คัดกรองกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง ศูนย์บริการสาธารณสุขร.ร.เทศบาล3
ชื่อโครงการ | คัดกรองกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง ศูนย์บริการสาธารณสุขร.ร.เทศบาล3 |
รหัสโครงการ | 63-L7258-1-20 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์บริการสาธารณสุขร.ร.เทศบาล3 |
วันที่อนุมัติ | 27 กันยายน 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2562 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 34,140.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ศูนย์บริการสาธารณสุขร.ร.เทศบาล3 |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.01,100.474place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคเบาหวานละความดันโลหิตสูงเป็นโรศไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs Non-communicable disese) ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ และเป็น "ภัยเงียบ" เพราะเป็นโรคที่ไม่ปรากฎอาการที่กำลังทวีความรุนแรงและมีแนวโน้มการเป็นโรคสูงขึ้น ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาส่วนใหญ่จากประชาชนมีปฤติกรรมบริโภคไม่เหมาะสม เช่นการนับประทานอาหารที่มีไขนัมสูง การรับประผักผลไม้ไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารและเคื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ตลอดจนสภาพปัญหาด้านจิตใจ อารมณ์ และความเครียดเรื้อรัง เป็นตัน การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ถ้าไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัย หรือ ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ต่ออวัยวะสำคัญหลายระบบของร่างกาย เช่น หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ ไต เป็นต้น ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง จะส่งผลให้เกิดความพิการตามมาได้ หากไม่มีการควบคุม ระดับความดันโลหิต หรือปล่อยให้มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ปริมาณสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำลายหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ เช่นส่งผลกะทบต่อเส้นเลือดที่ตา ทำให้เกิดอาการตามัว หรือตาบอด ผิดปกติ ไตวาย ส่งผลต่อเส้นเลือดที่หัวใจ ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดภาวะปายประสาทอักเสบปายมือปายเท้ารู้สึกชาเกิดแผลที่เท้าได้ง่ายเมื่อผู้ปวยมีแผลก็จะไม่รู้ตัว และไม่ดูแล ประกออบกับน้ำตาลในเลือดสูง จึงป็นอาหารอย่าง ประกออบกับน้ำตาลในเลือดสูง จึงป็นอาหารอย่างดีกับเชื้อโรค ส่งผลให้แผลเน่า ดังนั้นภารส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ ความข้ใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างให้ประชาชมีนพฤติกรรมที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของตนเอง ซึ่งจะเป็นกลไกพื้นฐานสำคัญของกาป้องกันและควบคุมโรค โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง การสร้างเสริมความรู้ความเช้าใจเพียงอย่างเดียวอาจไม่พียงพอที่จะทำให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพได้ การตรวจสุภาพเพื่อคัดกรองเบื้องตันโดยฉพาะในประชาชนที่มือายุ 35 ปีขึ้นไป จึงถือเป็นวิธีการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเฝ้าระวัง ป้องกันโรค และลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่อาจเกิดตามมา ศูนย์บริการสาธารณสุขโรงเรียนเโรงเรียนเทศบาล3 ได้ดำเนินงานเนันการทำงานชิงรุกในชุมชนที่รับผิดชอบจำนวน ๔ ชุมชนโดยใช้เครือข่ายระหว่างศูนย์บริการสาธารณสุขกับอาสาสมัคสธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพราะการดำเนินงานควบคุมและป้องกันโรคที่เกิดจากพฤติกรรมของประชาชนจะประสบความสำเร็จมีประสิกภพและเกิดความต่อเนื่องยั้งยืน จำเป็นอย่งยิงต้องอาศัยความร่วมมือจภาคี เครื่ข่าายที่เกี่ยวข้อทงกุส่วน และใช้ระบวนการที่บูรณการเชื่อโยงกาดำเนิงาน รโคเบาหรานและโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่พบว่เป็นปัญหาที่สำคัญในพื้นที่ และเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่วา ศูนย้ริกาสธารณสุขโรงรียนทศบาล 3 จึงได้จัดทำโครงกรคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูงขึ้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ตรับการตวจคัดกรองเบาหวาน และความดันโลหิตสูงตามมาตรฐาน พร้อมทั้งให้ความรู้สร้างความตระหนักในการดูแลสุขภาพมีพฤติกรรมที่ตีเหมาะสม และมีการปรับปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ประชาชนอายุ35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองโรตชคเบาหวานและความดันโลหิตสง อย่างน้ิอย ร้อยนละ 90 |
0.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ประชาชนมรความรู้ ที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวเพื่อป้องกันโรคติอต่อเรื้องรังและการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีคววามรู้ที่ถูกต้องในการดูแลคนในครอบครัวเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้องรังและเกิดการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม |
0.00 | |
3 | 3.เพื่อให้ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมะสมและมีการปลับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ตามหลัก 3 อ , 2 ส ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมะสมและมีการปลับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ตามหลัก 3 อ , 2 ส |
0.00 | |
4 | 4.เพื่ช่อค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ และส่งต่ออย่างเป็นระบบ ผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการส่งต่ออย่างเป็นระบบทุกราย |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 34,140.00 | 5 | 34,140.00 | |
1 - 30 ก.ย. 63 | ประชุมเตรียมความพร้อมวางแผนการดำเนินงาน(เจ้าหน้าที่,อสม.) | 0 | 600.00 | ✔ | 0.00 | |
1 - 30 ก.ย. 63 | คัดกรองกลุ่มเสียงเบาหวานและความดันโลหิตสูง | 0 | 3,600.00 | ✔ | 3,600.00 | |
1 - 30 ก.ย. 63 | จัดอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนที่มารับคัดกรองตามหลัก 3 อ.,2 ส. | 0 | 29,500.00 | ✔ | 30,300.00 | |
1 - 30 ก.ย. 63 | ประชาสัมพันธ์ | 0 | 240.00 | ✔ | 240.00 | |
30 ก.ย. 63 | สรุปผลการดำเนินงาน | 0 | 200.00 | ✔ | 0.00 |
1.สำรวจประชากรกลุ่มเป้าหมาย เพือเขียนโครงการขอสนับสนุนงบประมาณ 2.ประชุมคณะทำงานเพื่อเตียมความพร้อมในการดำเนินงาน 3.แจ้งแผนการดำเนินงานการรณรงค์ตรวจคัดกรองแก่ผู้เกียวข้องทราบ 4.ประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่ดเนื่องให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ 5.ดำเนินการคัดกรองตามแผนงาน ได้เเก่ ชั้งนำหนัก วัดความดันโลหิต หาค่า BMI เจาะปลายนิ้วหาค่าน้ำตาลในเลือด (DTX) เพื่อนประเมินความเสี่ยง พร้อมแจ้งผลการคัดครองให้กลุ่มเป้าหมายทราบ 6. อบรมให้ความรู้การดูแลตนเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ในกลุ่มเป้าหมาย จำนวน ๔ ชุมชน 7. สรุปจัดทำทะเบียนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง 8. ส่งต่อกลุ่มสงสัยปวยด้วยโรคโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง พบแพทย์ 9. ติดตามผลการรักษาภายหลังการส่งต่อ 10. บันทึกการคัดกรองในโปรแกรม JHCIS ๑๑. สรุปและประเมินโครงการเมื่อสิ้นโครงการ
๑. ประชากรอายุ ๓๕ ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง อย่างน้อย ร้อยละ ๙ ๒, ประชาชนมีความรู้ ที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และเกิดการ พัฒนาพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม ๓. ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามหลักต อ. ๒ ส. ๔. ผู้ป่วยรายใหมได้รับการส่งต่ออย่างเป็นระบบทุกราย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2562 21:32 น.