โครงการดูแล ห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ ผู้สูงวัย ในเดือนรอมฎอน
ชื่อโครงการ | โครงการดูแล ห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ ผู้สูงวัย ในเดือนรอมฎอน |
รหัสโครงการ | L302261321 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตำบลดอนทราย |
วันที่อนุมัติ | 19 เมษายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2561 - 31 กรกฎาคม 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 14,650.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ประธานศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตำบลดอนทราย |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสาวซาลีนา กอเสง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลดอนทราย อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.597,101.701place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 120 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ทุกปีในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม เป็นเดือนที่ชาวมุสลิมถือศีลอดทั้งเดือน ด้วยเหตุนี้จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า เดือนบวช และถือว่าเป็นเดือนที่สำคัญที่สุดเดือนหนึ่ง ดูแลใส่ใจสุขภาพ ‘ช่วงถือศีลอด’ การถือศีลอดตามความหมายทางศาสนาของอิสลาม คือ การงดเว้นจากการกิน การดื่ม การเสพ การร่วมประเวณีระหว่างสามีภรรยา ตลอดจนการกระทำที่ขัดกับคุณธรรม ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตก ซึ่งช่วงเวลาที่อดอาหาร อดน้ำ ในแต่ละวัน และพฤติกรรมการรับประทานที่แตกต่างกันของแต่ละคน อาจทำให้ช่วงเวลาถือศีลอดยาวนานได้ตั้งแต่ 13 ถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันไป 29-30 วัน จึงอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง วิธีการดูแลสุขภาพในเดือนถือศีลอดสำหรับประชาชนทั่วไป ๑.รับประทานอาหารสุกใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด เพราะจะทำให้กระหายน้ำได้ระหว่างการถือศีลอดในตอนกลางวันดูแลใส่ใจสุขภาพ ‘ช่วงถือศีลอด’ ๒. สำหรับอาหารมื้อเย็นควรเริ่มด้วยอาหารเหลวย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยากเพราะจะทำให้กระเพราะอาหารทำงานหนักขึ้น๓. อาหารมื้อเย็น ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารมากเกินไป เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวกระเพาะอาหารจะมีน้ำย่อยออกมามาก การรับประทานอาหารอย่างรวดเร็วจะทำให้กระเพาะอาหารปรับตัวไม่ทัน ระบบย่อยอาหารแปรปรวน เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หากเกิดขึ้นบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารเรื้อรังต่อไปได้๔. หลีกเลี่ยงการนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร ต้องอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง เพราะการนอนหลังรับประทานอาหารทันที อาจทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับ ทำให้ระบบย่อยอาหารแปรปรวนเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ๕. ก่อนรับประทานอาหารหรือปรุงอาหารควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง สำหรับน้ำดื่มควร เป็นน้ำที่สะอาด เช่น น้ำต้มสุก หรือน้ำบรรจุขวดที่ได้มาตรฐานดูแลใส่ใจสุขภาพ ‘ช่วงถือศีลอด’สำหรับโรคที่ควรหลีกเลี่ยงการถือศีลอด ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคไต ผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนไต หรือนิ่วที่ไต โรคปอดและหัวใจที่รุนแรง โรคกระเพาะ โรคลมชัก และโรคไมเกรน ซึ่งหากผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังที่ตั้งใจจะถือศีลอด ควรแจ้งให้แพทย์ที่รักษาเป็นประจำได้ทราบล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มถือศีลอดเพื่อขอคำแนะนำในการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายเพื่อการตรวจรักษาได้ทันเวลา และ โรคเบาหวาน เป็นโรคที่ไม่เหมาะกับการอดอาหารมากที่สุด เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จากการอดอาหาร หรือเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง จากการงดทานยารักษาเบาหวาน ดังนั้นควรให้ความใส่ใจและดูแลตนเองเป็นพิเศษ ซึ่งการถือศีลอดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 นั้น มีความปลอดภัย หากผู้ป่วยรู้สภาวะโรคของตนเอง และสามารถปรับพฤติกรรมการกินอาหารปรับเปลี่ยนการใช้ยาอย่างถูกต้อง แต่ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ ๑ หากผู้ป่วยมีความต้องการถือศีลอด ต้องตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดช่วงตลอดวันที่ถือศีลอด ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ จากข่าวที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ 2012 หรือเมิร์ส-โควี รายแรกในไทย ซึ่งในช่วงเดือนถือศีลอด พี่น้องชาวไทยมุสลิมบางส่วนอาจเดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลาง พื้นที่พบการระบาดของโรค เพื่อไปประกอบพิธีศาสนา จึงควรรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอจาม ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสกับอูฐ หรือดื่มนมอูฐดิบสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคไตวาย หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ควรระวังเป็นพิเศษ ผู้เดินทางกลับจากประเทศที่มีความเสี่ยงเป็นเวลา 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอหลีกเลี่ยงคลุกคลีบุคคลอื่น สวมหน้ากากป้องกันโรค ล้างมือให้สะอาด และรีบไปพบแพทย์“ไม่เพียงแต่พี่น้องชาวมุสลิมเท่านั้น การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรปฏิบัติ เพื่อการมีสุขภาพดี สร้างภูมิคุ้มกัน ปราศจากโรคภัยทั้งโรคติดต่อ และโรคไม่ติดต่อได้” ตำบลดอนทรายมีผู้สูงอายุ จำนวน ๒๙๘ คน เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังทั้งโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต และอื่นๆจำนวน ๙๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๘.๘๓และยังมีกลุ่มเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคเรื้อรังดังกล่าวอีกค่อนข้างมาก เนื่องด้วยพฤติกรรมส่วนบุคคล และอายุจากข้อมูลดังกล่าว ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตำบลดอนทราย จึงจัดทำโครงการดูแลห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ ผู้สูงวัย ในเดือนรอมฎอน ขึ้น เพื่อให้ความรู้และวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถถือศีลอดอย่างมีความสุข และมีสุขภาพที่ดี
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 14,650.00 | 0 | 0.00 | |
24 พ.ค. 61 | อบรมให้ความรู้ จำนวน 1 วัน | 0 | 14,650.00 | - |
1.สำรวจข้อมูลสุขภาพผู้สูงอายุในตำบล วิเคราะห์ นำเสนอ ในที่ประชุม
2.จัดประชุมคณะทำงาน เพื่อวางแผน ดำเนินโครงการ เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพในช่วงเดือนรอมฎอน
3.ขออนุมัติโครงการ .
4.เชิญผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมาย จำนวน ๑๒๐ คน เข้าร่วมกิจกรรมอบรมให้ความรู้ในโครงการฯ
5.ติดตามสุขภาพในช่วงเดือนรอมฎอน ร่วมกับ รพสตอสม
6.ประเมินผลโครงการ
๑.เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจ เรื่องเพศศึกษาและพัฒนาการของวัยรุ่น 2. เยาวชนมีความรู้และมีทักษะ ในการจัดการกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเพศศึกษา 3เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้คุณค่าของตนเอง 4มีเครือข่ายในตำบล
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2561 11:04 น.