กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ปัจจุบันประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงวัย จากแนวโน้มของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกๆปี
ในปี ๒๕๖๔ กำลังจะกลายเป็นสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ข้อมูลสำนักงานสถิติจังหวัดสงขลาปี ๒๕๖๐ พบว่ามีจำนวนผู้สูงอายุร้อยละ ๑๓.๗จากการสำรวจสุขภาพประชาชนเมื่อปี ๒๕๕๗ พบว่าโรคที่มักพบในผู้สูงอายุได้แก่ ข้ออักเสบ/ข้อเสื่อม โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคอ้วน นอกจากนี้ผู้สูงอายุเกินกว่าร้อยละ ๑๐ มีปัญหาการขึ้นลงบันได การกลั้นอุจจาระ หรือปัสสาวะไม่ได้ การทรงตัว ดังนั้นการดูแลผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องสำคัญ ควรมีการดูแล ส่งเสริมและพัฒนาผู้สูงอายุ เพื่อลดการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ให้พึ่งพาตนเองได้สามารถดํารงชีวิตและปฏิบัติกิจวัตรประจําวันได้อย่างปกติ ซึ่งควรจัดให้มีการพัฒนามาตรฐานและแนวทางการให้บริการผู้สูงอายุให้มีคุณภาพ มาตรฐานเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เจ็บป่วยน้อยลง มณีเวชเป็นหนึ่งในวิชาการปรับสมดุลโครงสร้างร่างกายคิดค้นขึ้นโดยอาจารย์ประสิทธิ์ มณีจิระปราการ เน้นการปรับโครงสร้างร่างกายให้อยู่ในสมดุลเพื่อใช้ในการบำบัดรักษาตั้งแต่อาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อจนถึงโรคต่างๆที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย ปัจจุบันมีการใช้มณีเวชอย่างแพร่หลายในการบำบัดรักษาผู้ป่วย และมีการศึกษาวิจัย เช่น งานวิจัยเรื่อง “ผลของการบริหารร่างกายด้วยศาสตร์มณีเวช เพื่อลดอาการปวดหลังส่วนล่าง (เกณิกา, ๒๕๕๙)“ผลการทำกายบริหารแบบมณีเวชต่อการทรงตัว ความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของผู้สูงอายุ” (วีระยุทธ, ๒๕๖๐) และงานวิจัย เรื่อง “ผลของการปรับสมดุลรางกายดวยมณีเวชตอการปวดเมื่อยกลามเนื้อในผูสูงอายุ (เพชรธยา, ๒๕๖๐)
งานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลหาดใหญ่ มีการเปิดคลินิกมณีเวชและมีการนำศาสตร์มณีเวชมาบูรณาการใช้กับผู้รับบริการในกลุ่มวัยต่างๆ เช่นกลุ่มแม่และเด็ก กลุ่มวัยทำงาน และผู้สูงอายุ มีผู้รับบริการโดยเฉลี่ย ๑๕๐ ครั้ง/เดือน ซึ่งผลการรักษาสามารถลดอาการปวดและลดการใช้ยาของผู้รับบริการได้ ดังนั้นงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลหาดใหญ่เห็นประโยชน์และคุณค่าของศาสตร์มณีเวช โดยมีการบูรณาการนำศาสตร์มณีเวชมาในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ จึงจัดทำโครงการ“ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุด้วยศาสตร์มณีเวช” ให้แก่ผู้สูงอายุในเชตเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้มีความรู้ ความเข้าใจในศาสตร์มณีเวชและนำมาปรับใช้ในการดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพและส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้เป็นการสร้างแกนนำ เครือข่ายการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์มณีเวช สามารถขยายผลลงสู่ชุมชุน ให้เกิดการดูแลสุขภาพแบบยั่งยืนต่อไป