โครงการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยเด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยเด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก |
รหัสโครงการ | 62-50117-03-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.นาโยงเหนือ |
วันที่อนุมัติ | 7 ธันวาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 7 ธันวาคม 2561 - 30 กันยายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 20,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางศุภิสรา จันทร์ขุน |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางวลัยภรณ์ เยาดำ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.566,99.699place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 55 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | จำนวนเด็กเล็ก(0-3 ปี) ได้รับฉีดวัคซีนครบตามหลักเกณฑ์(คน) | 55.00 | ||
2 | จำนวนเด็กก่อนวัยเรียน (3ขึ้นไป-6 ปี) ที่มีปัญหาฟันผุ (คน) | 20.00 | ||
3 | จำนวนเด็กเล็ก (0-3 ปี) ที่ประเมินแล้วมีภาวะพัฒนาการล่าช้า(คน) | 10.00 | ||
4 | จำนวนเด็กเล็ก (0-3 ปี) ที่มีภาวะเสี่ยงทุพโภชนาการ(คน) | 4.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาของเด็กปฐมวัยประกอบด้วย ปัญหาทั้งด้านสุขภาพและความปลอดภัย มีสาเหตุมาจาก ตัวเด็กเองและสภาพแวดล้อม ตลอดจนปัจจัยในการเลี้ยงดูและพัฒนาของเด็กแต่ละคน ปัญหาอาจเกิดขึ้นกับเด็กได้ทั้งที่บ้านและโรงเรียน ผู้ปกครองและครูจึงต้องรู้เท่าทันภูมิหลังด้านสุขภาพของเด็ก และมีความรอบคอบในการเตรียมรับมือกรณีที่เกิดปัญหาด้านสุขภาพและความปลอดภัยของเด็กแต่ละคน โดยเฉพาะการระมัดระวังในการแพร่เชื้อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง หรือการเตรียมการซักซ้อมก่อนการเกิดอุบัติเหตุหรืออุบัติภัย เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทัน และเกิดความปลอดภัยแก่เด็กมากที่สุดอาจกล่าวได้ว่าสุขภาพและความปลอดภัย เมื่อนำมาพิจารณารวมกันแล้ว ย่อมหมายถึง ทั้งชีวิตของเด็ก ปัญหาสุขภาพและความปลอดภัยของเด็กเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ สาเหตุอันเกิดจากปัจจัยภายใน และจากปัจจัยภายนอก ซึ่งมักเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
1.สาเหตุจากปัญจัยภายใน ซึ่งเกิดขึ้นจากความผิดปกติในตัวเด็กเอง โดยปัญหาของเด็กมักเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
-เด็กมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่พัฒนาโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้อาจเกิดจากความผิดปกติททางร่างกายของด็กเอง
-โรคภูมิหรืออาการแพ้หรืออาการแพ้ประเภทต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้ยา แพ้สัตว์ปีก ซึ่งอาจทำให้เด็กต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนในบางกรณี
2.สาเหตุจากปัจจัยภายนอกสำหรับปัจจัยภายนอก สิ่งแวดล้อมมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก ซึ่งปัญหาที่เกิดกับเด็กส่วนใหญ่ มักเกิดเหตุดังต่อไปนี้
-การติดเชื้อ การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากสิ่งมีชีวิตจำพวกแบคทีเรียหรือไวรัส ซึ่งสามารถแพร่จากคนสู่คนได้อย่างง่ายดายผ่านการสัมผัส
-การเลี้ยงดูจากผู้ปกครอง ตั้งแต่หลังคลอดซึ่งครอบคลุมทั้งเรื่องของอาหารการกินไปถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของลูก
-เด็กขาดประสบการณ์หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
-อุบัติเหตุประเภทต่าง ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการหกล้มเพียงเล็กน้อย หรืออาจรุนแรงถึงอุบัติเหตุที่อาจนำไปสู่การสูญเสียอวัยวะหรือชีวิต
-การได้รับสารพิษ
-การรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอ
ดั้งนั้น หากเกิดปัญหาขึ้นกับสุขภาพและความปลอดภัย ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือ การเรียนรู้สิ่ง ต่าง ๆ รอบตัว นอกจากนี้ยังขัดขวางต่อพัฒนาการเด็กในทุกๆ ด้านอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเด็กปฐมวัย ปัญหาที่เกิดกับสุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก ยังรวมถึงความผิดปกติที่อาจติดตัวเด็กไปได้ตลอดชีวิตอาทิ เช่น เด็กที่เป็นโรคขาดสารอาหารมักมีอัตราการเสียชีวิตที่สูง หรืออาจมีร่างกายแคระแกรน ไม่เจริญเติบโต และมพัฒนการที่ไม่สมวัย การช่วยเหลือ ป้องกัน และการแก้ไขปัญหาสุขภาพและความปลอดภัยในเด็กย่อมมีความสำคัญ ต่อชีวิตและอนาคตของเด็ก และที่สำคัญคือ ครอบครัวของเด็กจะต้องเข้ามามีบทบาทและมีส่วนสำคัญต่อชีวิตและอนาคตของเด็ก และสิ่งที่สำคัญคือ ครอบครัวของเด็กจะต้องเข้ามามีบทบาท และมีส่วนสำคัญในการดูแลให้เด็กทุกคนได้กินดีอยู่ดี มีที่อยู่ ที่หลับนอนที่ปลอดภัยแต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายครอบครัวที่รายได้ไม่เพียงพอจุนเจือสมาชิกใหม่ในครอบครัว ผู้ปกครองมีการศึกษาน้อย หรือมีถิ่นที่อยู่อาศัยในสภาวะแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก ครอบครัวเหล่านี้จึงมีข้อจำกัดในการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตขึ้นมาได้อย่างเหมาะสม ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเด็กโตขึ้น นอกจากจะมีปัญหาสุขภาพแล้วพวกเขาเหล่านั้น ยังถ่ายทอดการเลี้ยงดูในแบบที่ตนเองได้รับไปสู่ลูกหลาน เป็นวงจรที่สร้างปัญหาสุขภาพและความปลอดภัยไม่สิ้นสุด และไม่อาจได้รับการแก้ไขได้ จนกว่าชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวเหล่านั้นจะดีขึ้น
ด้วยเหตุนี้ศูนย์เด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลนาโยงเหนือ จึงต้องการมุ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพของเด็กรวมทั้งการดำเนินการเตรียมความพร้อมตามมาตราการการป้องกันควบคุมโรคมือ เท้า ปาก อย่างเข้มข้นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และชุมชน จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ประจำปี 2562 ขึ้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพและสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กปฐมวัย ครูผุ้ดูแลเด็ก ผู้ปกครองประกอบอาหาร และผู้เกี่ยวข้องได้ทราบถึงความสำคัญของสุขภาพ อนามัย และรู้จักดูแลสุขภาพร่างกายด้วยตนเอง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อแก้เด็กเล็ก (0-3 ปี) ที่ประเมินแล้วมีภาวะพัฒนาการล่าช้า จำนวนเด็กเล็ก (0-3 ปี) ที่ประเมินแล้วมีภาวะพัฒนาการล่าช้า(คน) |
10.00 | |
2 | เพื่อแก้ปัญหาเด็กเล็ก(0-3 ปี) ได้รับฉีดวัคซีนครบตามหลักเกณฑ์ จำนวนเด็กเล็ก(0-3 ปี) ได้รับฉีดวัคซีนครบตามหลักเกณฑ์(คน) |
55.00 | |
3 | เพื่อแก้ปัญหาเด็กเล็ก (0-3 ปี) ที่มีปัญหาฟันผุ จำนวนเด็กเล็ก(0-3 ปี) ที่มีปัญหาฟันผุ (คน) |
20.00 | |
4 | เพื่อแก้ปัญหาเด็กเล็ก (0-3 ปี) ที่มีภาวะเสี่ยงทุพโภชนาการ จำนวนเด็กเล็ก (0-3 ปี) ที่มีภาวะเสี่ยงทุพโภชนาการ(คน) |
4.00 |
1.ประชุมครูและบุคลากรของศูนย์เด็กเล็ก 2.เสนอโครงการ เพื่ออนุมัติ 3.ที่ประชุมร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินกิจกรรม -จัดอบรมให้ความรู้ ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง ผู้ประกอบการอาหาร เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง -จัดกิจกรรมตรวจและคัดกรองสุขภาพแก่เด็กปฐมวัย -จัดกิจกรรม "เด็กปฐมวัยเล่นกีฬาพาเพลิน" 4.คณะทำงานร่วมกันจัดทำโครงการ ตามแนวทางที่กำหนดไว้และดำเนินกิจกรรมตามโครงการ 5.ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานพร้อมทั้งรายงานหน่วยงานที่สนับสนุนงบประมาณและผู้ที่เกี่ยวข้อง
1.ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูปลสุขภาพและสุขอนามัย ของเด็กปฐมวัยและสามารถนำความรู้ ความเข้าใจไปใช้เพื่อดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของเด็กปฐมวัยได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม 2.ลดอัตราการป่วยจากโสรค่ติดต่อของเด็กปฐมวัย 3.เด็กปฐมวัยรู้จักออกกำลังกาย เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างถูกวิธี เหมาะสมตามวัย 4.เด็กปฐมวัยได้รับการตรวจสุขภาพทุกคน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2561 15:21 น.