โครงการวัคซีนเพื่อลูกรัก
ชื่อโครงการ | โครงการวัคซีนเพื่อลูกรัก |
รหัสโครงการ | L4145/62/10 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม อสม. |
วันที่อนุมัติ | 8 มกราคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2562 - 31 ตุลาคม 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2562 |
งบประมาณ | 16,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวรอบียะห์ บือสุ |
พี่เลี้ยงโครงการ | รพ.สต.บ้านกาตอง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกาตอง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.502,101.063place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ที่ผ่านมานั้นสถานการณ์ของโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในประเทศไทยโดยเฉพาะโรคที่สำคัญ เช่น โรคหัด วัณโรค และโรคคอตีบนั้น จากปีงบประมาณ 2561 พบผู้มารับบริการตรวจคัดกรองฉีดวัคซีน โดยรวมประมาณ 512 รายต่อปี ในขณะที่พบผู้ป่วยโรคต่างๆที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น โรคหัด 19 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโรคเหล่านี้เป็นโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและอาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ แม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวในเด็กแล้วก็ตาม ดังนั้นเพื่อเสริมสร้างให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี กระทรวงสาธารณสุขได้เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันควบคุมโรคด้วยวัคซีน จึงริเริ่มแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตั้งแต่ปีพ.ศ.2520 จากระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาปรับปรุงและขยายแผนงาน จนกระทั่งปัจจุบันมีวัคซีนที่เด็กควรได้รับจำนวน 8 ชนิด สำหรับป้องกันโรคทั้งหมด 10 โรค ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค ตับอักเสบบี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม และไข้สมองอักเสบเจอีโดยวัคซีนบางชนิดต้องได้รับมากกว่า 1 ครั้ง จึงจะสามารถป้องกันโรคได้ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยการสนับสนุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดให้มีบริการวัคซีนแก่เด็กแรกเกิดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวัยเรียน ซึ่งเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนอย่างน้อยตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้บริการให้ฟรี โดยเด็กทุกคนสามารถรับวัคซีนเหล่านี้ได้จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง และควรรับวัคซีนให้ครบทุกช่วงอายุ ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกาตอง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็ก ๐ – ๕ปีจึงได้จัดทำโครงการโครงการวัคซีนเพื่อลูกรัก 2562
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้มีความรู้ เรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็ก ๐ - ๕ปี 2.เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ปกครองเด็ก ๐ - ๕ ปีพาบุตรหลานมารับวัคซีนตามกำหนด 3.เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเด็ก ๐ - ๕ ปีในกิจกรรมงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค 1.ผู้ปกครองเด็ก0-5ปีมีความรู้ในเรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ร้อยละ 100 2.ผู้ปกครองเด็ก0-5ปีพาบุตรหลานมารับวัคซีนตามกำหนด ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 95 3.ผู้ปกครองเด็ก0-5ปีมีส่วนร่วมในกิจกรรมงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น ผ่านเกณฑ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 100 |
0.00 |
1.กิจกรรมแลกเปลี่ยน ความรู้ ความต้องการ ของผู้ปกครองเด็ก0-5ปี 2.กิจกรรมให้ความรู้ในเรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค 2.1.กิจกรรมย่อยประกวดครอบครัวตัวอย่าง 10 ครอบครัว 3.เยี่ยมบ้านเด็ก 0-5 ปี พร้อมแจกเอกสารภาพสีเกี่ยวกับวัคซีนที่จะต้องได้รับตามเกณฑ์อายุ
1. 1.มีเด็กป่วยจากโรคที่ป้องกันด้วยวัคซีนร้อยละ 0
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2562 16:13 น.