โครงการรวมพลังชุมชนต้านโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | โครงการรวมพลังชุมชนต้านโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | 8/2560 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.ลิดล |
วันที่อนุมัติ | 14 กรกฎาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 2 สิงหาคม 2560 - 21 ธันวาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 90,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | รพ.สต.ลิดล |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางซัลมาหะยีสะมะแอ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลลิดล อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.551,101.166place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 140 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 140 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากผลการคัดกรองสุขภาพโดย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลิดล ระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2559 ประชาชนอายุ 35 ปี ขึ้นไปในตำบลลิดลจำนวน 2,121 คน พบว่ามีภาวะเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง จำนวน914คนคิดเป็นร้อยละ43.09ซึ่งกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการเฝ้าระวังโดยการตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตำบลลิดลมีจำนวนผู้ป่วยโรคเรื้อรังทั้งหมด 443 คน โดยแบ่งเป็นโรคเบาหวาน 125 คนความดันโลหิตสูง318 คน รับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลิดล จำนวน 228 คน ในจำนวนนี้สามารถควบคุมความดันได้ดีจำนวน 42 คนคิดเป็น ร้อยละ27.10 และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีคิดเป็นร้อยละ 24.66 ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ ปัญหาสำคัญของโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้คือ การเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยและค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขโดยรวม ได้แก่ ไตวายเรื้อรัง โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือด และการถูกตัดขา/ตัดนิ้ว
ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลิดล ตำบลลิดล อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลาจึงได้จัดทำโครงการรวมพลังชุมชนต้านโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ปี 2560 ขึ้น เพื่อพัฒนาระบบการป้องกันโรคเรื้อรังอย่างเป็นระบบให้ต่อเนื่องและยั่งยืน โดยใช้ภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วมจากชุมชน (อสม.) ในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่การตรวจคัดกรองโรคในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป การตรวจเฝ้าระวังโรคทั้งในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วย ร่วมกับการให้ความรู้เพื่อลดความรุนแรงของโรค และการติดตามประเมินภาวะสุขภาพในกลุ่มผู้ป่วยโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยคาดหวังว่า ประชาชนทุกกลุ่มได้แก่ กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วยจะสามารถเข้าถึงบริการตรวจสุขภาพได้ง่ายในชุมชนอีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถดูแลซึ่งกันและกันได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อจัดตั้งจุดบริการตรวจวัดความดันโลหิตและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดครอบคลุมกลุ่มบ้านทุกหมู่บ้านในตำบลลิดล
|
||
2 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย(ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง)ร้อยละ 80ได้รับการตรวจสุขภาพทุกเดือน
|
||
3 | เพื่อให้กลุ่มป่วยที่ได้รับการอบรมอย่างน้อยร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
|
||
4 | เพื่อให้อสม.ที่ได้รับการอบรมอย่างน้อยร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะในการตรวจคัดกรองและการให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการ
|
||
5 | . เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 30 สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้อย่างน้อยร้อยละ 40
|
- จัดทำโครงการเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น
อบต. ลิดล 2.ดำเนินการตามโครงการดังนี้ 2.1 ดำเนินการโดยอสม.
- ฟื้นฟูความรู้และทักษะการตรวจสุขภาพแก่อสม.จำนวน 60 คน
โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นๆละ 30 คน ในหัวข้อดังนี้
- ทักษะการตรวจน้ำตาลในเลือด ,การวัดความดันโลหิต และการคำนวนณค่าดัชนีมวลกาย
- ฝึกปฏิบัติการให้คำแนะนำแก่ผู่มารับบริการ
- จัดซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดพร้อมอุปกรณ์
จำนวน 5 ชุด
- จัดตั้งจุดบริการตรวจวัดความดันโลหิตและตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
อบรมให้ความรู้แก่ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน จำนวน40 คน
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน40 คน
. สามารถตั้งจุดบริการตรวจวัดความดันโลหิตและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดครอบคลุมกลุ่มบ้านทุกหมู่บ้านในตำบลลิดล
2. ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงร้อยละ 80ได้รับการตรวจสุขภาพทุกเดือน
3. กลุ่มป่วยที่ได้รับการอบรมอย่างน้อยร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
4. อสม.ที่ได้รับการอบรมอย่างน้อยร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะในการตรวจคัดกรองและการให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการ
5. ร้อยละ 30 ของผู้ป่วยเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้อย่างน้อยร้อยละ 40
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2560 11:42 น.