โครงการลูกน้อยสุขภาพดีเมื่อได้รับวัคซีนครบชุด ปี2562
ชื่อโครงการ | โครงการลูกน้อยสุขภาพดีเมื่อได้รับวัคซีนครบชุด ปี2562 |
รหัสโครงการ | 62-L-4117-1-10 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านบาละ |
วันที่อนุมัติ | 14 กุมภาพันธ์ 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 22 กุมภาพันธ์ 2562 - 30 กันยายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 15 ตุลาคม 2562 |
งบประมาณ | 19,800.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวซัลวา มะตาหยง |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางไอลดา เจ๊ะหะ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาละ อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.33,101.023place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 22 ก.พ. 2562 | 30 ก.ย. 2562 | 19,800.00 | |||
รวมงบประมาณ | 19,800.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 60 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
นโยบายของงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อให้การดำเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์สูงสุด บุคลากรที่เกี่ยวข้องควรทราบนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ซึ่งการได้รับบริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก ที่เด็กทุกคนในประเทศไทยควรได้รับวัคซีนพื้นฐาน ครบทุกชนิดตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงการได้รับวัคซีนกระตุ้นตามกำหนดที่เหมาะสมสำหรับวัคซีนแต่ละชนิดด้วย ซึ่งหากเด็กกลุ่มวัยดังกล่าวมีอัตราป่วยและตายด้วยวัยที่ไม่สมควรเนื่องจากโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนแล้ว หมู่บ้านหรือชุมชนและประเทศชาติจะพัฒนาไปได้อย่างไร การเร่งรัดติดตามให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายทุกคนได้รับการฉีดให้ครอบคลุมตามแผนที่วางไว้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งการบริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจะต้องจัดให้แก่ประชาชนด้วยความสะดวก และปลอดภัย งานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจะพยายามป้องกันประชาชนจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนให้ได้มากโรคที่สุด โดยการเพิ่มชนิดของวัคซีนที่ใช้ ทั้งนี้โดยความเหมาะสมกับสถานการณ์ทางระบาดวิทยาของโรค และกำลังทรัพยากรด้านสาธารณสุขของประเทศและต้องดำเนินการในทุกพื้นที่ โดยประสานสอดคล้องกับแผนงานหรือโครงการด้านสาธารณสุขอื่นๆ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ที่ผ่านมาสถานการณ์ของโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในประเทศไทยโดยเฉพาะโรคที่สำคัญ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบบี วัณโรค และโรคคอตีบนั้น จากการรณรงค์โรคไวรัสตับอักเสบบี 2560 พบผู้มารับบริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีโดยกรมควบคุมโรคร่วมกับโรงพยาบาลให้ผลบวกจากการตรวจคัดกรองฯ เท่ากับ 1,273 ราย ตั้งแต่ พ.ศ.2558 – 2560 พบผู้ป่วยโดยประมาณ 6,000 รายต่อปี ในขณะที่พบผู้ป่วยวัณโรคใหม่เสมหะพบเชื้อ โดยเฉลี่ยประมาณ 30,000 ราย นอกจากนี้ยังพบว่า สถานการณ์โรคคอตีบในปี 2558 – 2560 ยังพบผู้ป่วย 28, 63 และ 29 รายต่อปี ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโรคเหล่านี้เป็นโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและอาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ แม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวในเด็กแล้วก็ตาม เพื่อเสริมสร้างให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี กระทรวงสาธารณสุขได้เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันควบคุมโรคด้วยวัคซีน จึงริเริ่มแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตั้งแต่ปีพ.ศ.2520 จากระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาปรับปรุงและขยายแผนงาน จนกระทั่งปัจจุบันมีวัคซีนที่เด็กควรได้รับจำนวน 8 ชนิด สำหรับป้องกันโรคทั้งหมด 10 โรค ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค ตับอักเสบบี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม และไข้สมองอักเสบเจอี โดยวัคซีนบางชนิดต้องได้รับมากกว่า 1 ครั้ง จึงจะสามารถป้องกันโรคได้ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยการสนับสนุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดให้มีบริการวัคซีนแก่เด็กแรกเกิดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวัยเรียน ซึ่งเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนอย่างน้อยตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้บริการให้ฟรี โดยเด็กทุกคนสามารถรับวัคซีนเหล่านี้ได้จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง และควรรับวัคซีนให้ครบทุกช่วงอายุ จากการดำเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาละ อำเภอ กาบัง จังหวัดยะลา ในรอบปีที่ผ่านมาปรากฏว่า เด็กอายุครบ 1 ปี ได้รับวัคซีนครบทุกชนิด คิดเป็นอัตราร้อยละ 9๐.10 เด็กอายุครบ 2 ปี ได้รับวัคซีนครบทุกชนิด คิดเป็นอัตราร้อยละ 89.45 เด็กอายุครบ 3 ปี ได้รับวัคซีนครบทุกชนิด คิดเป็นอัตราร้อยละ 90.83 และเด็กอายุครบ 5 ปีได้รับวัคซีนครบทุกชนิด คิดเป็นอัตราร้อยละ 94.96 การได้รับวัคซีนในเด็ก 0-5 ปี ความครอบคลุมคิดเป็นร้อยละ 93.18 ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ว่าเด็ก 0-5 ปี ได้รับวัคซีนครอบคลุมคิดเป็นร้อยละ 95 ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามแผนฯ จากรายงานอัตราความครอบคลุมวัคซีนขั้นพื้นฐานพบว่า เด็ก 0-5 ปี ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสุขภาพตำบลบาละ อำเภอ กาบัง จังหวัดยะลา ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ไม่ครอบคลุม จึงจำเป็นต้องดำเนินการเร่งรัด ติดตาม ค้นหาเด็กกลุ่มเป้าหมายให้มารับบริการการฉีดวัคซีนทุกคน เพื่อการป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชากรกลุ่มอายุดังกล่าวในอนาคตต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อเพิ่มความครอบคลุมของวัคซีนในเด็กอายุ๐-๕ ปี ร้อยละ ๙๐
|
0.00 | |
2 | เพื่อเพิ่มความความครอบคลุมของการรับวัคซีนในเด็กต่ำกว่า ๑ ปี ร้อยละ ๙๕(เพิ่มเติมเขต)
|
0.00 | |
3 | เพื่อสร้างจิตสำนึก/ เจตคติที่ดี แก่บิดา มารดาและผู้ปกครองเด็กต่อการรับวัคซีน
|
0.00 | |
4 | เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เครือข่ายในการดูแล สุขภาพของชุมชน
|
0.00 | |
5 | เพื่อป้องกันการเกิดโรคที่สามารถป้องกันด้วยวัคซีน
|
0.00 | |
6 | เพื่อลดอัดตราป่วยที่สามารถป้องกันด้วย
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 19,800.00 | 3 | 19,800.00 | |
22 ก.พ. 62 - 30 ก.ย. 62 | 1. กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (วัคซีน) แก่ผู้ปกครองเด็กที่บ่ายเบี่ยงวัคซีน, ผู้นำศาสนา,ผู้นำชุมชน และแกนนำ อสม. จำนวน 120 คน | 0 | 12,000.00 | ✔ | 12,000.00 | |
22 ก.พ. 62 - 30 ก.ย. 62 | 2. กิจกรรมประชาสัมพันธ์เรื่องโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน | 0 | 5,400.00 | ✔ | 5,400.00 | |
22 ก.พ. 62 - 30 ก.ย. 62 | 3. กิจกรรมติดตามเด็กกลุ่มเป้าหมายให้มารับบริการวัคซีนตามเกณฑ์ | 0 | 2,400.00 | ✔ | 2,400.00 |
5.วิธีดำเนินการ (ขั้นเตรียมการ,ขั้นดำเนินการ,ขั้นสรุป)
ขั้นเตรียมการ
1. ประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการ
2. สำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีน
3. จัดทำแผนปฏิบัติการฉีดวัคซีนเชิงรุก
ขั้นดำเนินการ
1. ประชุมผู้นำชุมชน และ อสม. เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน
2. อสม.ติดตามและนำส่งเด็กมารับวัคซีนของเด็กอายุ 0-5 ปี ที่ รพ.สต.
3. ติดตามฉีดวัคซีนเชิงรุก ในรายที่ อสม. ติดตามแล้วแต่ไม่ยอมมารับบริการที่ รพ.สต.
4. จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กที่ปฏิเสธวัคซีน และผู้ปกครองที่ไม่มีความรู้ความตระหนักเรื่องวัคซีน จำนวน 70 คน
6.จัดนิทรรศการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน โดยมีเด็กนักเรียน อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน(อสม.) ผู้นำศาสนา/ผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป จำนวน 200 คน
7. สรุปประเมินผลโครงการ
ระยะหลังดำเนินการ
ติดตามความครอบคลุมวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายทุกสามเดือนรายไตรมาส
10.ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนขั้นพื้นฐาน ในเด็ก 0-5 ปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 2. ผู้ปกครองมีความรู้ที่ถูกต้องและเกิดความตระหนักในเรื่องวัคซีน 3. ไม่เกิดโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2562 14:50 น.