กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ ลด ละ เลิกการใช้โฟม
รหัสโครงการ 61-L5200-1-02
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลนาทวี
วันที่อนุมัติ 17 กรกฎาคม 2561
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 17 กรกฎาคม 2561 - 30 กันยายน 2561
กำหนดวันส่งรายงาน 31 ตุลาคม 2561
งบประมาณ 17,200.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาววรัญพัชร์ พงษ์พานิชย์
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา
ละติจูด-ลองจิจูด 6.693,100.777place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานอาหารและโภชนาการ
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 50 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

โฟม (Fome) เป็นผลิตภัณฑ์จากพลาสติกที่ทำการใช้สารเร่ง(additive) หรือยางพอง (Blowing Agents)  ทำให้เกิดการฟูและพองตัว จาการใช้ความร้อนสูง ประกอบกับการอัดลงในแม่พิมพ์ (Mold) ที่มีรูปร่างต่างๆ
ที่ต้องการคุณสมบัติที่ได้คือ มีน้ำหนักเบา ทำเป็นรูปลักษณะต่างๆ ได้ดี และเป็นฉนวนความร้อนจึงทำให้โฟมเป็นที่นิยมในการนำมาเป็นภาชนะบรรจุหรือหีบห่ออาหารทั่วไป ทั้งอาหารสด ผักสด อาหารพร้อมปรุง และอาหารปรุงสำเร็จรูป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการถนอมอาหารที่คงสภาพอยู่ได้นานสะดวกในการขนส่งและวางจำหน่าย ปัจจุบันพบว่า ผู้ประกอบการค้าอาหารมักนิยมใช้กล่องโฟมเป็นภาชนะบรรจุอาหาร เช่น ข้าวผัด ข้าวผัดกระเพราไข่ดาว กระเพาะปลา เป็นต้น เนื่องจากสะดวก ใช้ง่าย รวดเร็ว และราคาถูก อย่างไรก็ตามการนำภาชนะโฟมมาบรรจุอาหารร้อนจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากภาชนะโฟมที่สัมผัสกับอาหารร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจทำให้โฟมเสียรูปทรงและอาจหลอมละลายจนมีสารสไตรีน ปนเปื้อนมากับอาหารได้ โดยปริมาณการละลายออกมาของสารสไตรีน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ชนิด คือไขมันในอาหารระยะเวลา และอุณหภูมิระหว่างการสัมผัสของอาหารกับภาชนะ ซึ่งอาหารที่มีไขมันสูงจะทำให้มีการละลายของสารสไตรีนออกมามากกว่าอาหารที่ไม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ
ตามนโยบายการบริหารจัดการขยะของรัฐบาล ที่ได้กำหนดนโยบายในการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่องดการใช้ภาชนะโฟมใส่อาหาร เนื่องมาจากมีสารก่อให้เกิดโรคมะเร็งซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม คือไม่ย่อยสลายง่ายและใช้เวลาย่อยสลายนานเกิน 100 ปี หากเผาไหม้ก็จะก่อให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้น การเลิกใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหารร้อน หรืออาหารทอด หันมาใช้วัสดุธรรมชาติเช่น ใบตอง ชานอ้อย กระดาษ foodgrade พลาสติกชีวภาพก็มีความจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยลดอันตรายจากการใช้ภาชนะโฟม กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลนาทวีจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของภัยร้ายที่เกิดจากโฟม  จึงได้จัดทำโครงการลด ละ เลิกการใช้โฟม เพื่อส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจของอันตรายที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์จากโฟม และการส่งเสริมการลดการใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เพื่อการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 1. เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจให้กับองค์กรในการลด ละเลิก การใช้โฟมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค

จำนวนสมาชิกที่เข้ารับการฝึกอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

50.00
2 2. เพื่อลดปัญหาขยะที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์โฟม

องค์กรต้นแบบ “องค์กรปลอดโฟม” อย่างน้อย 1 แห่งในเขตเทศบาลตำบลนาทวี

1.00
3 3. เพื่อลดค่านิยมแบบเดิมจากการใช้ผลิตภัณฑ์จากโฟมและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนจากธรรมชาติ

มีกิจกรรมรณรงค์การลด ละ เลิกการใช้โฟมในเขตเทศบาลตำบลนาทวี

2.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม

โฟม (Fome) เป็นผลิตภัณฑ์จากพลาสติกที่ทำการใช้สารเร่ง(additive) หรือยางพอง (Blowing Agents)  ทำให้เกิดการฟูและพองตัว จาการใช้ความร้อนสูง ประกอบกับการอัดลงในแม่พิมพ์ (Mold) ที่มีรูปร่างต่างๆ
ที่ต้องการคุณสมบัติที่ได้คือ มีน้ำหนักเบา ทำเป็นรูปลักษณะต่างๆ ได้ดี และเป็นฉนวนความร้อนจึงทำให้โฟมเป็นที่นิยมในการนำมาเป็นภาชนะบรรจุหรือหีบห่ออาหารทั่วไป ทั้งอาหารสด ผักสด อาหารพร้อมปรุง และอาหารปรุงสำเร็จรูป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการถนอมอาหารที่คงสภาพอยู่ได้นานสะดวกในการขนส่งและวางจำหน่าย ปัจจุบันพบว่า ผู้ประกอบการค้าอาหารมักนิยมใช้กล่องโฟมเป็นภาชนะบรรจุอาหาร เช่น ข้าวผัด ข้าวผัดกระเพราไข่ดาว กระเพาะปลา เป็นต้น เนื่องจากสะดวก ใช้ง่าย รวดเร็ว และราคาถูก อย่างไรก็ตามการนำภาชนะโฟมมาบรรจุอาหารร้อนจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากภาชนะโฟมที่สัมผัสกับอาหารร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจทำให้โฟมเสียรูปทรงและอาจหลอมละลายจนมีสารสไตรีน ปนเปื้อนมากับอาหารได้ โดยปริมาณการละลายออกมาของสารสไตรีน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ชนิด คือไขมันในอาหารระยะเวลา และอุณหภูมิระหว่างการสัมผัสของอาหารกับภาชนะ ซึ่งอาหารที่มีไขมันสูงจะทำให้มีการละลายของสารสไตรีนออกมามากกว่าอาหารที่ไม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ
    ตามนโยบายการบริหารจัดการขยะของรัฐบาล ที่ได้กำหนดนโยบายในการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่องดการใช้ภาชนะโฟมใส่อาหาร เนื่องมาจากมีสารก่อให้เกิดโรคมะเร็งซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม คือไม่ย่อยสลายง่ายและใช้เวลาย่อยสลายนานเกิน 100 ปี หากเผาไหม้ก็จะก่อให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้น การเลิกใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหารร้อน หรืออาหารทอด หันมาใช้วัสดุธรรมชาติเช่น ใบตอง ชานอ้อย กระดาษ foodgrade พลาสติกชีวภาพก็มีความจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยลดอันตรายจากการใช้ภาชนะโฟม กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลนาทวีจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของภัยร้ายที่เกิดจากโฟม  จึงได้จัดทำโครงการลด ละ เลิกการใช้โฟม เพื่อส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจของอันตรายที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์จากโฟม และการส่งเสริมการลดการใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เพื่อการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. กลุ่มผู้บริโภค ได้แก่ สถานที่ราชการ และเอกชนมีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินการให้กับองค์กรในด้านการลด ละเลิก การใช้โฟมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค
  2. เพื่อลดปัญหาขยะที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์โฟม และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนจากธรรมชาติ
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2561 13:40 น.