โครงการผู้สูงอายุสุขใจ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ
ชื่อโครงการ | โครงการผู้สูงอายุสุขใจ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ |
รหัสโครงการ | 66-L1523-2-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่ที่ 6 |
วันที่อนุมัติ | 25 มกราคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2566 - 30 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2566 |
งบประมาณ | 13,865.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางศรีเวียง กิตติเวชวรกุล |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสาวศศิมา โสะสะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาเมืองเพชร อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.559,99.465place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 65 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย คือสังคมที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุ ๖๐ ปีขึ้นไปเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าในปี ๒๕๖๖ จะมีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีอยู่ราว ๑ ใน ๖ ของประชากรทั้งหมด กล่าวตามนิยามของสหประชาชาติ คือ เมื่อประเทศใดมีประชากร อายุ ๖๐ ปีขึ้นไป เกินร้อยละ ๑๐ หรือ ประชากรอายุ ๖๕ ปีขึ้นไป เกินร้อยละ ๗ ของประชากรทั้งหมด ถือว่าประเทศนั้นได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบรูณ์ (Aged Society) ประเทศไทยเริ่มเข้าสู้สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบรูณ์ในปี ๒๕๖๘ เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมีผลกระทบต่ออัตราส่วนภาวะพึ่งพิง การที่มีสัดส่วนผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานจะต้องรับภาระดูแลผู้สูงอายุในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม บางครั้งอาจทำให้ผู้สูงอายุขาดความอบอุ่นหรืออาจถูกทอดทิ้ง รวมถึงปัญหาในด้านสุขภาพของผู้สูงอายุด้วย เนื่องจากผู้สูงอายุมีภาวะด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลง มีความเสื่อมของร่างกาย อวัยวะต่างๆทั่วไปเริ่มอ่อนแอ และเกิดโรคง่าย ภูมิต้านทานโรคน้อยลง รวมถึงมีการ เปลี่ยนแปลงทางด้านสภาพจิตใจ รู้สึกเหงา ไม่ภาคภูมิใจเหมือนเป็นภาระของลูกหลาน อาจรู้สึกน้อยใจ ซึมเศร้า
ผู้สูงอายุถือได้ว่าเป็นทรัพยากรของชาติที่มีคุณค่าทุกคนควรให้ความรักเคารพ และดูแลเอาใจใส่เนื่องจากเป็นผู้ที่สร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติมาก่อน สามารถถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และวัฒนธรรมอันดีไปสู่ลูกหลาน แต่ปัจจุบันผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งจากบุตรหลานมากขึ้นทำกิจวัตรและดูแลตัวเองในเรื่องของความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ฉะนั้นผู้สูงอายุควรต้องได้รับความรู้ในเรื่อง การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน การป้องกันอุบัติเหตุเหล่านี้เป็นต้น เพื่อที่จะสามารถดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองได้ทำให้เกิดปัญหาได้น้อยที่สุดและส่งผลให้จิตใจสดชื่น แจ่มใส ช่วยให้คนรอบข้างหรือครอบครัวทั้งสังคมมีความสุขด้วยและครอบครัวเป็นสถาบันที่เล็กที่สุดแต่มีความสำคัญที่สุด ถ้าครอบครัวให้ความสำคัญและเล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุด้วยแล้วครอบครัวและสังคมไทยจะมีความสุข และทุกคนมีสุขภาพจิตที่ดีส่งผลให้ร่างกายดีตามมาเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและส่งเสริมสถาบันครอบครัวดังกล่าว จึงได้จัดทำ ผู้สูงอายุสุขใจ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้สามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ทั้งด้านโภชนาการ การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ 2. เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจและความรู้สึกที่ดีต่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อดำรงอยู๋ในสังคมอย่างมีคุณภาพ 3. เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดีทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจ ๑. ผู้สูงอายุร้อยละ 80 ที่เข้าร่วมโครงการ มีความรู้ความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองทั้งด้านโภชนาการ การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ ๒. ผู้สูงอายุร้อยละ 80 ที่เข้าร่วมโครงการ มีขวัญและกำลังใจ มีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อดำรงอยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพ |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
1 มี.ค. 66 - 30 ก.ย. 66 | กิจกรรมที่ ๑. จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ การดูแลสุขภาพตามหลัก ๓ อ. ๒ ส. แก่ อสม./แกนนำ/ผู้สูงอายุ | 65 | 11,915.00 | - | ||
1 มี.ค. 66 - 30 ก.ย. 66 | กิจกรรมที่ ๒. ติดตามและประเมินผล สุขภาพด้านร่างกาย และจิตใจ ของผู้สูงอายุในชุมชน | 65 | 1,950.00 | - | ||
รวม | 130 | 13,865.00 | 0 | 0.00 |
- วิธีการดำเนินงาน
3.1 ระยะเตรียมการ
3.1.๑. จัดประชุมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ
3.1.๒. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.1.๓. จัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติต่อคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบล นาเมืองเพชร
3.1.๔. ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางแผนการดำเนินงาน 3.2 ระยะดำเนินการ 3.2.1. ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนงานตามแผนงาน/โครงการ
กิจกรรมที่ 1 จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ - การตรวจสุขภาพและประเมินพฤติกรรมสุขภาพตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ - อบรมให้ความรู้โดยมีวิทยาจากภายนอกมาให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตามหลัก 3อ. 2ส. และความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง ดูแลสุขภาพที่ร่างกายให้ดีขึ้น มีทัศนคติที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสุขคมได้อย่างมีความสุข
- กิจกรรมนันทนาการให้กับผู้สูงอายุระหว่างดำเนินการจัดอบรมตามกิจกรรมฯ กิจกรรมที่ 2 ติดตามและประเมินผล สุขภาพด้านร่างกาย และจิตใจ ของผู้สูงอายุในชุมชน - การติดตามและประเมิน สุขภาพด้านร่างกาย และจิตใจของผู้สูงอายุในชุมชนหลังเข้าร่วมโครงการโดยทำแบบประเมินจากแบบสอบถาม 3.3 ระยะประเมินผล 3.3.1. สรุปและรายงานผลการดำเนินงานต่อกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลนาเมืองเพชร
- ผู้สูงอายุได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับด้านสุขภาพ
- ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพ การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและแก้ปัญหาสุขภาพตนเองในเบื้องต้น อยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพ
- ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ตลอดชีวิต
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 09:43 น.