ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยงลดโรคห่างไกลจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยงลดโรคห่างไกลจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | 61-L4148-2-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลบาโร๊ะ |
วันที่อนุมัติ | 17 พฤษภาคม 2018 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2018 - 30 กันยายน 2018 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2018 |
งบประมาณ | 18,100.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางมีซัน มณีหิยา |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางไอลดา เจ๊ะหะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.457,101.133place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาโรคไม่ติดต่อเช่น โรคความดันโลหิตสูง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางโรคเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นและมีแนวโน้มการเกิดโรคเพิ่มและมีความรนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่ง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้องของประชาชน เช่น การบริโภคอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วนและไม่เหมาะสมทางโภชนาการ การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป ขาดการออกกำลังกายและมีความเครียดจากครอบครัวและสังคม จากการศึกษาแนวทางปฏิบัติการบริการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง จังหวัดยะลาพบว่าปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ ปัจจัยเสี่ยงรองได้แก่ ภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ขาดการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก การบริโภคที่ไม่สมดุล รวมทั้งประชาชนมีความรู้ที่ไม่ถูกต้องและไม่ตระหนักถึงความรุนแรงของโรคไม่ติดต่อเหล่านั้น จากข้อมูลการคัดกรองความดันโลหิตสูงประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวนประชากรกลุ่มเป้าหมาย 2,211 คน และปี2560 ในเขตรับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโร๊ะ พบว่าประชากรกลุ่มเสี่ยง จำนวนทั้งสิ้น 1,115 คนจากประชากร 2,211 คน สถานการณ์จำนวนผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและเบาหวานที่ขึ้นทะเบียน442 คนเป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูง จำนวน 292 ราย และผู้ป่วยเบาหวาน จำนวน 150 ราย ด้านคุณภาพการดูแลสุขภาพพบว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้ต่ำกว่า 140/90 mmhg จำนวน 180 ราย คิดเป็นร้อยละ 40.72 และมีภาวะแทรกซ้อนจำนวน34 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.64 ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้จำนวน 48 ราย คิดเป็นร้อยละ 28.00 พบภาวะแทรกซ้อน 10 ราย คิดเป็นร้อยละ6.66 ด้วยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโร๊ะ มีความตระหนักถึงปัญหาและภัยของภาวะความดันโลหิตสูง โดยความร่วมมือของกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลบาโร๊ะ จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยงลดโรคห่างไกลจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง มีสุขภาพที่ดี มีความรู้ในการดูแลตนเองลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนและการสูญเสียของประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ มีสุขภาพดี ห่างไกลโรคเบาหวาน โรค ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็งบางชนิด 1.ร้อยละ 100 ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง 2.ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง มีความรู้ในเรื่องโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง การดูแลสุขภาพการรับประทานอาหารและยา การออกกำลังกาย การตรวจสุขภาพตา ไต เท้า ทั้งสามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง 3. ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงมีการควบคุมความดันโลหิตได้ 4.ร้อยละ 40 ของผู้ป่วยเบาหวานมีการควบคุมระดับระดับน้ำตาลได้ |
200.00 |
1.ติดป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ
2.จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังเรื่องการปรุงอาหารและการดูแลผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมค่าระดับน้ำตาลในเลือดได้และควบคุมค่าระดับค่าความดันโลหิตสูงได้ จำนวน 120 คน
3.จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กลุ่มป่วยที่ควบคุมค่าระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ จำนวน 100 คน โดยมีผู้ป่วยต้นแบบเป็นวิทยากร
4.จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กลุ่มป่วยที่ควบคุมค่าระดับความดันโลหิตสูงไม่ได้ จำนวน 100 คน โดยมีผู้ป่วยต้นแบบเป็นวิทยากร
5.สาธิตอาหารลดหวานมันเค็ม ในกลุ่มเสี่ยงเบาหวานความดันจากการคัดกรอง 35ปีขึ้นไป
1.ร้อยละ 100 ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง 2.ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง มีความรู้ในเรื่องโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง การดูแลสุขภาพการรับประทานอาหารและยา การออกกำลังกาย การตรวจสุขภาพตา ไต เท้า ทั้งสามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง 3. ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงมีการควบคุมความดันโลหิตได้ 4.ร้อยละ 40 ของผู้ป่วยเบาหวานมีการควบคุมระดับระดับน้ำตาลได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2018 11:22 น.