โครงการลด ละ เลิกบุหรี่ในสถานที่ทำงาน ประจำปี 2561
ชื่อโครงการ | โครงการลด ละ เลิกบุหรี่ในสถานที่ทำงาน ประจำปี 2561 |
รหัสโครงการ | 2561-L7257-1-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | งานป้องกันและควบคุมโรค กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองคอหงส์ |
วันที่อนุมัติ | 21 กุมภาพันธ์ 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2561 |
งบประมาณ | 46,180.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวธีราพรตาดำ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.006,100.503place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบัน ปัญหาจากการสูบบุหรี่ทำให้เกิดผลกระทบในระบบสุขภาพของประชาชนทั้งทางตรงคือผู้สูบบุหรี่เอง และทางอ้อมผู้ที่รับพิษจากควันบุหรี่ที่ผู้ใกล้ชิดเป็นผู้สูบคือบุหรี่มือสองทั้งที่ประเทศไทยมีการรณรงค์ควบคุมการบริโภคยาสูบเกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2517 แต่ในปี พ.ศ. 2551บุหรี่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า5ล้านคนซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าผู้เสียชีวิตจากโรควัณโรคโรคเอดส์และไข้มาลาเรียรวมกันและคาดว่าในปีพ.ศ. 2573จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเป็น8ล้านคนต่อปีโดยพบว่ามะเร็งที่มีอุบัติการณ์สูงขึ้นในผู้สูบบุหรี่ได้แก่มะเร็งปอดที่เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายไทยอีกทั้ง การสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผู้สูบเกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันและเกิดปัญหาการสูญเสียการทำงานของหลอดเลือดโคโรนารีที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจการสูบบุหรี่ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้ผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอกและหัวใจวายโรคความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นผิดปกติ ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่จากสิ่งแวดล้อมจะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสูงกว่าคนที่ไม่เคยได้รับ 1.3 เท่า และจะมีโอกาสเกิดมะเร็งปอดได้มากขึ้นประมาณ 1.8 เท่าโดยกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษในการได้รับควันบุหรี่จากสิ่งแวดล้อมได้แก่ทารกในครรภ์และเด็กหากมารดาตั้งครรภ์สูบบุหรี่หรือได้รับควันดังกล่าวจะมีโอกาสเกิดผลเสียต่อทารกในครรภ์และเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์สูงเช่นทารกน้ำหนักตัวน้อย คลอดก่อนกำหนดเด็กหากได้รับควันดังกล่าวจะมีโอกาสเกิดภาวะไหลตายปอดอักเสบติดเชื้อโรคภูมิแพ้โรคหอบหืดได้มากกว่าเด็กทั่วไป สำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ปี 2557พบว่าจำนวนประชากรมีอายุ ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป54.8 ล้านคนเป็นผู้สูบบุหรี่ 11.4 ล้านคน (ร้อยละ 20.7 )เป็นผู้สูบบุหรี่ประจำ 10 ล้านคน (ร้อยละ 18.2 )สูบนาน ๆ ครั้ง 1.4 ล้านคน (ร้อยละ 2.5 )ในกลุ่มวัยทำงาน (25 – 59 ปี) มีอัตราการสูบบุหรี่สูงสุด (ร้อยละ 23.5 ) รองลงมากลุ่มผู้สูงอายุ (60ปีขึ้นไป) และกลุ่มเยาวชน(15 – 24 ปี) (ร้อยละ 16.6 และ 14.7 ตามลำดับ) ผู้ชายสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง 18.4 เท่า (ร้อยละ40.5 และ 22 ตามลำดับ)เมื่อเปรียบเทียบกับปี2556พบว่าเพศชายและหญิงมีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มสูงขึ้นและทุกกลุ่มมีอายุเฉลี่ยที่เริ่มสูบบุหรี่น้อยลงโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน 15-24 ปี เริ่มสูบบุหรี่อายุน้อยลงค่อนข้างมากกว่ากลุ่มอื่นคือจากปี 2550 เยาวชนเริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุ 16.8 ปีในปี 2557 ลดลงเป็นอายุ 15.6 ปีชี้ให้เห็นว่า อายุของนักสูบบุหรี่หน้าใหม่มีอายุน้อยลง จึงต้องมีมาตรการเฝ้าระวังในกลุ่มเยาวชนมากขึ้น และในประเทศไทยมีคนเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากบุหรี่คิดเป็น 12 % ของการตายทั้งหมดรัฐบาลสูญเสียทางเศรษฐกิจกับค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคที่เกิดจากบุหรี่ถึง 43.6 พันล้านบาท คิดเป็น 0.5% ของ GDP ถ้ายังไม่มีมาตรการใด ๆ ในการป้องกันและเฝ้าระวังนักสูบบุหรี่หน้าใหม่อีกทั้งบุหรี่เป็นเพียงสินค้าชนิดเดียวที่ถูกกฎหมาย แต่เป็นอันตรายต่อทุกคนทั้งที่เป็นผู้สูบบุหรี่ และผู้ไม่สูบบุหรี่ แต่ได้รับควันบุหรี่มือสอง จึงมีความจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนให้ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่โดยยึดหลักการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งการดูแลสร้างเสริมสุขภาพการแนะนำให้มาบำบัดจัดระบบเฝ้าระวังไม่ให้กลับไปเสพซ้ำโดยการสร้างแรงจูงใจ การตระหนักในปัญหา ร่วมกันให้คำปรึกษา ติดตาม ดูแล และการให้ความรู้แก่ประชาชนให้สามารถนำไปปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการป้องกันที่ดีโดยการสร้างการตระหนัก จูงใจประชาชนเลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพดี ของตนเองและบุคคลรอบด้าน งานป้องกันและควบคุมโรค กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองคอหงส์ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการสูบบุหรี่ซึ่งยังมีอยู่เป็นจำนวนมากสมควรที่จะต้องดำเนินการแก้ไขจึงได้จัดทำโครงการลด ละ เลิกบุหรี่ในสถานที่ทำงาน ประจำปี ๒๕๖๑ ขึ้นเนื่องจากบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเสียชีวิตอันดับต้นของคนไทยที่สามารถป้องกันได้โดยการช่วยเหลือให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบและป้องกันหรือลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ให้ห่างไกลจากการสูบบุหรี่
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1 เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในสถานที่ทำงานลงทั้งรายเก่าและรายใหม่ ๑. จำนวนผู้สูบบุหรี่ที่มีความจำนงเลิกบุหรี่ 50 % ๒. จำนวนผู้แจ้งความจำนงเลิกบุหรี่ สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างน้อย ร้อยละ ๘๐ |
25.00 | |
2 | ข้อที่ 2 เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่
|
50.00 | |
3 | ข้อที่ 3 เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่ป้องกันตนเองไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดชนิดอื่น ๆ ต่อไป
|
50.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 46,180.00 | 1 | 13,590.00 | |
2 เม.ย. 61 - 28 ก.ย. 61 | สำรวจบุคลากรที่สูบบุหรี่ | 0 | 2,240.00 | - | ||
2 เม.ย. 61 - 28 ก.ย. 61 | จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโทษและพิษภัยของการสูบบุหรี่และการใช้ยาเสพติดชนิดอื่นๆแก่บุคลากรที่สูบบุหรี่ | 0 | 28,430.00 | ✔ | 13,590.00 | |
2 เม.ย. 61 - 28 ก.ย. 61 | สำรวจบุคลากรที่จะเข้าร่วมโครงการลด ละ เลิกบุหรี่ในสถานที่ทำงาน | 0 | 2,240.00 | - | ||
2 เม.ย. 61 - 28 ก.ย. 61 | จัดบอร์ดรณรงค์ในวันงดสูบบุหรี่โลก | 0 | 1,310.00 | - | ||
2 เม.ย. 61 - 28 ก.ย. 61 | ค่าวัสดุอื่นๆ | 0 | 1,960.00 | - | ||
5 ก.ย. 61 | จัดตั้งคลินิคให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลด ละ เลิกบุหรี่ ณ งานป้องกันและควบคุมโรค เทศบาลเมืองคอหงส์ โดยจะเปิดคลินิคในทุกๆวันที่ 15 และ 30 ของเดือน | 0 | 10,000.00 | - |
- ประชุมคณะทำงานเพื่อวางแผนการดำเนินโครงการ
- สำรวจข้อมูลบุคลากรที่สูบบุหรี่ในที่ทำงาน
- ประชาสัมพันธ์โครงการ
- เปิดรับสมัครผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ (เพื่อตนเองและครอบครัว) โดยการสอบถามข้อมูล
- จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโทษ และพิษภัยของการสูบบุหรี่และการใช้ยาเสพติดชนิดอื่น ๆ แก่บุคลากรที่สูบบุหรี่ (ผู้ที่สูบและไม่สูบบุหรี่)
- สำรวจบุคลากรที่จะเข้าร่วมโครงการลด ละ เลิกบุหรี่ในสถานที่ทำงาน
- จัดตั้งคลินิกให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลด ละ เลิกบุหรี่ ณ งานป้องกันและควบคุมโรค เทศบาลเมืองคอหงส์ โดยจะเปิดคลินิกในทุก ๆ วันที่ 15 และ 30 ของเดือน
- จัดบอร์ดรณรงค์ในวันงดสูบบุหรี่โลก วันที่ 31พฤษภาคม2561
- ปริมาณผู้สูบบุหรี่ในสถานที่ทำงานลดน้อยลง
- ผู้สูบบุหรี่เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2561 14:07 น.