กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

assignment
บันทึกกิจกรรม
อบรมเชิงปฏิบัติการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่(จำลองเหตุการณ์ )เป็นรายกลุ่ม 5 สิงหาคม 2561
5
สิงหาคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย กองทุนเทศบาลตำบลฉลุง
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

อบรมเชิงปฏิบัติการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่(จำลองเหตุการณ์ )เป็นรายกลุ่ม 

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่จากการจำลองเหตุการณ์ จากการประเมินการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ (จำลองเหตุการณ์) พบว่า แกนนำด้านสุขภาพ ได้ทำการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ (จำลองเหตุการณ์) เป็นรายกลุ่ม โดยแกนนำสุขภาพในแต่ละกลุ่ม สามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งสติ มีผู้ควบคุมสถานการณ์ ความปลอดภัยของผู้ประสบอุบัติเหตุ การประเมินสถานการณ์ การขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ การแบ่งภาระหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ การจัดลำดับความรุนแรงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ซึ่งแกนนำสุขภาพได้ผ่านการประเมินทุกคน คิดเป็นรายกลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ได้82 คะแนน กลุ่มที่ 2 ได้ 90 คะแนน กลุ่มที่ 3 ได้ 93 คะแนนกลุ่มที่ 4 ได้ 87 คะแนน เฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 88บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 4

กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์5 สิงหาคม 2561
5
สิงหาคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย กองทุนเทศบาลตำบลฉลุง
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

  กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

กลุ่มแกนนำด้านสุขภาพที่รับการอบรมสามารถทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันได้เป็นอย่างดี

อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือและผู้อื่นจากการจมน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น)4 สิงหาคม 2561
4
สิงหาคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย กองทุนเทศบาลตำบลฉลุง
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือและผู้อื่นจากการจมน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น)

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น (ตะโกน โยน ยื่น)จากการฝึกปฏิบัติทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น)พร้อมทั้งได้ทดสอบเป็นรายกลุ่มซึ่งทุกคนสามารถทำได้ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 โดยมีเนื้อหาการอบรมดังนี้ ทักษะในการช่วยเหลือตนเองในท่าต่างๆ เช่น
* ท่าลอยตัว มี 4 ท่า ได้แก่ ท่าปลาดาวหงาย ท่าปลาดาวคว่ำ ท่าแมงกะพรุน และท่าเต่า * ท่าว่ายน้ำเอาชีวิตรอด มี 2 ท่า ได้แก่ ท่าหมาตกน้ำ และท่ากรรเชียงหงาย ซึ่งก่อนที่จะทำท่าต่างๆ แกนนำด้านสุขภาพ ได้ฝึกการกำหนดลมหายใจใต้น้ำ และฝึกการเป่าลมใต้น้ำ ถึงแม้บางคนอาจจะทำได้ช้าแต่ทุกคนก็สามารถทำได้ทุกคน ทักษะในการช่วยเหลือผู้อื่นจากการจมน้ำ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่า “ช่วยด้วยๆมีคนตกน้ำ” 2. โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อให้คนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกนลอนพลาสติก ขวดพลาสติก หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ 3. ยื่นสิ่งของยาวๆที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ท่อนไม้ เข็มขัด ผ้าขาวม้า ยื่นอุปกรณ์ไปข้างใดข้างหนึ่ง แล้วจึงกวาดเข้าหาตัวคนที่ตกน้ำและดึงขึ้นฝั่ง แกนนำด้านสุขภาพได้ทำการปฏิบัติจริงในการใช้อุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยเหลือ คนตกน้ำ ดังนี้ 1. การโยนได้แก่ 1.1 การโยนเชือก * ท่ายืน โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ข้างเท้าที่ถนัดจับปลายเชือกไว้ มืออีกด้านถือเชือกไว้พร้อมที่จะโยน การโยนเชือกให้โยนเลยเหนือศีรษะคนตกน้ำระหว่างช่วงไหล่ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ 1.2 การโยนห่วงชูชีพ * ท่าโยนเหนือศีรษะโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพยกขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมทั้งโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่าโยนใต้ขาโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพถือไว้ระหว่างขาแล้วโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ

  • ท่าโยนมือเดียว โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ถนัดจับห่วงชูชีพ แล้วกางแขนออกประมาณ 45 องศา โยนห่วงชูชีพไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง
    ขาหน้าตึงขาหลังงอ 1.3 การโยน Rescue Tubeโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับRescue Tube แล้วโยน Rescue Tube ไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ
  1. การยื่น ได้แก่ 2.1 การยื่นไม้

* ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ในท่าที่ถนัด แล้วย่อขาด้านหน้าลง ขาหลังตึง พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่านั่งโดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง * ท่านอนโดยให้นอนคว่ำ แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ยื่นไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้คนช่วยพลิกตัวตะแคงและสาวไม้ดึงคนตกน้ำขึ้นมา 2.2 การยื่น Rescue Tube * ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับRescue Tube แล้วย่อขาด้านหน้าลงพร้อมทั้งยื่น Rescue Tube ไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับRescue Tube ได้ ให้สาวRescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวRescue Tube ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่านั่ง โดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปหน้าคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับRescue Tube ได้ ให้สาวRescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง

อบรมการให้ความรู้เรื่องการฟื้นคืนชีพ (CPR) พร้อมฝึกปฏิบัติ 4 สิงหาคม 2561
4
สิงหาคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย กองทุนเทศบาลตำบลฉลุง
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

อบรมการให้ความรู้เรื่องการฟื้นคืนชีพ (CPR) พร้อมฝึกปฏิบัติ 

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) จากการประเมินทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผู้ป่วยที่หมดสติ โดยทุกคนสามารถฝึกปฏิบัติขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)คนหมดสติ คิดเป็น ร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 โดยมีเนื้อหาการอบรม ดังนี้ การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) หรือ การกู้ชีวิต หรือการกู้ชีพ หมายถึง การปฏิบัติการเพื่อช่วยฟื้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ที่หยุดทำงานอย่างกะทันหัน เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเองได้ตามปกติ โดยไม่เกิดความพิการของสมอง   วัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพ 1. เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ 2. ป้องกันสมองตายโดยการทำให้โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ป้องกันสมองตายโดยการทำให้โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ 3. คงไว้ซึ่งการไหลเวียนของโลหิตในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คงไว้ซึ่งการไหลเวียนของโลหิตในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 4. ดูแลผู้ป่วยให้กลับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่หัวใจกลับเต้นใหม่แล้ว ดูแลผู้ป่วยให้กลับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่หัวใจกลับเต้นใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเราพบคนหมดสติ สิ่งแรกที่ควรมี คือ สติ และสิ่งที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยของผู้ให้การช่วยเหลือและผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจะประเมินสถานการณ์หรือประเมินสภาพผู้ป่วย การประเมินสภาพผู้ป่วยเจ็บเบื้องต้น ๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัว โดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บและตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ
๓. ตรวจทางเดินหายใจ นำสิ่งแปลกปลอมและฟันปลอมออกจากปาก แล้วเปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง ของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้แหงนหน้าขึ้น ๔. ตรวจการหายใจ โดยสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอก และ ลมหายใจ ใช้หลักตาดู หูฟัง แก้มสัมผัส ๕. ตรวจหาการบาดเจ็บ โดยตรวจตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้า
ขั้นตอนการกู้ฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานในผู้ใหญ่ ๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัวโดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บ และตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ และพลิกผู้ป่วยเจ็บให้นอนหงายราบบนพื้นเรียบแข็ง
๓. ถ้าผู้ป่วยเจ็บไม่ตอบสนอง ให้ช่วยการไหลเวียนโลหิตโดยการกดหน้าอก 30 ครั้ง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที กดลึก ๒ นิ้ว หรือ ๕ เซนติเมตร (ใช้มือข้างหนึ่งวางและใช้มืออีกข้างวางทับ แล้วใช้ส้นมือกดที่กึ่งกลางหน้าอก ) ๔. เปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้หน้าแหงนขึ้น และช่วยหายใจ โดยการเป่าปาก ๒ ครั้ง ครั้งละ ๑ วินาที
๕. หลังจากนั้นให้กดหน้าอกสลับกับการเป่าปาก ด้วยอัตรา ๓๐ ต่อ ๒ (นับเป็น ๑ รอบ) ประเมินผลการกู้ชีพทุก ๕ รอบ (ใช้เวลา ๒ นาที)
ในกรณีที่มีผู้ปฏิบัติการกู้ชีพมาช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ควรสลับหน้าที่ของผู้ที่กดหน้าอก กับผู้ที่เป่าปากทุก ๒ นาที หรือทุก ๕ รอบ หมายเหตุ: ในกรณีไม่สามารถช่วยเป่าปากได้ สามารถใช้การกดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที

กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์3 สิงหาคม 2561
3
สิงหาคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย กองทุนเทศบาลตำบลฉลุง
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

    กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีการแสดงสปิหริดของตนเองออกมาโดยการออกกำลังกายบาซาโรบและทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือตนเอง พร้อมประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม3 สิงหาคม 2561
3
สิงหาคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย กองทุนเทศบาลตำบลฉลุง
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือตนเอง พร้อมประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ทักษะในการช่วยเหลือผู้อื่นจากการจมน้ำ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่า “ช่วยด้วยๆมีคนตกน้ำ” 2. โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อให้คนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกนลอนพลาสติก ขวดพลาสติก หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ 3. ยื่นสิ่งของยาวๆที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ท่อนไม้ เข็มขัด ผ้าขาวม้า ยื่นอุปกรณ์ไปข้างใดข้างหนึ่ง แล้วจึงกวาดเข้าหาตัวคนที่ตกน้ำและดึงขึ้นฝั่ง โดยในแต่ละกลุ่มสามารถช่วยเหลือตนเองจากการประสบอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี

อบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล พร้อมฝึกปฏิบัติ3 สิงหาคม 2561
3
สิงหาคม 2561รายงานจากพื้นที่ โดย กองทุนเทศบาลตำบลฉลุง
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

อบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล พร้อมฝึกปฏิบัติ

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลโดยการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลมีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ โดยใช้เกณฑ์แปลผล ดังนี้
1. ระดับคะแนน 9-10  แปลผลว่า มากที่สุด
2.ระดับคะแนน 7-8 แปลผลว่า มาก
3.ระดับคะแนน 5-6  แปลผลว่า ปานกลาง
4.ระดับคะแนน 3-4  แปลผลว่า น้อย
5.ระดับคะแนน 1-2 แปลผลว่า น้อยที่สุด

ตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม

เกณฑ์แปลผล ทดสอบความรู้ ก่อนการอบรม คิดเป็นร้อยละ หลังการอบรม คิดเป็นร้อยละ มากที่สุด 0 0 27 67.5 มาก 5 12.5 6 15 ปานกลาง 27 67.5 7 17.5 น้อย 5 12.5 0 0 น้อยที่สุด 3 7.5 0 0 รวม 40 100 40 100

จากตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรมแกนนำด้านสุขภาพความรู้อยู่ในระดับมาก จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 ระดับปานกลาง จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 67.5 ระดับน้อย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 และระดับน้อยที่สุด จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5หลังการอบรมแกนนำด้านสุขภาพความรู้อยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 67.5 ระดับมาก จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 15 และระดับปานกลาง จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 17.5





ตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม

ก่อนการอบรม หลังการอบรม คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ 7 5 12.5 10 15 37.5 6 9 22.5 9 12 3 5 18 45 8 3 7.5 4 3 7.5 7 3 7.5 3 2 5 6 6 15 2 3 7.5 5 1 2.5 รวม 40 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรมแกนนำด้านสุขภาพได้คะแนนสูงสุดที่ 7 คะแนน จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 รองลงมา 6 คะแนน จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 22.5 คะแนนน้อยที่สุดที่ 2 คะแนน จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 5 คะแนน จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 45 หลังการอบรมแกนนำด้านสุขภาพ ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 3คะแนนน้อยที่สุดที่ 5 คะแนน จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.5และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 100 นอกจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง แล้ว แกนนำด้านสุขภาพได้แบ่งกลุ่มลงมือปฏิบัติในเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยการใช้ผ้าสามเหลี่ยมพันแผลเมื่อได้รับบาดเจ็บในส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ได้รับบาดเจ็บบริเวณส่วนบนศรีษะ ส่วนด้านข้างศรีษะ ส่วนแขน ส่วนมือ และส่วนไหล่ ได้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกคนคิดเป็นร้อยละ 100 จึงสามารถสรุปได้ว่า แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลคิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 1