กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

directions_run

โครงการการให้ความรู้เรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและการส่งเสริมพัฒนาการให้สมวัย แก่ผู้ปกครองเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียนในตำบลเขาไพร

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการการให้ความรู้เรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและการส่งเสริมพัฒนาการให้สมวัย แก่ผู้ปกครองเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียนในตำบลเขาไพร
รหัสโครงการ
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาไพร
วันที่อนุมัติ 29 พฤศจิกายน 2565
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 กรกฎาคม 2566 - 30 กันยายน 2566
กำหนดวันส่งรายงาน
งบประมาณ 8,550.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางเพียงดาว รอดความทุกข์
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลเขาไพร อำเภอรัษฏา จังหวัดตรัง
ละติจูด-ลองจิจูด 7.96,99.661place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานเด็ก เยาวชน ครอบครัว
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 140 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมีความสำคัญที่จะเป็นตัวป้องกันการเกิดโรคในอนาคต ซึ่งแน่นอนที่สุดการป้องกันย่อมจะดีกว่าการรักษาในภายหลังการเกิดโรคไม่ว่าจะด้วยทฤษฎีทางการแพทย์หรือหลักการของศาสนา แทนที่จะให้เกิดโรคก่อนค่อยคิดหาวิธี หายา หาทางรักษาในภายหลังอาจจะเป็นสิ่งที่สายเกินไปหากเกิดโรคแล้วไม่สามารถรักษาได้ สร้างความเจ็บป่วย ทรมาน รำคาญใจและเสียเงินมากมายซึ่งไม่คุ้มค่าต่อผลเสียที่อาจเกิดขึ้นในหลังหากมิได้รับคุ้มกันแก่ร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆโดยการฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้เด็กอายุ 0 - 5 ปี ได้รับวัคซีนภูมิคุ้มกันโรคแก่ร่างกายซึ่งสามารถป้องกันโรคได้ 8 ชนิด ดังนี้ วัณโรค ตับอักเสบบี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ หัด และไข้สมองอักเสบ ซึ่งวัคซีนป้องกันโรคแต่ละตัวแต่ละชนิดควรได้รับตามช่วงอายุที่กำหนดและรับครบชุดตามเกณฑ์ เมื่ออายุครบ 5 ปี นับตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุขได้บรรจุวัคซีนพื้นฐาน หรือวัคซีนภาคบังคับไว้ในแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทยเราเมื่อประมาณ 33 ปีมาแล้ว โดยค่อยๆเพิ่มชนิดของวัคซีนที่ค้นพบใหม่เข้าไปเรื่อยๆ จนครอบคลุมโรคสำคัญแทบทุกโรคในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เด็กๆแทบทุกคนล้วนได้รับวัคซีนกันถ้วนหน้า ส่งผลให้โรคติดต่อร้ายแรงชนิดต่างๆ เช่น โปลิโอ คอตีบ ไอกรน วัณโรค ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากโรคติดต่อเหล่านี้เป็นเชื้อโรคที่ติดต่อจากคนสู่คน บางโรคการติดต่อเกิดขึ้นได้ง่าย ทำให้เกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า "การระบาด" ผลการระบาดแต่ละครั้งทำให้ผู้ติดเชื้อพิการ และเสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้นวัคซีนจึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มหาศาลต่อมนุษย์ การพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาคน ซึ่งนที่มีประสิทธิภาพต้องมีการมีการวางรากฐานที่ดีได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม มีการส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้เหมาะสมตามวัยการศึกษาในหลายๆการศึกษาพบว่าการเล่นมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเด็กในด้านต่างๆ เช่น ความคิด จินตนาการ ภาษา การเรียนรู้กฎระเบียบทางสังคม วัฒนธรรม การเล่นจะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ ความคิด การกล้าทดลองทำสิ่งใหม่ การแก้ไขปัญหาของเด็ก และช่วยในการพัฒนาจิตใจของเด็กให้เด็กรู้จักการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และมีความสุขจากการเล่น ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ เป็นส่วนสำคัญของการส่งเสริมพัฒนาการและพัฒนาการบริหารสมองส่วนหน้า ให้รู้จัก "คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้ แก้ไขปัญหาเป็น อยู่กับผู้อื่นเป็น และมีความสุขเป็น" ดังนั้นการเล่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็กนอกจากจะทำให้เด็กผ่อนคลายความตึงเครียดแล้ว ยังช่วยให้การพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า ซึ่งการทำให้เด็กมีทักษะทางสมองที่ดีได้ต้องผ่านการฝึกฝนซ้ำๆตลอดเวลา ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย พ่อ แม่ ผูเ้ปกครองและคุณครูในศูนย์เด็กเล็กจึงจำเป็นต้องมีความรู้ในการส่งเสริมทักษะสมองเด็กอย่างถูกต้อง เหมาะสม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างเหมาะสมตลอดช่วงวัย จากการการศึกษาสถานการณ์การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคและพัฒนาการด็ก ในเขตพื้นที่ตำบลเขาไพร ปี 2565 พบ เด็ก 0-5 ปี ได้รับวัคซีนครบชุด ร้อยละ 100 และมีพัฒนาการสมวัยรวมทุกด้านในครั้งแรกคิดเป็ยร้อยละ 93.68 หลังจากที่มีการกระตุ้นพัฒนาการพบว่าเด็กมีพัฒนาสมวัย คิดเป็นร้อยละ 100 และพบพัฒนาการด้านภาษาสงสัยล่าช้ามากที่สุด และจากการศึกษายังพบว่าพ่อแม่ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลเด็ก จะพบว่าผู้ปกครองให้เด็กๆ 0-5 ปี ให้เด็กได้ใช้สื่ออิเลคโทรนิคประเภทโทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ แทบเลต มากกว่าวันละ 1 ชม. ในขณะที่การใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมร่วมกับลูกได้แก่ เล่น วาดรูป ระบายสี ทำกิจกรรมนันทนาการต่างร่วมกับลูก อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที มีน้อยมากแสดงให้เห็นว่าเด

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็ก มีความรู้เรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและการส่งเสริมพัฒนาการให้สมวัยในเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน

 

2 เพื่อติดตามการได้รับวัคซีนขั้นพื้นฐานในเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน

 

3 เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้ในการส่งเสริมพัฒนาการให้เป็นไปตามวัยของบุตรหลานของตนเองได้

 

0.00
4 เพื่อให้ผู้ปกครองเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียนทราบถึงอาการภายหลังได้รับวัคซีน และการดูแลเด็ก

 

stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม

ขั้นตอนดำเนินการ ระยะก่อนดำเนินการ 1. เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ ระยะดำเนินการ 1. กิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน ในตำบลเขาไพร เรื่อง วัคซีน และอาการหลังได้รับวัคซีน ในคลินิก วัคซีน 2. กิจกรรมให้ความรู้ในเรื่องการส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้สมวัย ขั้นสรุปโครงการ 1. สรุปผลโครงการ 2. จัดทำรายงานสรุปผลโครงการ

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. ผู้ปกครองเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน ในตำบลเขาไพร มีความรู้เรื่องวัคซีน และอาการหลังได้รับวัคซีน
  2. เด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน ได้รับวัคซีนครบชุด ทุกคนตามช่วงอายุ
  3. เด็กในตำบลเขาไพร มีการประเมินพัฒนาการและมีพัฒนาการที่สมวัย
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2566 15:13 น.