โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม เด็กหนองแสง ประจำปี 2566
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม เด็กหนองแสง ประจำปี 2566 |
รหัสโครงการ | 66-L1520-02-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนบ้านหนองชุมแสง |
วันที่อนุมัติ | 21 กรกฎาคม 2566 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2566 - 20 กันยายน 2566 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 20 กันยายน 2566 |
งบประมาณ | 13,080.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางโชติมาศ รัตนพงษ์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.862,99.365place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 208 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาสุขภาพที่เป็นสาเหตุการตายอันดับแรกๆของประเทศไทย คือมะเร็งทุกชนิดความดันโลหิตสูง/โรคหลอดเลือดสมองหลอดเลือดและโรคหัวใจมีอัตราตาย 101.88 ,49.62 ,38.48ต่อแสนประชากรตามลำดับ (ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพ.ศ.2547) ซึ่งโรคเหล่านี้เกิดจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง คือขาดการออกกำลังกาย มีการรับประทานอาหารไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอแม้ประชาชนจะมีความรู้ แต่ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้ถูกต้องจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจพฤติกรรมการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย พบว่าร้อยละ 36.6 ของประชากรอายุ 11 ปีขึ้นไป ที่มีการออกกำลังกายเพียงพอที่จะช่วยป้องกันโรคได้ สำหรับการรับประทานอาหารนั้นจากผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยในปีพ.ศ.2551-2552 พบว่าทั้งหญิงและชาย รับประทานผักและผลไม้ เฉลี่ยเพียงวันละ 3.1 และ 3.0 ส่วนมาตรฐาน ตามลำดับ โดยมีความชุกของการรับประทานผักและ ผลไม้ปริมาณต่อวันเพียงพอตามข้อแนะนำ (รวม > 5 ส่วน มาตรฐานต่อวัน) การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ด้วยการปฏิบัติจริง 2 กระบวนการได้แก่ 1. การออกกำลังกายสม่ำเสมอสัปดาห์ละอย่างน้อย 3-5 วันๆละอย่างน้อย30 นาที 2. การรับประทานผักและผลไม้สด วันละครึ่งกิโลกรัม หรือรับประทานผักในปริมาณครึ่งหนึ่งของอาหารแต่ละมื้อ และลดการรับประทานอาหารไขมันจะสามารถทำให้ประชาชนลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ20-30 โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดก็ลดลงมากเช่นกัน ทั้งการออกกำลังกายและการปลูกผักร่วมกันยังเป็นกิจกรรมสร้างความอบอุ่นในครอบครัวอีกด้วย โดยมีประชากรกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ประชากรกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูง ซึ่งโดยส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ การบริโภคอาหาร การขาดการออกกำลังกาย จากพฤติกรรมข้างต้น ส่งผลให้ประชากรในพื้นที่มีภาวะอ้วนลงพุง ปัญหารอบเอวเกิน การส่งเสริมประชาชนให้ปฏิบัติตนถูกต้องตามพฤติกรรม 3 อ. 2 ส. ปรับพฤติกรรมการบริโภค, การออกกำลังกาย และการจัดการความเครียด รวมทั้งไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุราได้นั้นจะลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆได้ มีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีจำนวนสูงขึ้นทุกปี รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะมีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โรงเรียนบ้านหนองชุมแสงจึงตระหนักหาแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนให้หันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพ โดยเฉพาะอาหารที่อาจก่อเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งอาหารที่มีรสหวาน มันเค็ม อาหารประเภทนี้จะก่อให้เกิดเป็นโรคดังกล่าว เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ความสำคัญ เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง ทางโรงเรียนบ้านหนองชุมแสงจึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น โรงเรียนบ้านหนองชุมแสงเล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ เน้นการป้องกันให้นักเรียนกลุ่มเสี่ยงสามารถดูแลตนเองเพื่อไม่ให้กลายเป็นกลุ่มป่วยและเพื่อให้นำความรู้ที่ได้รับไปแนะนำผู้ปกครองและคนในชุมชนกลุ่มป่วยให้สามารถควบคุมอาการตนเองและลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้โดยเน้นการดำเนินงานโดยโรงเรียนบ้านหนองชุมแสงมีส่วนร่วมในการกระตุ้นและสร้างกระแสให้นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองชุมแสงตื่นตัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างต่อเนื่องจึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม เด็กหนองแสง ประจำปี 2566
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน นักเรียนสามารถเลือกบริโภคอาหารได้ถูกต้องอย่างน้อยร้อยละ 80 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 13,080.00 | 0 | 0.00 | |
1 ส.ค. 66 - 20 ก.ย. 66 | อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม ตามความเหมาะสม | 0 | 9,080.00 | - | ||
1 ส.ค. 66 - 20 ก.ย. 66 | กิจกรรมรณรงค์ลดการกินหวาน มัน เค็มในโรงเรียน เช่น การจัดป้ายนิเทศ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมลดการกินหวาน มัน เค็ม | 0 | 4,000.00 | - |
- นักเรียนปรับเปลี่ยนทัศนคติของเด็กต่อเรื่องการกินอาหารหวาน มัน เค็ม เกินความจำเป็น
- นักเรียนปฏิบัติตน "ลด หรือ งด" เติมน้ำตาลหรือปรุงรสเค็มเพิ่มในอาหาร
- นักเรียนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม "ชิม" ก่อนปรุงเพิ่มทุกครั้ง
- นักเรียน "เลี่ยงกิน" ขนมหวานและเครื่องดื่มรสหวาน หันมาทานผลไม้รสหวานน้อยแทน
- นักเรียนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม "เลือก" ทานเนื้อสัตว์ไม่ติดหนัง หรือเลาะไขมันออก
- นักเรียนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม "ใช้" ไขมันดีในการปรุงประกอบอาหารโดยสลับชนิดกันไป เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว
- นักเรียนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม "เลือก" ทานเนื้อสัตว์ไม่ติดหนัง หรือเลาะไขมันออก
- นักเรียนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม "ลด" การกินอาหารแปรรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ
- นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาล,เครื่องปรุงรสเค็ม,ไขมันในปริมาณที่เหมาะสม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 10:30 น.