โครงการ อนามัยแม่และเด็ก “นมแม่ สายใยรักแห่งครอบครัว”ประจำปี 2565
ชื่อโครงการ | โครงการ อนามัยแม่และเด็ก “นมแม่ สายใยรักแห่งครอบครัว”ประจำปี 2565 |
รหัสโครงการ | L5248-01-65-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนเสม็ด |
วันที่อนุมัติ | 2 สิงหาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 33,125.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางศิริจันทร์พร พลเพ็ชร |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.694,100.473place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ส.ค. 2565 | 30 ก.ย. 2565 | 33,125.00 | |||
รวมงบประมาณ | 33,125.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 70 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณมีนโยบายส่งเสริม สนับสนุน และปกป้องให้เด็กทุกคนได้กินนมแม่อย่างเต็มที่ตามคำแนะนำขององค์กรอนามัยโลก (WHO) ว่า “เด็กตั้งแต่แรกเกิด – 6 เดือน ควรได้รับนมแม่อย่างเดียวและกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปี หรือมากกว่านั้น” ประเทศไทยจึงได้ตั้งเป้าหมายในปี 2568 ได้ว่า “ร้อยละของเด็กแรกเกิด – 6 เดือน กินนมแม่อย่างเดียวร้อยละ 50” ซึ่งในสถานการณ์ของประเทศไทยปัจจุบันนั้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน มีเพียงร้อยละ 14 ซึ่งยังต่ำกว่าตราเฉลี่ยทั่วโลก และต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สาธิต, 2564) และจากการดำเนินงานอนามัยแม่และเด็กของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนเสม็ด การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีเพียงร้อยละ 62.50 เท่านั้น ซึ่งยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้อาจเพราะมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต สภาพเศรษฐกิจ และสังคม ครอบครัวที่เคยอยู่พร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก และญาติ แม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ลาหลังคลอดไม่ได้ มีความจำเป็นต้องละทิ้งเด็กไว้กับปู่ ย่า ตา ยาย ที่มีประเพณี ความเชื่อ ทัศนคติดั้งเดิม และมีความรู้ไม่เพียงพอ ทำให้เด็กได้รับ นมแม่อย่างเดียวจนอายุ 6 เดือนลดน้อยลง ดังนั้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับลูก (Good start) เป็นอาหารธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคแก่ทารก และสามารถเสริมสร้างความรัก ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก จากการที่แม่ได้สัมผัสลูกแบบเนื้อแนบเนื้อ ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น มั่นคง ปลอดภัย การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยให้ลดการเสียเลือดหลังคลอดน้อยลง รูปร่างแม่คืนสู่สภาพเดิมได้เร็ว ช่วยให้แม่และลูกไม่เป็นโรคอ้วน หากให้นมแม่เป็นเวลานานจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ นอกจากนี้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผสม และอุปกรณ์ในการชงนม (พรพิมล อาภาสสกุล, 2559) การจัดโครงการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อสร้างรากฐานที่ดีของชีวิตจึงมีเป้าหมายเพื่อเป็นการเพิ่มความรู้และทัศนคติ เรื่องความสำคัญและประโยชน์ของนมแม่ ความแตกต่างของนมแม่และนมผสม หลักการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การจัดท่าให้นมแม่ที่ถูกต้อง แม่ทำงานสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ และเพิ่มทักษะการนวดเต้านม การบีบเก็บน้ำนม และการนำน้ำนมที่เก็บไว้ออกมาใช้ ซึ่งคาดหวังว่าโครงการนี้จะนำไปสู่ความตั้งใจของหญิงตั้งครรภ์และบุคคลในครอบครัว และสามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 ต่อเนื่องจนถึงอายุ 2 ปี หรือมากกว่านั้น ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่ดีของชีวิตให้กับหญิงตั้งครรภ์และทารกแรกเกิด
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
---|
หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้
วิธีดำเนินงาน
1. จัดประชุมแกนนำอนามัยแม่และเด็ก และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อค้นหาปัญหาและวางแผนการดำเนินโครงการ
2. สำรวจและทำทะเบียนแม่หลังคลอดในพื้นที่
2. ประชาสัมพันธ์โครงการให้กลุ่มเป้าหมายรับทราบ
3. จัดอบรมให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่แกนนำอนามัยแม่และเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หญิงที่วางแผนอยากมีบุตร และหญิงหลังคลอดโดยวิทยากร
- หลักการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ความสำคัญและประโยชน์ของนมแม่ ความแตกต่างของนมแม่และนมผสม
จำนวน 1 ชั่วโมง
- วิธีการให้นมลูกที่ถูกต้อง จำนวน 1 ชั่วโมง
- สาธิตการให้นมลูกอย่างถูกวิธี จำนวน 1 ชั่วโมง
- การเตรียมนมให้ลูกสำหรับแม่ที่ต้องไปทำงานนอกบ้าน จำนวน 1 ชั่วโมง
- ให้ความรู้เรื่องการบริโภคอาหารเสริมการหลั่งของน้ำนมแม่ จำนวน 1 ชั่วโมง
4. แกนนำอนามัยแม่และเด็ก ออกติดตามเยี่ยมบ้าน เพื่อดูวิธีการปฏิบัติของแม่ในการให้นมลูก สอบถามปัญหา และให้คำแนะนำเพิ่มเติมตามความจำเป็น ทุก 2 สัปดาห์ ช่วงหลังคลอด จากนั้นทุก 1 – 2 เดือน
5. รายที่ผิดปกติ ประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ รพ.สต. เพื่อนัดหมายการดูแล
6. ประเมินผลการดำเนินงาน โดยแบบทดสอบความเข้าใจ ก่อน – หลังการได้รับความรู้
7. สรุปผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการพร้อมแบบรายงาน ส่งให้กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
- แกนนำอนามัยแม่และเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หญิงที่วางแผนอยากมีบุตร และหญิงหลังคลอด มีความรู้ความเข้าใจ ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อยนาน 6 เดือน
- หญิงหลังคลอดสามารถปฏิบัติวิธีการให้นมลูกได้ถูกต้อง
- หญิงหลังคลอดหรือผู้ดูแลมีความรู้และปฏิบัติได้ถูกต้องเกี่ยวกับการเก็บน้ำนมและการเอานมไปใช้ขณะที่แม่ ออกไปทำงานนอกบ้าน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2565 14:47 น.