โครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด
ชื่อโครงการ | โครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด |
รหัสโครงการ | 2562-L3351-02-19 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม อสม.รพ.สต.บ้านทุ่งยาว |
วันที่อนุมัติ | 27 กันยายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 7 มกราคม 2562 - 30 กรกฎาคม 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 สิงหาคม 2562 |
งบประมาณ | 5,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางหนูอั้น ไข่ทอง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | อัตราป่วยต่อแสนประชากรในโรคมะเร็งทุกชนิด 174.21 โรคความดันโลหิตสูง 860.53 โรคเบาหวาน 675.74 โรคหัวใจและหลอดเลือด 901.31 | 3.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคที่เกิดจากการปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสาเหตุจากการกินอาหารที่มันจัดเค็มจัดหวานจัด รวมทั้งกินผักและผลไม้ที่ไม่เพียงพอ มีภาวะเครียด การสูบบุหรี่ และการดื่มสุราการออกกกำลังกายที่ไม่เพียงพอทำให้ประชาชนเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะโรคมะเร็งต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยคนละ ๑ แสนบาทต่อเดือนและพบว่าอัตราป่วยต่อแสนประชากรในโรคมะเร็งทุกชนิด ๑๓๔.๒๑ โรคความดันโลหิตสูง ๘๖๐.๕๓ โรคเบาหวาน 675.74 โรคหัวใจและหลอดเลือด 901.31 และสำหรับอัตราการตายต่อแสนประชากรมีดังนี้ โรคมะเร็งทุกชนิด 85.04 โรคความดันโลหิตสูง 3.90 โรคเบาหวาน 12.22 โรคหัวใจและหลอดเลือด 56.00 (ข้อมูลจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2560)จากผลการเฝ้าระวังการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารของประชาชนอายุ 15-60 ปี จำนวน 1,520 คนทั่วประเทศโดยกองสุขศึกษากรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 พบว่าประชาชนที่ออกกำลังกายถูกต้องมีเพียงร้อยละ 32.6 การบริโภคผักและผลไม้ไม่น้อยกว่าวันละครึ่งกิโลกรัมมีเพียงร้อยละ 23.7 และกินอาหารไขมันสูงเป็นประจำร้อยละ 14.0
จากข้อมูลการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานในพื้นที่หมู่ที่ 1,7,9 พบว่ากลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงถึงร้อยละ 12.41 ประกอบกับประชาชนมีการออกกำลังกายน้อยกว่า 3 วัน /สัปดาห์ทั้งยังบริโภคอาหารมันอาหารเค็มและหวานจัดแต่รับประทานผักน้อยจึงจำเป็นต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกระดับ รวมทั้งประชาชนอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-5 วันๆ ละอย่างน้อย 30 นาที ร่วมกับการรับประทานผักและผลไม้สด อย่างน้อยครึ่งกิโลกรัมขึ้นไปหรือกินผักครึ่งหนึ่งอย่างอื่นครึ่งหนึ่ง และลด ละ เลิกอาหารมันจัด เค็มจัด และหวานจัด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ได้ร้อยละ 20-30 และโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมาก
ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งยาว และกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นเทศบาลตำบลโคกชะงาย ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่พฤติกรรมที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถพัฒนาให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีจึงได้จัดทำโครงการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดโรคมะเร็งโรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจและหลอดเลือดหมู่ที่ 1,7,9 ตำบลโคกชะงายขึ้นเพื่อพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. ให้ประชาชนในพื้นที่ดำเนินการมีความรู้และมีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละอย่างน้อย 3-5 วัน ๆ ละอย่างน้อย 30 นาที ร่วมกับการรับประทานผักและผลไม้สดวันละอย่างน้อยครึ่งกิโลกรัมขึ้นไป หรือกินผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง ลดอาหารไขมัน ลดการกินเค็ม และลดอาหารหวาน ประชาชนมีความรู้และทักษะในการออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง สามารถบอกปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับตนเองได้ และวางแผนการกินเพื่อควบคุมน้ำหนักตนเองให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติได้และภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรค ฯ 1.ร้อยละ50 ของประชาชนในพื้นที่ดำเนินการมีความรู้และมีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละอย่างน้อย 3-5 วัน ๆ ละอย่างน้อย 30 นาที ร่วมกับการรับประทานผักและผลไม้สดวันละอย่างน้อยครึ่งกิโลกรัมขึ้นไป หรือกินผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง ลดอาหารไขมัน ลดการกินเค็ม และลดอาหารหวาน 2.ร้อยละ 50 ของประชาชนมีความรู้และทักษะในการออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง สามารถบอกปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับตนเองได้ และวางแผนการกินเพื่อควบคุมน้ำหนักตนเองให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติได้ 3.ทุกภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรค ฯ |
3.00 | 60.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 5,000.00 | 1 | 5,000.00 | |
??/??/???? | 1. จัดกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ (3 อ 2ส) ของประชาชนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ รวมทั้ง ร่วมจัดมหกรรมสุขภาพ | 0 | 5,000.00 | ✔ | 5,000.00 |
1.มีหมู่บ้านต้นแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 3 หมู่บ้าน 2.มีแหล่งเรียนรู้ด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 1 แห่ง 3.ประชาชนในหมู่ที่ 1, 7 ,9 โคกชะงาย อำเภอเมืองจังหวัดพัทลุง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2561 00:00 น.