โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อบรรเทาโรคทางระบบกล้ามเนื้อด้วยลูกประคบสมุนไพร
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อบรรเทาโรคทางระบบกล้ามเนื้อด้วยลูกประคบสมุนไพร |
รหัสโครงการ | 67-L8330-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชุมชนหน้าตลาด-ฮั้งไฮ้ยี่ |
วันที่อนุมัติ | 31 มกราคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 31 มกราคม 2567 - 31 มีนาคม 2567 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 12,310.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายวิระไชย แก้วไชย |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลลำภูรา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.698,99.583place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 31 ม.ค. 2567 | 31 มี.ค. 2567 | 12,310.00 | |||
รวมงบประมาณ | 12,310.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 25 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเป็นที่ยอมรับและมีบทบาทมากขึ้น โดยมีนโยบายของรัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการแพทย์แผนไทยอย่างทั่วถึง เนื่องจากมีการนำยาสมุนไพรบางชนิดเข้ามาทดแทนยาแผนปัจจุบัน ลดการใช้ยาที่จะส่งผลต่อตับและไตภายหลัง ซึ่งในปัจจุบันสามารถเลือกการรักษาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาภายนอกสู่ภายในด้านการแพทย์แผนไทย เช่น การอบสมุนไพร การสุมยา การดูแลและฟื้นฟูมารดาหลังคลอด การนวดบำบัดรักษาโรค การประคบสมุนไพร ประชาชนส่วนใหญ่จะมีอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน จากการเคลื่อนไหวผิดจังหวะ ทำให้เกิดอาการปวด เมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เคล็ดขัดยอก จึงต้องหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้อาการปวดทุเลาลง โดยหายามาทาหรือรับประทาน การใช้ยาสมุนไพรในการบำบัดโรคเบื้องต้น รวมถึงการนวดบำบัดรักษาโรค และการใช้ลูกประคบสมุนไพรในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งการนวดจะต้องควบคู่ไปกับการประคบสมุนไพร เพื่อบำบัดรักษาโรคให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ดังนั้นลูกประคบสมุนไพรจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เป็นวิธีการบำบัดรักษาของการแพทย์แผนโบราณ โดยการนำลูกประคบสมุนไพรมาประคบบริเวณที่เจ็บปวด เคล็ดขัดยอก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ โดยอาศัยความร้อนและคุณสมบัติของลูกประคบสมุนไพร ทำให้อาการดีขึ้น คนไทยนิยมใช้ ลูกประคบสมุนไพรรักษากันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน โดยมักใช้รักษาควบคู่กับการนวดไทย คือ หลังจากนวดบำบัดรักษาโรคเสร็จแล้วจึงนำลูกประคบสมุนไพรประคบไปตามร่างกาย ผลของความร้อนที่ได้จาการประคบ ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว และตัวยาสมุนไพรที่โดนความร้อนจะซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายและยังช่วยทำให้เนื้้อเยื่อพังผืดยืดตัวออก ลดการติดขัดของข้อต่อ ลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ลดปวดช่วยลดการบวมที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อ และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ด้วยเหตุดังกล่าว ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขเทศบาลตำบลลำภูรา ได้เล็งเห็นความสำคัญของการนวดด้วยลูกประคบและการผลิตลูกประคบสมุนไพร เพื่อนำไปใช้ในผู้ป่วยหรือผู้มีปัญหาและอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เคล็ดขัดยอก สร้างสายใยภายในครอบครัวด้วยการนวดประคบผ่อนคลายจากการทำงานให้กับสมาชิกในครอบครัว และโดยเฉพาะการนำลูกประคบสมุนไพรมาใช้ดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้างโดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและประชาชนผู้ที่สนใจได้นำความรู้ที่ได้ไปดูแลตนเองและบุคคลในครอบครัวให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ ทำให้ประชาชนในชุมชนตระหนักและเห็นคุณค่าของสมุนไพรไทย โดยการนำสมุนไพรในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและผลิตลูกประคบสมุนไพรไว้ใช้ในครัวเรือนได้ด้วย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อส่งเสริมให้แกนนำสุขภาพ และประชาชนมีความรู้ การปลูกและอนุรักษ์พืชสมุนไพรพื้นบ้านสำหรับใช้ในการรักษาโรคทางเลือก ผู้เข้าร่วมฝึกอบรา ร้อยละ 90 สามารถเป็นแกนนำสุขภาพ และมีความรู้เรื่องการปลูกและอนุรักษ์พืชสมุนไพรพื้นบ้านสำหรับใช้ในการรักษาโรคทางเลือก |
||
2 | เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพ เช่น ใช้ลูกประคบในผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน และผู้ที่มีปัญหาระบบกล้ามเนื้อ ผู้เข้าร่วมฝึกอบรม ร้อยละ 90 มีความรู้เรื่องการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพ เช่น ใช้ลูกประคบในผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน และผู้ที่มีปัญหาระบบกล้ามเนื้อ |
||
3 | เพื่อส่งเสริมให้แกนนำสุขภาพและประชาชนส่งเสรสิมภูมิปัญญาและองค์ความรู้ด้านแพทย์แผนไทยให้คงอยู่สืบไป ผู้เข้าร่วมฝึกอบรม ร้อยละ 90 มีความรู้เรื่องการส่งเสริมภูมิปัญญาและองค์ความรู้ด้านแพทย์แผนไทย สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นๆได้ |
1.จัดทำแผนงาน/โครงการ
2.เสนอแผนงาน/โครงการ เพื่อขอรับการอนุมัติ
3.ประสานวิทยากรและผู้เข้าร่วมฝึกอบรม
4.ดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้าง เตรียมวัสดุ/อุปกรณ์ ในการฝึกอบรม
5.ประสานการใช้สถานที่เพื่อทำการฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติ
6.ดำเนินการจัดโครงการ
6.1 บรรยายให้ความรู้
- สมุนไพรและการทำลูกประคบสมุนไพรล
- การปลูกและอนุรักษ์พืชสมุนไพรพื้นบ้าน
6.2 สาธิตและสอนปฏิบัติ
- สาธิตและฝึกปฏิบัติการทำลูกประคบ สาธิตและฝึกปฏิบัติการประคบสมุนไพร
7.สมุนไพรและประเมินผลโครงการ
8.รายงานผลการดำเนินงานตามโครงการ
1.ส่งเสริมให้แกนนำสุขภาพ และประชาชนมีความรู้ การปลูปและอนุรักษ์พืชสมุนไพรพื้นบ้านสำหรับใช้ในการรักษาโรคทางเลือก 2.ส่งเสริมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพ เช่น ใช้ลูกประคบในผู้ป่วยติดเตียง ติดเตียง และผู้ที่มีปัญหาระบบกล้ามเนื้อ 3.ส่งเสริมให้แกนนำสุขภาพและประชาชนสร้างภูมิปัญญาและองค์ความรู้ด้านแผนไทยให้คงอยู่สืบไป
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 10:43 น.