กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกร
รหัสโครงการ 67-L1536-1-1
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ องค์การบริหารส่วนตำบลปากแจ่ม
วันที่อนุมัติ 13 ธันวาคม 2566
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567
กำหนดวันส่งรายงาน
งบประมาณ 19,620.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวภัทราภรณ์ แจ้งไข
พี่เลี้ยงโครงการ สำนักเลขานุการกองทุนฯ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลปากแจ่ม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
ละติจูด-ลองจิจูด 7.737,99.724place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 75 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

 

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม

สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์และสัตว์ คือ จะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์และตา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้ จึงแสดงอาการต่างๆ ขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ตำบลปากแจ่ม เป็นตำบลหนึ่งที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่การเกษตรมากถึงร้อยละ8 0 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน  สวนผลไม้ และปลูกผักสวนครัว ทำให้ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช กระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่รุนแรงและสูงขึ้น ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนตำบลปากแจ่ม ได้จัดทำโครงการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกรขึ้น โดยมีเกษตรกรและแรงงานนอกระบบเข้ารับการตรวจคัดกรองหาสารเคมีในเลือดทั้งหมดจำนวน 75 คน พบผลการตรวจสารเคมีในเลือด ปกติ จำนวน 24 คน, ปลอดภัย จำนวน 28 คน, มีความเสี่ยง จำนวน 8 คน และไม่ปลอดภัย จำนวน 14 คน ดังนั้น องค์การบริหารส่วนตำบลปากแจ่ม จึงเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกรในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้จัดทำโครงการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือดเกษตรกรขึ้น เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใด เพื่อทำการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อไป โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 66 ในการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม มาตรา 67 (3) ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ (6) ส่งเสริมการพัฒนาสตรี  เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ จึงร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากแจ่ม เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันและลดอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ขึ้น เพื่อให้เกษตรกรเกิดความตระหนักในการป้องกันตนเองจากการใช้สารเคมี เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนเอง


/2. วัตถุประสงค์..... -2- 2. วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัด/กลุ่มเป้าหมาย 2.1 วัตถุประสงค์     (1) เพื่อให้เกษตรกรและแรงงานนอกระบบได้รับการตรวจคัดกรองหาสารเคมีในเลือด   (2) เพื่อให้ได้รับความรู้ ให้ทุกคนตระหนักถึงพิษภัยจากสารเคมีตกค้าง ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีอันตรายในการเกษตร และหันมาใช้ปุ๋ยจากวัสดุธรรมชาติ รวมถึงการใช้สารชีวภัณฑ์ในการควบคุมศัตรูพืช 2.2 ตัวชี้วัด (1) เกษตรกรและแรงงานนอกระบบในพื้นที่ตำบลปากแจ่ม จำนวน 70 คน (2) เจ้าหน้าที่ จำนวน 5 คน
2.3 กลุ่มเป้าหมาย ( ระบุกลุ่มเป้าหมายและจำนวนคน ) ด้านปริมาณ - เกษตรกรและแรงงานนอกระบบที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการประกอบอาชีพ ตำบลปากแจ่ม จำนวน 70 คน - เจ้าหน้าที่ จำนวน 5 คน ด้านคุณภาพ - เกษตรกรและแรงงานนอกระบบในพื้นที่ตำบลปากแจ่ม ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี - เกษตรกรและแรงงานนอกระบบในพื้นที่ตำบลปากแจ่มได้รับความรู้และตระหนักถึงพิษภัยจากสารเคมีตกค้าง และลด ละ เลิก การใช้สารเคมีอันตรายในการเกษตร โดยหันมาใช้ปุ๋ยจากวัสดุธรรมชาติ รวมถึงการใช้สารชีวภัณฑ์ในการควบคุมศัตรูพืช

  1. วิธีดำเนินการ   3.1 ขั้นเตรียมการ 3.1.1 ประชุมคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงาน
    3.1.2 จัดทำโครงการเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลปากแจ่ม 3.1.3 ประสานกับหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง   3.2 ขั้นดำเนินการ 3.2.1 เจาะเลือดตรวจหาสารเคมีเกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี 3.2.2 บันทึกสุขภาพเกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการเจาะเลือด รักษาโดยใช้สมุนไพรและนัดติดตามผลอย่างต่อเนื่อง 3.2.3 จัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี   3.3 ขั้นสรุปโครงการ 3.3.1 สรุปผลโครงการ


  2. ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2566 – กันยายน 2567

  3. สถานที่ดำเนินการ หมู่ที่ 1 – หมู่ที่ 7 /6. งบประมาณ.......

-3- 6. งบประมาณ   จากงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลปากแจ่มเป็นเงิน 19,300 บาท รายละเอียด ดังนี้ 1. เจาะเลือดตรวจหาสารเคมีแก่เกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี
  1.1) ค่ากระดาษตรวจโคลีนเอสเตอเรส จำนวน 2 ชุดๆ ละ 1,200 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท (จำนวน 100 ชิ้น/ชุด)   1.2) เข็มเจาะเลือดปลายนิ้ว จำนวน 1 กล่องๆ ละ 900 บาท เป็นเงิน 900 บาท ( 1 กล่อง มี 200 ชิ้น)   1.3) capillary tube จำนวน 1 กล่องๆ ละ 900 บาท  เป็นเงิน 900 บาท
(1,000/กล่อง)   1.4) แอลกอฮอล์ 70% จำนวน 2 ขวดๆ ละ 60 บาท  เป็นเงิน 120 บาท (ขนาด 450 ซีซี)   1.5) สำลีก้อนเล็ก จำนวน 2 ถุงๆ ละ 150 บาท เป็นเงิน 300 บาท (ขนาด 450 กรัม)   1.6) ถุงมือดิสโพสเบอร์ M จำนวน 4 กล่องๆ ละ 180 บาท เป็นเงิน 720 บาท (50 คู่/กล่อง)   1.7) ดินน้ำมันดูดหลอด capillary จำนวน 1 กล่องๆ ละ 950 บาท เป็นเงิน 950 บาท (10 แพ็ค/กล่อง)   1.8) กระจกสไลด์ใส จำนวน 2 กล่องๆ ละ 150 บาท เป็นเงิน 300 บาท (จำนวน 72 ชิ้น/กล่อง)   1.9) ค่ายาสมุนไพรรางจืด จำนวน 10 กระปุกๆ ละ 150 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท
( 1 กระปุก = 100 เม็ด)

  1. จัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่มีความเสี่ยงจากการใช้สารเคมี   2.1) ค่าป้ายโครงการ จำนวน 1 ป้าย ขนาด 1.2  2.4 เมตร เป็นเงิน 430 บาท   2.2) ค่าสมนาคุณวิทยากรในหน่วยงานสาธารณสุข จำนวน 3 คน เป็นเงิน 2,700 บาท
    (คนละ 3 ชั่วโมงๆ ละ 300 บาท)   2.3) ค่าสมนาคุณวิทยากรสำนักงานเกษตรอำเภอห้วยยอด เป็นเงิน 900 บาท (จำนวน 1 คน จำนวน 1 ชั่วโมง 30 นาที ชั่วโมงละ 600 บาท)   2.4) ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 2 มื้อๆ ละ 25 บาท    เป็นเงิน 3,750 บาท   (จำนวน 75 คน)
      2.5) ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 1 มื้อๆ ละ 50 บาท  เป็นเงิน 3,750 บาท (จำนวน 75 คน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 19,620 บาท

7

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

 

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2567 14:36 น.