โครงการแช่เท้าสมุนไพรในผู้ปุวยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ
ชื่อโครงการ | โครงการแช่เท้าสมุนไพรในผู้ปุวยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเอะ |
วันที่อนุมัติ | 16 มีนาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 มกราคม 2560 - 29 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 19,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวฟาดิลละห์ อับดุลฮานุง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 158 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันโรคเรื้อรังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขไทยโดยเฉพาะเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งในแต่ละปีจะต้องมีการใช้จ่ายในการรักษาโรคเรื้อรังเหล่านี้เป็นจานวนมาก ซึ่งเมื่อเจ็บปุวยแล้วก็จะต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง การรับประทานยาอย่างสม่าเสมอพบแพทย์ตามนัด รวมทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการออกกาลังกาย การรับประทานอาหาร การจัดการด้านอารมณ์เพื่อปูองกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังของระบบต่อมไร้ท่อที่พบได้บ่อยและเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สาคัญของหลายประเทศและอัตราความชุกของโรคมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และมีปัจจัยสนับสนุนด้านพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม การขาดการออกกาลังกาย ภาวะเครียด ประกอบกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ช่วยให้คนมีชีวิตยืนยาวขึ้น ความผิดปกติที่เท้าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สาคัญอย่างหนึ่งที่เกิดจากการเสื่อมของเส้นประสาทและหลอดเลือด ทาให้อัตราความเร็วในการนาสัญญาณประสาทลดลง ความไวของผิวหนังต่อการรับรู้สัมผัสลดลงหรือหายไป ซึ่งการเสื่อมของหลอดเลือดและเส้นประสาทมักปรากฎอาการมากที่เท้า ทาให้การรับรู้ความรู้สึกบริเวณเท้าลดลง เกิดอาการชาเมื่อผู้ปุวยเดินสะดุดของแข็งหรือเหยียบของมีคมจึงไม่รู้สึกตัว เกิดเป็นแผลง่าย นอกจากนี้ยังทาให้เลือดไปเลี้ยงเท้าน้อยลง เกิดการขาดเลือดกลายเป็นเนื้อตายได้เมื่อเกิดการติดเชื้อที่แผลขึ้นร่วมกับการที่ผู้ปุวยไม่ได้ดูแลใส่ใจเท้าเป็นพิเศษ ทาให้ผู้ปุวยเบาหวานมีโอกาสถูกตัดขาได้เนื่องจากเกิดแผลเนื้อตายที่เท้ามากกว่าคนปกติถึง 40 เท่า แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่๑๑ได้มุ่งเน้นระบบสุขภาพแบบพอเพียงส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยตนเองโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเช่นการบาบัดรักษาความเจ็บปุวยด้วยการแพทย์แผนไทยซึ่งการแพทย์แผนไทยเป็นกรรมวิธีทางภูมิปัญญาที่อิงความเป็นธรรมชาติ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทยอีกทั้งยังเป็นการรักษาความเจ็บปุวยแบบองค์รวมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งด้านสุขภาพที่ประชาชนสามารถดูแลปูองกันตัวเองได้ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพการปูองกันโรคการรักษาพยาบาลการฟื้นฟูสมรรถภาพ และการเฝูาระวังโรคในการบาบัดรักษาโรคด้วยการแพทย์แผนไทยได้ใช้วิธีการอย่างหลากหลาย เพื่อให้ได้ผลการรักษาทั้งทางร่างกายและจิตใจเช่นการใช้ธรรมชาติบาบัดการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นการใช้พิธีกรรมความเชื่อ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน การดื่มน้า เป็นต้น แพทย์ทางเลือกเป็นอีกทางหนึ่งที่ให้การดูแลสุขภาพในผู้ปุวยโรคเรื้อรังควบคู่ไปกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความเจ็บปุวยและเป็นการลดการใช้ยาแผนปัจจุบันที่มากเกินความจาเป็นในกลุ่มผู้ปุวยโรคเรื้อรัง รวมทั้งผู้ปุวยสามารถนากลับไปปฏิบัติใช้ที่บ้านเพื่อดูแลสุขภาพตนเองได้ ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลสะเอะ ได้เล็งเห็นความสาคัญจึงได้จัดทาโครงการแช่เท้าสมุนไพรในผู้ปุวยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุปีงบประมาณ ๒๕60 ขึ้นเพื่อให้การดูแล ส่งเสริม ฟื้นฟู สุขภาพของผู้ปุวยและเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพให้แก่ผู้ปุวยโรคเรื้อรัง เป็นการเฝูาระวังการดูแลเท้าด้วยตนเองด้วยศาสตร์แพทย์แผน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชนโดยใช้ศาสตร์แพทย์แผนไทย จากการสอบถามแบบประเมินหลังอบรมผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องการดูแลเท้าเบื้องต้น คิดเป็นร้อยละ 80 ซึ่งบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด |
||
2 | เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุได้รับความรู้และทักษะในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง จากการสุ่มถามและให้การสาธิตการตรวจดูแลเท้า ผู้เข้ารับการอบรมสามารถอธิบายหลัการดูแลเท้าเบื้องต้นได้และสามารถตรวจอาการชาของฝ่าเท้าได้ด้วยตนเอง ซึ่งบบรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด |
||
3 | เพื่อลดการใช้ยาแผนปัจจุบันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพยาบาลในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
|
- เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติงบค่าโครงการ
- ชี้แจงโครงการแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและแต่งตั้งคณะทางาน
- ประชาสัมพันธ์โครงการ 4.จัดอบรมให้ความรู้เรื่องการดูแลเท้าในผู้ปุวยโรคเบาหวานด้วยตนเอง ๕ ขั้นตอน ได้แก่ การเช็ดเท้า การตรวจ คลา ทาโลชั่น การแช่เท้าด้วยน้าต้มสมุนไพร การบริหารเท้า เป็นต้น แก่ผู้ปุวยโรคเบาหวานจานวน 58คน และผู้สูงอายุในพื้นที่หมู่ 1, 2, 5 และหมู่ 6 จานวนหมู่ละ 25 คน รวมทั้งหมดจานวน 158 คน ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลสะเอะ
- ประเมินเท้าในผู้ปุวยโรคเบาหวานตามระดับความรุนแรง ๔ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยงปานกลาง กลุ่มเสี่ยงสูง และกลุ่มมีแผล 5.1 กลุ่มปกติ หมายถึง ไม่มีแผล เท้าปกติ 5.2 กลุ่มเสี่ยงปานกลาง หมายถึง ไม่มีแผลเท้าผิดรูป ผิวหนัง เล็บผิดปกติ ชีพจรที่เท้าผิดปกติหรือมีการรับความรู้สึกที่เท้าผิดปกติ 5.3 กลุ่มเสี่ยงสูง หมายถึง ไม่มีแผล มีประวัติเคยมีแผลที่เท้า เท้าผิดรูป ร่วมกับชีพจรเท้าผิดปกติ หรือมีการรับความรู้สึกที่เท้าผิดปกติ 5.4 กลุ่มที่มีแผลที่เท้า
- ตรวจประเมินความรู้สึกที่เท้าด้วย Monofilament เพื่อวัดระดับความรู้สึกอาการชาที่เท้าทั้งก่อนและหลังการแช่เท้า
- แช่เท้าสมุนไพร
- ทดสอบระดับความเข้าใจการดูแลเท้าด้วยตนเองของผู้ปุวยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ ก่อนและหลังสิ้นสุด
- ผู้ปุวยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุมีความรู้เรื่องการดูแลเท้าเบื้องต้น
- ผู้ปุวยโรคเบาหวานได้รับการตรวจเท้า
- ผู้ปุวยโรคเบาหวานตระหนักถึงความสาคัญของการดูแลเท้าและสามารถดูแลเท้าได้ด้วยตนเอง
- แพทย์แผนไทยสามารถดูแลสุขภาพในกลุ่มผู้ปุวยโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ ควบคู่ไปกับการแพทย์แผนไทย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2559 13:50 น.