กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นกระบวนการวางรากฐานพัฒนาการเด็ก พบว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในช่วงขวบปีแรกจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี ด้านร่างกาย สติปัญญาร่วมกับพัฒนาอารมณ์และสังคม เด็กจะเห็นคุณค่าตนเอง มีความมั่นใจและเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสม เป็นรากฐานการพัฒนาคนแบบองค์รวมให้เจริญเติบโตเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพกายและจิตที่ดี ไม่ก่อปัญหาสังคมเมื่อเติบโตในอนาคต นมแม่เป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก มีสารอาหารครบถ้วน ตลอดจนมีภูมิคุ้มกันโรคที่ไม่สามารถหาได้ในสารอาหารทดแทนอื่นๆ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยลดอัตราตาย อัตราเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อ และช่วยส่งเสริมพัฒนาการในเด็ก (Chiu et al., ๒๐๑๑; Victora et al., ๒๐๑๕) ส่งเสริมความผูกพันระหว่างแม่ลูก และประหยัดค่าใช้จ่าย องค์การอนามัยโลกแนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง ๖ เดือนแรก และเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับอาหารตามวัยจนอายุ ๒ ปี (WHO, ๒๐๑๓) ผลการสำรวจสถานการณ์เด็กในประเทศไทยในปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ พบว่ามารดาไทยเพียงร้อยละ ๒๓.๑ ที่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวแก่ลูกที่มีอายุอยู่ในช่วง ๐-๕ เดือนได้ (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, ๒๕๕๙) สำหรับอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ๖ เดือน ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑-๒๕๖๒ เท่ากับ ร้อยละ ๔๕ และ ร้อยละ ๕๐ ตามลำดับ การส่งเสริมให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยแม่ได้ยาวนานที่สุด มารดาจะต้องมีความเชื่อมั่น บุคคลรอบข้างตลอดจนถึงชุมชน สถานที่ทำงาน ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ให้กำลังใจตลอดจนเป็นที่ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ มารดาจึงจะประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
    โรงพยาบาลนาโยง ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตำบลนาโยงเหนือ ปี ๒๕๖๓ ขึ้น เพื่อนำร่อง พัฒนาศักยภาพแม่อาสา สร้างเครือข่ายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในชุมชน ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ตลอดจนขับเคลื่อนตำบลต้นแบบนมแม่ อันจะส่งผลให้ เด็กได้กินนมแม่ไปจนถึง ๒ปีหรือมากกว่า มีพัฒนาการสมวัย สุขภาพกายและจิตที่ดี เป็นเยาวชนที่ดีในอนาคต