กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างแก่สังคม เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง และกระทบต่อความสงบสุขของประชากรในประเทศไทย ทั้งนี้รัฐบาลได้ตระหนักถึงความจำเป็น โดยกำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน มีการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง มีหลักการสำคัญ 2 ประการ คือ    การลดอุปทาน หรือการลดปริมาณยาเสพติด (Supply Reduction) และ การลดอุปสงค์ หรือลดความต้องการใช้ยาเสพติด (Demand Reduction)
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีความห่วงใยต่อประชาชนชาวไทยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ระหว่าง 6-24 ปี จำนวน 21 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จึงทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยความร่วมมือและรวมพลังจากภาครัฐ และเอกชน กระตุ้น ปลูกจิตสำนึกของปวงชนในชาติให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักว่าการที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติด มิใช่หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือ องค์กรใดองค์หนึ่ง แต่ทุกคนในชาติต้องร่วมแรงร่วมใจกันเป็นพลังของแผ่นดินที่จะต่อสู้ เอาชนะปัญหายาเสพติด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีพระประสงค์มุ่งเน้นการรณรงค์ ในกลุ่มเยาวชนเป็นเป้าหมายหลัก โดยวิธีการสร้างกระแสการไม่ข้องแวะยาเสพติด ด้วยการจัดตั้งชมรม “TO BE NUMBER ONE” ในสถานศึกษา และ นอกสถานศึกษาของทุกจังหวัดเพื่อให้เกิดค่านิยมของการเป็นหนึ่งได้โดยไม่ต้องพึ่งยาเสพติด และจัดระบบการบำบัดรักษารองรับภายใต้โครงการ “ใครติดยายกมือขึ้น” ทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะคืนคนดีสู่สังคม อำเภอไม้แก่น เป็นอำเภอหนึ่งที่ประสบปัญหายาเสพติด จึงได้กำหนดนโยบายเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเน้นกลุ่มเสี่ยงไม่ให้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อให้การดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหา    ยาเสพติดในอำเภอไม้แก่น ประสบผลสำเร็จสูงสุด เยาวชนมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่นระดับจังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ เพื่อต่อยอดให้เป็นต้นแบบขยายผลและก้าวสู่มาตรฐานการดำเนินงานโครงการที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อการพัฒนาต่อไป สำนักงานสาธารณสุขอำเภอไม้แก่น ในฐานะเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE อำเภอไม้แก่น จึงได้จัดทำโครงการ TO BE NUMBER ONE (เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด) ขึ้น ซึ่งในการดำเนินงานงบประมาณบางส่วนไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องของบประมาณสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่ต่อเนื่องต่อไป