โครงการเยาวชน HSY สร้างสรรค์ห่างไกลยาเสพติด
ชื่อโครงการ | โครงการเยาวชน HSY สร้างสรรค์ห่างไกลยาเสพติด |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนบ้านหาดทรายยาว |
วันที่อนุมัติ | 29 พฤษภาคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มิถุนายน 2566 - 31 สิงหาคม 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 1 กันยายน 2566 |
งบประมาณ | 9,905.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางอรุณี ประมาณ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.589,99.936place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 91 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์การเผยแพร่ระบาดของยาเสพติด ยังคงระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่องรัฐบาลจึงกำหนดให้การป้องกันและแก้ไขยาเสพติด เป็นแนวนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยยึดหลัก "ผู้เสพ คือ ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม" ซึ่งกำหนดให้เร่งรัดปราบปรามการค้ายาเสพติด และป้องกันไม่ให้กลุ่มเสี่ยงเข้าไปเป็นเหยื่อของยาเสพติด โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม ให้ร่วมดำเนินการในลักษณะบูรณาการ ควบคู่กับมาตราการทางกฎหมาย ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศไทย พบว่ามีเด็กและเยาวชน จำนวนไม่น้อยที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งเกิดจากความตั้งใจ และเกิดจากการหลงผิด โดยรรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะทำให้เด็กและเยาวชน มีโอกาสเข้าไปติดยาเสพติดเพิ่มมากขึ้นอีก เช่น เด็กและเยาวชน เป็นวัยที่ต้องการเรียนรู้ อยากลอง ต้องการเรียกร้องความสนใจ การสร้างการยอมรับกล้าทำในสิ่งที่ท้าทาย การชักจูง และการหลอกลวง เป็นต้น ดังนั้น เด็กและเยาวชนจำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเพียงพอ ต้องได้รับการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและการรู้โทษที่ร้ายแรงของยาเสพติดอย่างเหมาะสม การรู้จักการหลีกเลี่ยงสิ่งเสพติด และสิ่งสำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน โดยผนึกกำลังทุกภาคส่วน ให้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมแรงร่วมใจเป็นพลังของแผ่นดิน ที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติด มัสยิดเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและสังคม นอกจากเป็นสถานที่ในการปฏิบัติศาสนกิจ และปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังมีบทบาทหน้าที่และภารกิจอีกหลายด้านรวมทั้งหลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) เนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์การเผยแพร่ระบาดของยาเสพติด ยังคงระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่องรัฐบาลจึงกำหนดให้การป้องกันและแก้ไขยาเสพติด เป็นแนวนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยยึดหลัก "ผู้เสพ คือ ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม" ซึ่งกำหนดให้เร่งรัดปราบปรามการค้ายาเสพติด และป้องกันไม่ให้กลุ่มเสี่ยงเข้าไปเป็นเหยื่อของยาเสพติด โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม ให้ร่วมดำเนินการในลักษณะบูรณาการ ควบคู่กับมาตราการทางกฎหมาย ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศไทย พบว่ามีเด็กและเยาวชน จำนวนไม่น้อยที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งเกิดจากความตั้งใจ และเกิดจากการหลงผิด โดยรรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะทำให้เด็กและเยาวชน มีโอกาสเข้าไปติดยาเสพติดเพิ่มมากขึ้นอีก เช่น เด็กและเยาวชน เป็นวัยที่ต้องการเรียนรู้ อยากลอง ต้องการเรียกร้องความสนใจ การสร้างการยอมรับกล้าทำในสิ่งที่ท้าทาย การชักจูง และการหลอกลวง เป็นต้น ดังนั้น เด็กและเยาวชนจำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเพียงพอ ต้องได้รับการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและการรู้โทษที่ร้ายแรงของยาเสพติดอย่างเหมาะสม การรู้จักการหลีกเลี่ยงสิ่งเสพติด และสิ่งสำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน โดยผนึกกำลังทุกภาคส่วน ให้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมแรงร่วมใจเป็นพลังของแผ่นดิน ที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติด มัสยิดเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและสังคม นอกจากเป็นสถานที่ในการปฏิบัติศาสนกิจ และปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังมีบทบาทหน้าที่และภารกิจอีกหลายด้านรวมทั้งการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นภารกิจที่ทุกภาคส่วนต้องดำเนินการร่วมกัน และในสภาพปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด มาในรูปแบบและวิธีการต่างๆมากมาย เข้าไปสู่เด็กและเยาวชนในสถานศึกษา ต่างๆมากยิ่งขึ้น ทางโรงเรียนจึงมีความจำเป็นที่จะหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่ให้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนไทย ส่งเสริมกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้จัดทำโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดขึ้นในชุมชนขึ้นประกอบด้วยยุทธศาสตร์การดำเนินงาน 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การรณรงค์เพื่อปลุกจิตสำนึก และสร้างกระแสที่เอื้อต่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้แนวคิดการสร้างกระแส "เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด"โดยผ่านสื่อและการจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างสรรค์ต่างๆ เพื่อให้วัยรุ่นและเยาวชนและประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิดความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าของตนเอง กิจกรรมใน ยุทธศาสตร์นี้ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ การจัดกิจกรรมรณรงค์ในหลากหลายรูปแบบ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตให้กับเยาวชนในชุมชน ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ กิจกรรมที่ 1 การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตให้กับเยาวชนในชุมชน ได้แก่ กิจกรรมการพัฒนาและผลิตเทคโนโลยี การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตให้แก่เยาวชนในชุมชน การอบรมให้ความรู้และฝึกทักษะการจัดกิจกรรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตให้กับเยาวชน การใช้เทคโนโลยีให้แก่กลุ่มแกนนำเยาวชน และการสนับสนุนให้แกนนำเยาวชนที่ผ่านการอบรมดำเนินการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางจิตให้เยาวชนในชุมชน กิจกรรมที่ 2 โครงการพัฒนาและจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น (TO BE NUMBER ONE FRIEND CORNER) กิจกรรมได้แก่ การจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่นในชุมชนเมือง ชุมชนชนบท สถานศึกษาและสถานประกอบการ ภายใต้แนวคิด "ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ไขปัญหา พัฒนา EQ" โดยจัดให้มีบริการให้คำปรึกษา(Counseling) บริการฝึกแก้ปัญหาพัฒนา EQ ทั้งด้วยตนเอง กิจกรรมกลุ่มและบริการกิจกรรมเสริมทักษะเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างสุขด้วยการเสริมสร้างสุขภาพให้แก่วัยรุ่นและเยาวชนด้วยกิจกรรมด้านตนตรี กีฬา ศิลปะโดยศิลปินดารา นักกีพาที่มีชื่อเสียง และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ในศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างและพัฒนาเครือข่าย เน้นการสร้างและพัฒนาเครือข่ายสมาชิกเพื่อให้การร่วมมือร่วมใจป้องกันปัญหายาเสพติดมีความต่อเนื่องและยั่งยืน ในรูปแบบของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน/องค์กรภาครัฐและเอกชนในระดับประเทศและระดับพื้นที่ ผลผลิตจากการดำเนินตามยุทธศาสตร์ ที่สำคัญผลผลิตหนึ่งคือ การจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE เรียนรู้ระหว่างชมรมทั้งภายในและภายนอกจังหวัด ย่อมเป็นกิจกรรมสำคัญที่จะเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE ให้มีโอกาสสร้างกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้มีมากขึ้น อันจะเป็นการพัฒนาแนวคิดการพัฒนาให้กับเยาวชน ให้เปิดมุมมองที่กว้างออกไปจนเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับจังหวัด ภูมิภาคและระดับชาติ ต่อไป โรงเรียนบ้านหาดทรายยาว ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และส่งเสริมให้ความรู้ เกี่ยวกับยาเสพติดให้แก่นักเรียน จึงได้จัดทำโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดขึ้น ตามยุทธศาสตร์ของโครงการ เยาวชน HSY สร้างสรรค์ห่างไกลยาเสพติด เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ในระดับโรงเรียน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริม/สนับสนุน ให้ชมรม TO BE NUMBER ONE มีการจัดกิจกรรมพัฒนาพฤติกรรมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด นักเรียนร้อยละ 80 มีการจัดกิจกรรมพัฒนาพฤติกรรมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด |
||
2 | เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลยาเสพติด นักเรียนร้อยละ 80 รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลยาเสพติด |
||
3 | เพื่อให้ความรู้แก่นักเรียนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด นักเรียนร้อยละ 80 มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงโทษของยาเสพติด |
- ขออนุมัติจัดโครงการ/กิจกรรม
- แต่งตั้งคณะทำงาน/จัดประชุมคณะทำงาน
- จัดกิจกรรมตามโครงการ
3.1 กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการนักเรียนสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE ต่อต้าน
ยาเสพติด 3.2 กิจกรรมรณรงค์ต่อต้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 4. สรุปผลการประเมินผล 5. รายงานผลโครงการ 6. วัดและประเมินผล
- นักเรียนได้รับโอกาสการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างทักษะเชิงบวกในการป้องกันสารเสพติด
- นักเรียนได้เพิ่มพูนทักษะ การฝึกทำงานเป็นทีม การแก้ไขปัญหา 3. นักเรียนโรงเรียนบ้านหาดทรายยาวมีความตระหนักถึงโทษภัยของยาเสพติด
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2566 14:21 น.