โครงการพัฒนาต้นแบบผู้สูงอายุชะลอสมองเสื่อม ลดการถอยสู่กลุ่มติดบ้านและติดเตียง
ชื่อโครงการ | โครงการพัฒนาต้นแบบผู้สูงอายุชะลอสมองเสื่อม ลดการถอยสู่กลุ่มติดบ้านและติดเตียง |
รหัสโครงการ | 63-L000-2-8 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ |
วันที่อนุมัติ | 1 มกราคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 14,650.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ผศ.จิรพรรณ พีรวุฒิ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ้านพร้าว อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล (ระบุที่มาของการทำโครงการ) การที่ผู้สูงอายุช่วยเหลือตนเองได้หรือลดการพึ่งพาผู้อื่นในการดำเนินกิจวัตรประจำวันพื้นฐาน เป็นตัวชี้วัดสำคัญของนโยบายด้านผู้สูงอายุ จากข้อมูลประชากรผู้สูงอายุ เขตอำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง มีผู้สูงอายุจำนวน 4,872 คน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 97 ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้หรือช่วยเหลือผู้อื่น ชุมชนและสังคมได้ สอดคล้องกับพื้นที่หมู่ที่ 1 2 3 8 และ 9 ตำบลบ้านพร้าว โดย ร.พ.สต. มีการคัดกรอง ADL พบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ 1 คือช่วยเหลือตนเอง ชุมชน และสังคมได้ แต่จากการคัดกรองภาวะสมองเสื่อม พบว่าผู้สูงอายุบางส่วนมีสมรรถภาพทางสมองลดลง ถึงแม้จะพบจำนวนไม่มากแต่ปัญหาสมองเสื่อมมีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุโดยตรงที่ต้องพึ่งพาผู้ดูแล ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันอุบัติการณ์ของภาวะสมองเสื่อมสูงขึ้นในวัยสูงอายุ ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุลดลงเนื่องจากการดำเนินกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองลดลง ต้องพึ่งพาผู้ดูแล ขณะที่ผู้ดูแลมีหลายบทบาท จะทำให้เกิดความเครียดหรือเกิดการทารุณกรรมแก่ผู้สูงอายุได้ จากงานวิจัย พบว่า ผู้สูงอายุกลุ่มที่สงสัยมีภาวะสมองเสื่อม มีเปอร์เซ็นต์การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันลดลงมากกว่าผู้ที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อม (นงนุช โอบะ, 2558) หากผู้สูงอายุได้รับการพัฒนาสมองอย่างต่อเนื่องทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ สมองด้านความคิด ด้านอารมณ์ การสื่อสาร การเคลื่อนไหว ความเข้าใจ การได้ยิน การมองเห็น และด้านการจดจำ จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาทได้และยังเพิ่มแขนงเซลล์ประสาทต่อไป ยังคงทำให้ผู้สูงอายุดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองอีกทั้งเป็นต้นแบบในการถ่ายทอดหรือบอกต่อแก่ผู้อื่นได้ เพื่อลดโอกาสในการถดถอยจากกลุ่มติดสังคมสู่การติดบ้านและติดเตียง จึงควรพัฒนาต้นแบบผู้สูงอายุเพื่อบอกต่อและเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นต่อไป รวมถึงสร้างเสริมทักษะชะลอความเสื่อมของสมองแก่สมาชิกผู้สูงอายุเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ครั้งนี้จึงมุ่งพัฒนาทักษะด้านการบริหารสมอง บริหารจิต บริหารกาย และกิจกรรมลดพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาสมองทั้ง 8 ด้าน ปัจจุบันสมาชิกศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ มีจำนวนกว่า 50 คน จากการคัดกรอง ADL และสมองเสื่อม พบว่า ADL อยู่ในกลุ่ม 1 ไม่มีภาวะสมองเสื่อม แต่มีแนวโน้มเกิดภาวะสมองเสื่อมเนื่องจากส่วนใหญ่มีความพร่องการทำหน้าที่ของสมองด้านการจดจำ การคิดคำนวณ การมองเห็น และมีการเคลื่อนไหวช้าลง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.ผู้สูงอายุ ร้อยละ 80 ได้รับการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมและความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวัน 2.ผู้สูงอายุ จำนวน 30 คน ได้รับความรู้และพัฒนาทักษะป้องกันสองเสื่อมในด้านการบริหารสมอง บริหารจิต บริหารกาย และลดพฤติกรรมเสี่ยง 3.ผู้สูงอายุ จำนวน 10 คน ได้รับการพัฒนาเป็นต้นแบบป้องกันสมองเสื่อมในด้านการบริหารสมอง บริหารจิต บริหารกายและลดพฤติกรรมเสี่ยง -คะแนนสมรรถภาพทางสมองและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของสมาชิกผู้สูงอายุ/ต้นแบบผู้สูงอายุด้านการบริหารสมอง บริหารจิต บริหารกายและลดพฤติกรรมเสี่ยง จำนวน 10 คน -ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของผู้สุงอายุจัดอยู่ในกลุ่มติดสังคม/สมรรถภาพทางสมองของผู้สูงอายุต้นแบบ ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม |
50.00 | 50.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
??/??/???? | โครงการพัฒนาต้นแบบผู้สูงอายุชะลอสมองเสื่อม ลดการถอยสู่กลุ่มติดบ้านและติดเตียง | 0 | 14,650.00 | - | ||
รวม | 0 | 14,650.00 | 0 | 0.00 |
วิธีดำเนินการ (ออกแบบให้ละเอียด) 1. จัดทำโครงการและเสนอขออนุมัติงบประมาณจากผู้บริหาร เทศบาลตำบลบ้านพร้าว 2. ประชุมปรึกษาภายในคณะพยาบาลศาสตร์ เพื่อวางแผนการดำเนินงานร่วมกัน 3. ดำเนินการตามโครงการ 1) ประเมินสมรรถภาพทางสมองและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของสมาชิกผู้สูงอายุ ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ทุกวันพุธ เวลา 8.00-11.00 น.จำนวน 8 ครั้ง (2 เดือน) 2) จัดกิจกรรมพัฒนาผู้สูงอายุต้นแบบ และเสริมสร้างทักษะชะสมองเสื่อมแก่สมาชิกผู้สูงอายุ ด้วยกิจกรรมย่อย 4 กิจกรรม ได้แก่ การบริหารสมอง บริหารจิต บริหารกาย และลดพฤติกรรมเสี่ยง ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ทุกวันพุธ เวลา 9.00-12.00 น.จำนวน 38 ครั้ง (10 เดือน) 3) รับประทานอาหารร่วมกันเวลา 12.00-13.00 น. ทุกวันพุธ ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ 4) สรุปกิจกรรม การพัฒนาผู้สูงอายุต้นแบบและเสริมสร้างทักษะชะลอสมองเสื่อมแก่สมาชิกผู้สูงอายุ ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ในวันพุธ ครั้งที่ 1 เดือนพฤษภาคม 2563 และครั้งที่ 2 เดือนกันยายน 2563 4. สรุป/ รายงานผลการดำเนินโครงการ
ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของผู้สุงอายุจัดอยู่ในกลุ่มติดสังคม/สมรรถภาพทางสมองของผู้สูงอายุต้นแบบ ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 11:06 น.