โครงการส่งเสริมทักษะในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับเด็กเล็ก
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมทักษะในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับเด็กเล็ก |
รหัสโครงการ | 66-L5182-03-7 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเกาะทาก |
วันที่อนุมัติ | 5 กรกฎาคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 2 สิงหาคม 2566 - 29 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 5 กรกฎาคม 2566 |
งบประมาณ | 28,035.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 52 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 38 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเกาะทากไม่มีหมวกนิรภัย | 90.00 | ||
2 | ร้อยละของนักเรียนและผู้ปกครอง เกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ | 60.00 | ||
3 | ร้อยละของนักเรียนและผู้ปกครองยังขาดทักษะในการคิดและรู้จักแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองระหว่างรอการช่วยเหลือ | 60.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ตามสถิติศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนมีจำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสะสมจากอุบัติเหตุทางถนน(ข้อมูล ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2565) ผู้เสียชีวิตสะสม ปี 2565 จำนวน9,590 รายและบาดเจ็บสะสม ปี 2565 จำนวน594,658 รายนับได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงสุดประเทศหนึ่งในโลกซึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมีอยู่หลายประการอาทิ 1. เมาสุรา 2. การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 3. ตัดหน้ารถกระชั้นชิด4. ทัศนวิสัยไม่ดี 5. หลับใน6. แซงรถในที่คับขัน 7. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 8. โทรศัพท์ขณะขับขี่ 9. บรรทุกน้ำหนักเกิน 10. มีสิ่งกีดขวางที่ไม่คาดคิดบนถนน 11. ปัญหาผิวจราจร 12. ปัญหาจากสภาพรถไม่พร้อม สาเหตุการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย 99% เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัยโดยรายงานจากสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน(ประเทศไทย)ยังเผยว่า มีเด็กเพียง 7% เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัยระหว่างการเดินทางซึ่งอัตราการใช้หมวกนิรภัยจำนวนน้อยนี่เองสะท้อนให้เห็นถึงถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ว่าภัยอันตรายรอบตัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝันและเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่พ่อแม่และผู้ปกครองหลายๆคนไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการให้บุตรหลานสวมใส่หมวกนิรภัยขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์แล้วยังมีหลายครอบครัวถึงแม้จะสวมใส่หมวกนิรภัยให้เด็ก แต่ไม่รู้หลักการเลือกหมวกนิรภัยที่มีคุณภาพขนาดที่พอดีกับกับศีรษะเด็ก รวมถึงการสวมหมวกนิรภัยให้เด็กอย่างถูกวิธีอีกทั้งยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวินัยจราจรและการขับขี่ที่ปลอดภัยถึงแม้หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจให้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุการสำรวจจุดเสี่ยงหรือจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยให้ความรู้ในการการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนการประชาสัมพันธ์รณรงค์ตามสื่อต่างๆ สุดท้ายแล้วผู้ขับขี่ต้องมีจิตสำนึกร่วมกันที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ด้วยเหตุนี้การรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานการเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดเมื่อเด็กติดในรถรวมถึงการเรียนรู้วิธีการใช้ถนนอย่างถูกวิธีจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการป้องกันและสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนนเพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุและการเอาตัวรอดเมื่อเด็กติดในรถดังนั้นเพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดพฤติกรรมที่ถูกต้องในการใช้รถใช้ถนนการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง ให้เห็นความสำคัญของการใช้หมวกนิรภัยการเอาตัวรอดเมื่อเด็กติดในรถ พร้อมอบรมวินัยจราจรจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในการลดอุบัติเหตุและจำนวนตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเกาะทากจึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมทักษะในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับเด็กเล็กขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้นักเรียนได้รับหมวกนิรภัยสวมใส่และเดินทางไปกลับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอย่างปลอดภัย และผู้ปกครองที่มีส่วนเกี่ยวข้องเล็งเห็นความสำคัญ เพิ่มร้อยละของนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเกาะทากได้หมวกนิรภัย |
90.00 | 100.00 |
2 | เพื่อให้มีการป้องกัน ลดอุบัติเหตุ และการเกิดการบาดเจ็บจากการใช้รถ ใช้ถนน ลดร้อยละของนักเรียนและผู้ปกครอง เกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ |
60.00 | 20.00 |
3 | เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการคิดและรู้จักป้องกัน แก้ไขปัญหาเบื้องต้น ระหว่างรอการช่วยเหลือ เพิ่มร้อยละของเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่ยังขาดทักษะในการคิดและรู้จักแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองระหว่างรอการช่วยเหลือ |
60.00 | 85.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 28,035.00 | 6 | 28,035.00 | |
2 ส.ค. 66 | ประชุมคณะกรรมการ ศพด.บ้านเกาะทาก เพื่อวางแผนการดำเนินงาน | 0 | 750.00 | ✔ | 750.00 | |
3 ส.ค. 66 | กำหนดนโยบายการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่มาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเกาะทาก | 0 | 360.00 | ✔ | 360.00 | |
8 ส.ค. 66 - 29 ก.ย. 66 | ติดตามและประเมินผลโครงการ | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
9 ส.ค. 66 | อบรมเชิงปฏิบัติการอุบัติเหตุการสวมหมวกนิรภัยและวิธีการเอาตัวรอดของเด็กเมื่อติดในรถ | 0 | 24,675.00 | ✔ | 24,675.00 | |
10 ส.ค. 66 | การรณรงค์การขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฎจราจร และสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักยานยนต์ | 0 | 2,250.00 | ✔ | 2,250.00 | |
10 ส.ค. 66 | การสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเกาะทาก | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 |
- นักเรียน ครู และผู้ปกครองเกิดองค์ความรู้เกี่ยวการใช้รถ ใช้ถนนกับกฎหมายจราจร
- นักเรียน ครู และผู้ปกครองมีความตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนนและเห็นความสำคัญของการใส่หมวกนิรภัยให้กับเด็กนักเรียน
- สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการสวมหมวกนิรภัยการใช้รถและวินัยจราจร ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- ลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุโดยเริ่มต้นจากชุมชน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2566 23:08 น.