กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการประเมินความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตำบลบางรัก
รหัสโครงการ 61-L1499-2-1
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ กลุ่มหรือองค์กรประชาชน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลบางรัก
วันที่อนุมัติ 13 มีนาคม 2561
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 มกราคม 2561 - 31 สิงหาคม 2561
กำหนดวันส่งรายงาน 31 สิงหาคม 2561
งบประมาณ 41,150.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวสิริรสกิ้มเฉี้ยง
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
ละติจูด-ลองจิจูด 7.558,99.577place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานผู้สูงอายุ
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 0.00
รวมงบประมาณ 0.00

คำเตือน : รวมงบประมาณของทุกงวด (0.00 บาท) ไม่เท่ากับ งบประมาณโครงการ (41,150.00 บาท)

stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มผู้สูงอายุ 643 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

โลกกำลังก้าวเข้าสู่ “ศตวรรษแห่งผู้สูงอายุ” เนื่องจากขนาดและสัดส่วนประชากรของผู้สูงอายุทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเกิดขึ้นทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา โครงสร้างประชากรโลกในศตวรรษที่ 21 จึงเคลื่อนเข้าสู่ระยะที่เรียกว่า “ภาวะประชากรสูงอายุ” (population aging) ไทยเป็นประเทศหนึ่งในจำนวนประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งองค์การสหประชาชาติให้นิยามไว้ว่าหมายถึงสังคมซึ่งมีประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 7 ของประชากรทั้งประเทศสาหรับประเทศไทยได้ในนิยามแตกต่างไปเล็กน้อยว่าหมายถึงการมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ(นภาภรณ์หะวานนท์และธีรวัลย์วรรธโนทัย, 2552: 60) จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าประเทศไทยมีจำนวนและสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องโดยในปี พ.ศ. 2537 มีจำนวนผู้สูงอายุคิดเป็นร้อยละ 6.8 ของประชากรทั้งประเทศปี พ.ศ. 2545 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9.4 ผลสำรวจปี พ.ศ. 2550 พบว่าผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.7 ของประชากรทั้งประเทศ (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2551: 3) มีการคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยคาดว่าในปี พ.ศ. 2558 จะมีจำนวนผู้สูงอายุ 9.03 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ 14.0 ของประชากรทั้งประเทศและเพิ่มเป็น 12.9 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ 19.8 ของประชากรทั้งประเทศในปี พ.ศ. 2568 (สถาบันวิจัยประชากรและสังคมมหาวิทยาลัยมหิดล, 2548 : 8) และจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่มีมากขึ้นเรื่อยๆจะมีติดต่อกันไม่น้อยกว่า 30 ปี ในปี พ.ศ. 2583 คาดประมาณว่าประเทศไทยจะมีประชากรผู้สูงอายุจำนวนสูงถึง 17.5 ล้านคนหรือประมาณเกือบ 1 ใน4 ของประชากรทั้งประเทศ (นภาภรณ์หะวานนท์และธีรวัลย์วรรธโนทัย, 2552: 138) และจากการประมาณการดัชนีผู้สูงวัย (Index of Aging ได้จาก ดัชนีการสงูวัย(IOA) = ร้อยละของอัตราส่วนจำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ต่อจำนวนประชากรวัยเด็ก(ต่ำกว่า 15 ปีหรือ IOA =(P60+/P15-) x 100) ในปี 2563 จะมีค่าประมาณร้อยละ 113.89เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 143.98 ในปี 2568และสูงถึงร้อยละ 179.38 ในปี2573(กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,2557)ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศทั้งในภาคแรงงานและการกำหนดนโยบาย เนื่องจากผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจเช่นการมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอลงประสิทธิภาพในการทำงานลดลงมีจิตใจหดหู่เหงาว้าเหว่เป็นต้นและมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมด้วยเช่นการมีบทบาทในสังคมน้อยลงการที่ผู้คนมองผู้สูงอายุว่าไม่มีคุณค่าหรือไร้ประโยชน์การต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้นเป็นต้นดังนั้นการพัฒนาใด ๆ ที่สอดคล้องการเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากสาหรับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุนอกจากนี้สัดส่วนของผู้สูงอายุไทยที่อาศัยอยู่คนเดียวตามลำพังในครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยปี พ.ศ. 2537 มีผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวร้อยละ 3.6 ปี พ.ศ. 2545 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.3 และในปี พ.ศ. 2550 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.7 (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2551 :14) รวมถึงผู้สูงอายุที่อาศัยร่วมกับบุคคลอื่นในครอบครัวแต่ต้องอยู่เพียงลำพังในบ้านตอนกลางวันมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการที่บุคคลในครอบครัวต้องออกไปทำงานในเวลากลางวันทำให้ต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้นในชีวิตประจำวันรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมจึงมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจากการศึกษาซึ่งจากการศึกษาพบว่ารูปแบบที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุและนำไปสู่ภาวะทุพพลภาพในที่สุดได้ และส่งผลต่อเนื่องกับปัญหาด้านเศรษฐกิจจะรุนแรงขึ้นเพราะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาและต้องการผู้ดูแล (สุทธิชัยจิตะพันธ์กุลและคณะ, 2545: 2-21) มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้สูงอายุที่หกล้มนั้นเกิดขึ้นภายในตัวบ้าน (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2551: 27) ภายใต้ข้อเท็จจริงที่โครงสร้างประชากรของประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจำเป็นต้องสอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของผู้สูงอายุ โดยต้องทำความเข้าใจในทุกมิติ ได้แก่ด้านสุขภาพ ด้านจิตใจ และด้านสัมพันธภาพทางสังคมจึงเป็นสิ่งจำเป็น และหากมองถึงแนวโน้มเรื่องการเพิ่มประชากร ทั้งจำนวนและสัดส่วนผู้สูงอายุในสังคมไทย อันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้นตามลำดับ แนวคิดสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่การพยายามจัดให้มีการสังคมสงเคราะห์ หรือการบริการผู้สูงอายุ เพราะนั่นเป็นการมองว่า ผู้สูงอายุ คือภาระของสังคม (Liability) ที่ต้องเข้าไปอุ้มชูดูแล หากแต่ต้องทำให้ผู้สูงอายุเป็นประชากรที่เป็นพลังการพัฒนา (Assets for Development)
พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ 2542 กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภท มีอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบการบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตน รวมทั้งสิ้นอย่างน้อย 30 ด้าน หนึ่งในจำนวนนั้น คือการสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาสองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นกลไกพัฒนาประเทศ ที่มีความสำคัญมากขึ้นตามลำดับ ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งการสร้างสังคมผู้สูงอายที่มีคุณภาพโดยปัจจุบันผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง มีจำนวนทั้งสิ้น 643 คน ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลบางรัก ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะที่ผ่านมาการกำหนดแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ยังขาดการรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้การดำเนินการดังกล่าวอาจยังไม่ตอบสนองความต้องการจำเป็นของผู้สูงอายุอย่างแท้จริง ดังนั้นการประเมินความต้องการจำเป็น การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจะทำให้ องค์การบริหารส่วนตำบลบางรักสามารถกำหนดแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมได้อย่างสอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของผู้สูงอายุ และเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุในฐานะที่เป็นพลังการพัฒนาของสังคมต่อไป

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 1.เพื่อให้ผู้สูงอายุในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางรัก ได้ร่วมกันกำหนดแนวทาง/วิธีการในการส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ สัมพันธภาพทางสังคม และสิ่งแวดล้อม

 

0.00
2 2.เพื่อนำผลการประเมินข้อมูลความต้องการจำเป็นเสนอแนะเชิงพัฒนาคุณภาพชีวิต ของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง

 

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม

1 เขียนโครงการ จัดทำเครื่องมือเพื่อเสนอขอรับงบประมาณ 2 กำหนดจัดและประสานงานเพื่อจัดกิจกรรมประเมินความต้องการจำเป็น 3 ดำเนินงานจัดกิจกรรมโดยวางแผนงานร่วมกับ คณะทำงาน ศพค. ประเมินความเข้าใจของผู้เข้าร่วมการประชุม ในเวทีประชุม รวบรวมรูปแบบ/แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม จากข้อเสนอแนะของผู้สูงอายุผู้เข้าร่วมประชุม 4 นำผลการประชุมแต่ละครั้งมาสรุปรวมกันแล้วจัดทำแผนงานด้านการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลบางรัก
5 จัดเวทีประชาพิจารณ์แผนสุขภาพผู้สูงอายุ นำเสนอแผนงานให้กับองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.ผู้สูงอายุในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางรัก ได้ร่วมกันกำหนดแนวทาง/วิธีการในการส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ สัมพันธภาพทางสังคม และสิ่งแวดล้อม
2.เกิดผลการประเมินข้อมูลความต้องการจำเป็นเสนอแนะเชิงพัฒนาคุณภาพชีวิต ของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2561 15:09 น.