชาชนจากภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
ชื่อโครงการ | โครงการตรวจคัดกรองความเสี่ยงสุขภาพประชาชนจากภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช |
รหัสโครงการ | 64-L1521-02-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกะลาเส |
วันที่อนุมัติ | 19 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 15 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 11,995.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางเพ็ญศรี บัวขำ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.744,99.326place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 เม.ย. 2564 | 30 ก.ย. 2564 | 11,995.00 | |||
รวมงบประมาณ | 11,995.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์ และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้ จึงแสดงอาการต่างๆ ขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อโรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
ประชาชนตำบลกะลาเส ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เกษตรกรมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เนื่องจากรูปแบบการเกษตรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากการเกษตรทำเพื่อการบริโภคมาเป็นการเกษตรเศรษฐกิจ เกษตรกรต้องการเพิ่มผลผลิตและรักษาคุณภาพของสินค้า สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดออกาโนฟอสและคาร์บาร์เมทได้ถูกนำมาใช้ในแปลงผักและไร่นาของเกษตรกรอย่างแพร่หลาย ประกอบกับการขาดองค์ความรู้ในการใช้สารเคมีส่งผลให้เกิดสารพิษตกค้างในผัก และสะสมในลำห้วย หนอง คลองบึง ฯลฯ การบริโภคผักและใช้แหล่งน้ำที่มีการสะสมสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้ร่างกายที่ได้รับสารพิษมีอาการเฉียบพลัน อาทิ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ท้องร่วง ตาพร่า หายใจติดขัด ฯลฯ
จากการเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลผลการตรวจเลือดประชาชนจังหวัดตรัง ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ ถึง ๒๕๖๒ พบว่า มีประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยง อยู่ระหว่างร้อยละ ๑๐.๖๓ – ๒๔.๙๕ และในปี ๒๕๕๒ มีแนวโน้มจะสูงขึ้น ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จังหวัดตรังได้ส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยรางจืดเพื่อส่งเสริมสุขภาพและลดภาวะเสี่ยง ซึ่งจากข้อมูลพบว่าวิธีดังกล่าวได้ผลดี โดยทำให้กลุ่มเสี่ยงกลับไปเป็นกลุ่มปกติ ถึงร้อยละ ๙๓.๕ -๙๕.๐ จังหวัดตรังได้กำหนดยุทธศาสตร์จังหวัดเพื่อรองปัญหาสุภาพตามกลุ่มวัย ซึ่งกลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพคือกลุ่มวัยแรงงาน เนื่องจากกลุ่มนี้คือกำลังหลักของสังคมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูแลสถาบันครอบครัว
ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกะลาเส ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหา จึงได้จัดทำโครงการตรวจคัดกรองค้นหาความเสี่ยงสุขภาพประชาชน จากภัยสารเคมีกำจัด ศัตรูพืช เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันและลดอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเกษตรกร และสร้างความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑.เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนผู้บริโภค ได้รับการเจาะเลือด ตรวจคัดกรอง ค้นหาระดับสารเคมีฆ่าแมลงตกค้างในร่างกายโดยวิธี Reactive Paper test ๑.เพื่อให้ประชาชนทุกคนที่ตรวจพบภาวะเสี่ยง ในระดับ มีความเสี่ยงและ ระดับไม่ปลอดภัย ได้รับการส่งเสริมสุขภาพด้วยสมุนไพรไทย 1.จำนวนกลุ่มเป้าหมายได้รับการตรวจเลือดหาปริมาณสารเคมีตกค้างไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 2.จำนวนกลุ่มเป้าหมาย ในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีสารเคมีในเลือดระดับเสี่ยง/ไม่ปลอดภัย เข้าสู่กระบวนการขับสารพิษด้วยสมุนไพรรางจืดและมีผลการตรวจเลือดครั้งที่ 2 มีผลเลือดดีขึ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 |
80.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 150 | 11,995.00 | 0 | 0.00 | |
15 เม.ย. 64 - 15 ก.ย. 64 | 1.จัดเตรียมข้อมูล 2.ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง 3.จัดทำไวนิลเพื่อประชาสัมพันธ์ 4.จัดประชุมให้ความรู้พิษภัยสารเคมี | 150 | 11,995.00 | - |
- วิธีดำเนินการ
ขั้นเตรียมการ
๑.จัดเตรียมข้อมูล
๒.ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรและบุคลากร และงบประมาณเพื่อ
- ประชุมชี้แจงโครงการ
- จัดหาวัสดุชุดเจาะเลือดตรวจคัดกรองและแบบคัดกรอง
- จัดหาสมุนไพร รางจืด
ขั้นดำเนินการ
๑.จัดทำไวนิลเพื่อประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแก่ประชาชนในเขตรับผิดชอบ ดังนี้ หมู่ 2 จำนวน 1 ผืน,หมู่ 3 จำนวน 1 ผืน,หมู่ 4 จำนวน 1 ผืน,หมู่ 6 จำนวน 1 ผืน, และหมู่ 7 จำนวน 1 ผืน
๒.จัดประชุมให้ความรู้ พิษภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประชาชนผู้บริโภค และสัมภาษณ์คัดกรองความเสี่ยงเบื้องต้น
3.กิจกรรมตรวจคัดกรองตรวจเลือดกลุ่มเป้าหมาย
- เจาะเลือดคัดกรองความเสี่ยง
4.ส่งเสริมสุขภาพกลุ่มเสี่ยงทุกรายในรายที่ตรวจพบการใช้สารเคมีกำจัด ศัตรูพืชที่มีสารเคมีในเลือดระดับเสี่ยง/ไม่ปลอดภัย เข้าสู่กระบวนการบำบัดพิษ ด้วยสมุนไพรรางจืดต่อเนื่องอย่างน้อย 10 วัน 5.ติดตามและเจาะเลือดซ้ำ กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการส่งเสริมสุขภาพด้วยสมุนไพรรางจืดภายใน 1 เดือน ขั้นประเมินผลและสรุปรายงาน ๑.เจ้าหน้าที่ประชุมสรุปผลโครงการ ๒.รายงานผลการดำเนินงานต่อกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลกะลาเส
- เกษตรกรมีพฤติกรรมการใช้สารเคมีที่ถูกต้องปลอดภัยและประชาชนเกิดพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพที่ดี
- ทำให้เกษตรกรได้ทราบสถานการณ์ความเสี่ยงสุขภาพจากสารเคมีตกค้างในร่างกายเพื่อกำหนดมาตรการส่งเสริมการลดผลกระทบจากโรคที่สืบเนื่องจากพิษสารเคมีกำจัดแมลงและสารเคมีกำจัดวัชพืช ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2564 13:31 น.