โครงการอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุ และผู้พิการในชุมชน
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุ และผู้พิการในชุมชน |
รหัสโครงการ | 60-L4132-1-14 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.บ้านวังกระ |
วันที่อนุมัติ | 27 มีนาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,750.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านวังกระ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | รพ.สต.บ้านวังกระ หมู่ที่ 4 ตำบลตาเซะ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.62,101.253place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าโครงสร้างประชากรไทยอยู่ในระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยประชากรสูงอายุ (อายุ ๖๐ ปีขึ้นไป) มีจำนวนและสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นถึงร้อยละ ๑๐ ของประชากร หรือ ๖.๓ ล้านคน(กรมอนามัย:๒๕๔๙) ในปัจจุบันส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนภาระพึ่งพิงของประชากร ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดถึงความได้เปรียบทางประชากรในการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันผู้สูงอายุมีอายุยืนยาวขึ้นมีปัญหาด้านสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ ความพิการและทุพพลภาพเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อการเพิ่มของความต้องการค่าใช้จ่ายด้านการดูแลรักษาพยาบาลดังนั้นเมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นในอนาคตจะเป็นภาระสำคัญสำหรับรัฐบาลในการหามาตรการรองรับด้านการรักษาพยาบาล สังคมไทยจะเริ่มต้นสู่สังคมผู้สูงอายุในอีก ๖ ปี ข้างหน้า การมีนโยบายสุขภาพเชิงรุกสำหรับผู้สูงอายุ ย่อมทำให้ประชากรสูงอายุมีศักยภาพ สุขภาพ และปัญญาความรู้เพิ่มขึ้นที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศและป้องกันการเจ็บป่วย พิการ ทุพพลภาพ ตลอดจนการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพทั้งในปัจจุบันและในอนาคตจากการสำรวจบัญชีสาธารณสุข พบว่าในเขตรพ.สต.บ้านวังกระ พบผู้สูงอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป จำนวน ๔๐๗ คน จากการที่จำนวนผู้สูงอายุภายในชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่มีลักษณะความเป็นสังคมเมือง ลูกหลานออกไปทำงานนอกบ้าน ทำให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหาหลายๆ ด้าน เช่น ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังหรือสังคมให้ความสำคัญต่อผู้สูงอายุน้อยลง ประกอบผู้สูงอายุประสบปัญหาสุขภาพ ทำให้ผู้สูงอายุที่มีความเปราะบางอยู่แล้วได้รับผลกระทบ ทั้งนี้หากผู้สูงอายุปรับตัวได้ทันกับความเปลี่ยนแปลงก็จะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข เกิดความพึงพอใจในชีวิต แต่ถ้าไม่พร้อมหรือปรับตัวไม่ได้และไม่ดีพอ จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยว เหงา ถูกทอดทิ้ง มีความวิตกกังวล ท้อแท้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ รู้สึกคุณค่าในชีวิตลดน้อยลง ในด้านผู้พิการในชุมชน พบผู้พิการจำนวน๓๑ คน มักจะพบปัญหาคล้ายกับผู้สูงอายุ จึงควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสร้างระบบการดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงอายุและผู้พิการในชุมชน เพื่อรองรับสถานการณ์ปัจจุบันของพื้นที่การดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการที่เน้นให้บริการรักษาตามแนวทางแพทย์แผนไทยประยุกต์ร่วมด้วย ซึ่งเป็นการรักษาที่ไม่ต้องใช้ยาซึ่งอาจมีผลข้างเคียงต่อผู้สูงอายุและผู้พิการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวังกระ จึงได้จัดทำโครงการอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ เพื่อการดูแลในผู้สูงอายุที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพโดยชุมชนโดยใช้แนวทางการดูแลและฟื้นฟูผู้สูงอายุโดยใช้ศาสตร์ของแพทย์แผนไทยร่วมด้วย รวมทั้งการดูแลผู้สูงอายุแบบประคับประคอง( ในระยะสุดท้ายของชีวิต ) โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้พิการในชุมชนเอง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและถูกวิธี ผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด |
||
2 | เพื่อส่งเสริมให้เกิดความตระหนักในการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการเห็นสามารถดูแลสุขภาพตนเอง
และลดภาวะแทรกซ้อน ความพิการน้อยลง ผู้สูงอายุและผู้พิการตระหนักถึงการดูแลสุขภาพตนเองเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน ความพิการน้อยลง |
||
3 | เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน |
- สำรวจข้อมูลผู้สูงอายุและผู้พิการที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ
- จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับผู้ดูแล
- ลงเยี่ยมผู้สูงอายุและผู้พิการในพื้นที่
- ผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 80
- ผู้สูงอายุและผู้พิการได้รับการเยี่ยมติดตามร้อยละ 95
- ผู้สูงอายุได้รับการประเมินสุขภาพทางกายและจิตใจร้อยละ 95
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2560 10:44 น.