โครงการใส่ใจสุขภาพต้านโรคมะเร็งปากมดลูก
ชื่อโครงการ | โครงการใส่ใจสุขภาพต้านโรคมะเร็งปากมดลูก |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทร |
วันที่อนุมัติ | 24 กุมภาพันธ์ 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2560 - 31 พฤษภาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 1,420.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสมศรี คำคง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.บ้านต้นไทร |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาโหนด อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.507,100.061place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 710 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนาสถิติ การคาดประมาณในปี ๒๕๔๓ ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่จำนวน ๔๖๖,๐๐๐ราย อยู่ในประเทศที่พัฒนา ๙๖,๐๐๐ ราย และในประเทศที่กำลังพัฒนา ๓๗๐,๐๐๐ ราย ทั่วโลกมีสตรีที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูก ๒๓๑,๐๐๐ รายต่อปี และมากกว่าร้อยละ ๘๐ จะอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา ประเทศไทยโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งที่พบเป็นอันดับหนึ่งในสตรีไทยเริ่มพบก่อนอายุ ๒๐ปี แต่พบได้น้อยมากและพบมากที่สุดระหว่างอายุ ๔๕ – ๕๐ ปี และพบว่าเป็นชนิด Squamous cell carcinoma ร้อยละ ๘๐ – ๘๖และเป็นชนิดAdenocacinoma ร้อยละ ๑๒ – ๑๙ ของโรคมะเร็งปากมดลูกทั้งหมดจากสถิติใน ๕ จังหวัดที่ทำทะเบียนมะเร็งในระดับประชากร ระยะที่พบส่วนใหญ่อยู่ในระยะลุกลาม อัตราการอยู่รอด๕ ปี เป็นร้อยละ ๖๘.๒ ในจังหวัดเชียงใหม่ และร้อยละ ๕๔.๕ ในจังหวัดขอนแก่น แต่อัตราการอยู่รอด ๕ ปีจะดีขึ้น ถ้าพบในระยะเริ่มแรกจากข้อมูลอัตราอุบัติการใน 5 จังหวัด ในแต่ละภาคของประเทศทำให้คาดประมาณได้ว่าจะมีผู้ป่วยใหม่ทั้งประเทศรวมกันไม่น้อยกว่า ๘,๐๐๐ รายในปี ๒๕๕๑ โรคมะเร็ง ปากมดลูกในสตรีไทยส่วนใหญ่เป็นมากเมื่อ อายุ ๓๕ ปีขึ้นไปการทำ Pap Smear๑ ครั้งทุก ๕ ปี เนื่องจากขบวนการเกิดโรคมะเร็งหลังจากที่มีการติดเชื้อ Hunman papilloma viruses ชนิด High – risk types จะใช้เวลานานกว่า ๑๐ ปี ในการทำให้เกิดเป็น Invasive cancer จากผลการศึกษาของ Internation Agency for Research on Cancer ( IARC/WHO) พบว่าถ้าทำ Pap Smear๑ครั้งทุกปี , ๑ ครั้งทุก ๒ ปี หรือ ๑ ครั้งทุก ๓ ปี จะมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกลดลงร้อยละ ๙๑ – ๙๓ ทำ Pap Smear ๑ ครั้งทุก ๕ ปี จะลดลงร้อยละ ๘๔จึงเป็นการดีที่หากมีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกในช่วงอายุ และระยะเวลาที่กำหนด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทรตำบลนาโหนด อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เห็นความสำคัญของปัญหานี้ และเพื่อสนองนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดให้ สตรีอายุ ๓๐ – ๖๐ ปี ได้รับการตรวจภายในเพื่อค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ของกลุ่มเป้าหมาย ในปี พ.ศ ๒๕๕๗ ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นไทรจึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการใส่ใจสุขภาพเพื่อห่างไกลโรคมะเร็งปากมดลูก ในสตรีกลุ่มอายุ ๓๐ – ๖๐ ปี ดังกล่าวขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑. เพื่อให้สตรี อายุ ๓๐ – ๖๐ ปี มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ โรคมะเร็งปากมดลูก สตรีอายุ 30-60 ปี มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกเพ่ิมขึ้น |
||
2 | ร้อยละ๒๐ของสตรีกลุ่มเป้าหมายรับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรกให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
เป้าหมาย สตรีกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูก จำนวน 142 คน จากทั้งหมด 710 คน และผู้มีความผิดปกติ ไดร้บการส่งต่อเพื่อรับการรักษาอย่างรวดเร็ว |
๑. ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์ปัญหาของปี พ.ศ. ๒๕59 และค้นหาแนวทางการดำเนินงาน ปี พ.ศ. ๒๕60 ๒. ชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบแนวทางการดำเนินงาน ๓. ประสานบุคคลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ๔. รณรงค์ประชาสัมพันธ์มีเสียงตามสายในหมู่บ้าน โดย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน ๕. แจกหนังสือเชิญ เพื่อนัดกลุ่มเป้าหมาย ตามวันและเวลาที่กำหนด โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน ๖. ดำเนินการตามแผนการดำเนินงาน จัดรณรงค์ให้ความรู้และสร้างความตระหนักในการดูแลตนเองในสตรีกลุ่มเป้าหมาย เพื่อป้องกันจากโรคมะเร็งปากมดลูก จำนวน 710 คน มีการซักประวัติชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต ลงบันทึกในแฟ้มประวัติ และเตรียมอุปกรณ์การตรวจภายใน โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน ตามวันและเวลาที่จัดทำแผนปฏิบัติงานไว้ จำนวนหมู่ละ ๓ คนให้บริการตรวจภายในค้นหาเซลล์มะเร็งปากมดลูก(Papsmear) โดยเจ้าหน้าที่จากสถานีอนามัยบ้านน้ำเลือด และดำเนินการแจ้งผลการตรวจ ๗.ประเมินผลโครงการ ประชากรในกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการตรวจภายในค้นหาเซลล์มะเร็งปาก มดลูกไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐
๑ สตรีกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการตรวจหามะเร็งปากมดลูก ไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๒๐
๒ สตรีกลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐
๓ สตรีกลุ่มเป้าหมายที่ตรวจพบภาวะผิดปกติ ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วสามารถลดอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งปากมดลูกระยะรุนแรงได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2560 14:41 น.