กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ปัญหาทางสุขภาพช่องปากเป็นปัญหาทางสาธารณสุขสำคัญที่ทำลายสุขภาพของประชาชน โดยโรคในช่องปากที่พบมากและเป็นปัญหาสาธารณสุขอันดับแรกในวัยเรียนคือ โรคฟันผุ จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 7 พ.ศ.2555 การสำรวจสภาวะโรคฟันผุในกลุ่มอายุ 12 ปี ระดับประเทศ พบว่ามีฟันแท้ผุ ร้อยละ 52.3 มีค่าเฉลี่ย ฟันผุ อุด ถอน(DMFT) เท่ากับ 1.3ซี่ต่อคน ทั้งนี้ฟันที่ผุส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้รับการรักษาคิดเป็นร้อยละ 29.1 (สำนักงานทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. 2555 : 36)ในช่องปากของคนเราประกอ¬บไปด้วยอวัยวะหลายส่วนประกอบกันไม่ว่าจะเป็น ฟัน ลิ้น เหงือก เส้นเลือด เส้นประสาท เป็นต้น แต่ละส่วนก็มีหน้าที่แตกต่างกันไปตามความสามารถและการสั่งการของสมอง ร่างกายของคนเราไม่สามารถขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปได้เนื่องจากทุกส่วนต่างก็มีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น ในทุกๆวันคนเราจะต้องบริโภคอาหารเข้าไปผ่านทางช่องปากไม่ว่าจะเป็นอาหารแข็งหรืออาหารเหลว หากดูแลหรือทำความสะอาดไม่ทั่วถึงก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ เป็นต้น
โรคฟันผุมีสาเหตุมาจากคราบแบคทีเรียที่เกาะผิวหน้าฟัน คราบแบคทีเรียจะสะสมตามฟันได้ภายใน 20 นาที หลังจากกินอาหารถ้าไม่ขจัดคราบเหล่านี้ออกไปในแต่ละวันก็จะเป็นตัวเร่งให้ฟันผุเร็วขึ้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเข้าก็จะยิ่งแข็งมากขึ้นและกลายเป็นคราบหินปูน คราบแบคทีเรียและคราบหินปูนนั้นนำไปสู่ปัญหาฟันผุเป็นรู บวมเป็นหนอง เหงือกอักเสบ เยื่อหุ้มฟันอักเสบ และการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกวิธี คือ การแปรงฟันที่วิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะมีฟันกรามแท้ซี่ที่ 2 ขึ้นมา จำเป็นต้องเคลือบหลุมร่องฟันแท้เพื่อป้องกันฟันผุ เน้นการส่งเสริมป้องกันมากกว่าการรักษา เพื่อจะได้ลดปัญหาการสูญเสียฟันแท้ก่อนกำหนด ถ้าเด็กไม่ได้เคลือบหลุมร่องฟันแท้ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุร้อยละ 50
ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาโต๊ะหมิงและกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลนาโต๊ะหมิง อำเภอเมืองตรัง ได้เห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในเขตรับผิดชอบตำบลนาโต๊ะหมิง จึงจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพทันตสุขภาพเด็กนาโต๊ะหมิงฟันสวย ยิ้มใส เพื่อลดปัญหาการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด