กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมภาวะโภชนาการและพัฒนาการในเด็กปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งโดน เทศบาลเมืองคอหงส์
รหัสโครงการ 63-L7257-3-01
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งโดน เทศบาลเมืองคอหงส์
วันที่อนุมัติ 18 มีนาคม 2563
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 23 มีนาคม 2563 - 30 กันยายน 2563
กำหนดวันส่งรายงาน
งบประมาณ 89,280.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวธนวรรณ ยอเซ่ง
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานอาหารและโภชนาการ
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
งวดวันที่งวดโครงการวันที่งวดรายงานงบประมาณ
(บาท)
จากวันที่ถึงวันที่จากวันที่ถึงวันที่
1 23 มี.ค. 2563 30 ก.ย. 2563 89,280.00
รวมงบประมาณ 89,280.00
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 72 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 หมวด 2 มาตรา 16 กล่าวว่า ให้เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนตำบล มีอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบการบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง โดย (10) คือ การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชราและผู้ด้อยโอกาส และพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 อำนาจหน้าที่ของเทศบาลฯ มาตรา 54(4) ให้มีและบำรุง การสงเคราะห์มารดาและเด็ก ประกอบกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) มีเป้าหมายในการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะเด็กปฐมวัยให้มีการพัฒนาการเต็มศักยภาพ โดยกำหนดตัวชี้วัดให้เด็กมีพัฒนาการสมวัย ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๙๐ ซึ่งในช่วงระยะเวลา ๒ ปี ที่ผ่านมาตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบูรณาการ ๔ กระทรวงด้านงานเด็กปฐมวัย ปี พ.ศ. 2560 กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมจัดทำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ โดยได้นำมาตรฐานสาธารณสุขเด็กปฐมวัย เช่นให้เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปรับประทานอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณที่เพียงพอ และส่งเสริมพฤติกรรมการกินที่เหมาะสม มีการจัดการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ เฝ้าระวังการเจริญเติบโตของเด็ก และดูแลการเจ็บป่วยเบื้องต้น ด้วยเหตุนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดเทศบาลเมืองคอหงส์ทุกแห่ง จึงได้วางแนวทางในการจัดทำแผนงาน/โครงการ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมภาวะโภชนาการขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาหารกลางวัน และอาหารเช้าสำหรับนักเรียน ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดอาหารเช้าให้กับนักเรียนทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดเทศบาลเมืองคอหงส์ทั้ง 4 แห่ง ต่างให้ความสำคัญกับมื้อเช้าของเด็กโดยเฉพาะเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการและเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากอาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่ขาดไม่ได้จำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กจะต้องได้รับประทานอาหารเช้า กอรปกับการที่เด็กจะต้องมาเรียนหนังสือซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้สมองอย่างมาก เพื่อเป็นแหล่งพลังงานที่เด็กจะใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มีส่วนช่วยพัฒนาการต่อทั้งร่างกายและสมองซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของเด็กทำงานได้ดีขึ้น มีพละกำลังในการทำงานกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาสมองของเด็กพร้อมที่จะเรียนรู้อย่างมีสมาธิและมีความจำ หากเด็กในวัยนี้ซึ่งเป็นวัยที่ซุกซน อยากรู้ อยากเห็น หากไม่ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนหรือไม่เพียงพอจะส่งผลเสียเนื่องจากต่อสุขภาพร่างกายกับระบบภูมิคุ้มกันอาจจะทำให้ป่วยง่าย พร้อมยังมีผลในเรื่องสติปัญญา จะทำให้เด็กเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง และจำอะไรได้ไม่ค่อยดี ซึ่งสอดรับกับข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่เปิดเผยข้อมูลจากนักโภชนาการ มื้ออาหารเช้าสำหรับเด็กควรได้รับสารอาหารในกลุ่มประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- อาหารในกลุ่มข้าวแป้ง ให้สารอาหารที่เรียกว่า “คาร์โบไฮเดรต” เป็นแหล่งพลังงาน จึงควรเลือกข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง หรือขนมปังโฮลวีท หรือไม่ก็เป็นอาหารเช้าที่ทำจากธัญพืช เพราะอาหารในกลุ่มนี้เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารช่วยให้เด็กมีพลังงานที่ค่อยย่อยและดูดซึม ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาอย่างช้า ๆ ทำให้เด็กมีพลังงานอย่างต่อเนื่อง มีผลต่อสมาธิและอารมณ์ - อาหารในกลุ่มของเนื้อสัตว์ ให้สารอาหารที่เรียกว่า “โปรตีน” ช่วยให้เด็กมีสมาธิ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ดังนั้น ควรเลือกจำพวก ไข่ ปลา เนื้อหมู และเนื้อไก่ - นม และผลิตภัณฑ์จากนมต่าง ๆ นอกจากจะเป็นแหล่งของโปรตีนที่ดีแล้ว ยังเป็นแหล่งของแคลเซียม รวมถึงวิตามิน ต่าง ๆ จะช่วยบำรุงทั้งร่างกายและสองอีกด้วย
จากข้อมูลสถานการณ์เด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งโดน เทศบาลเมืองคอหงส์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พบว่า จำนวนเด็กมีจำนวนทั้งสิ้น 72 คน เป็นเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการและด้อยโอกาส รวมจำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 37 โดยเด็กกลุ่มเสี่ยงตามเป้าหมายปรากฎดังตามตารางดังนี้
กลุ่มเป้าหมาย จำนวน (คน) ๑. เด็กเตี้ย ๓ คน ๒. เด็กค่อนข้างเตี้ย ๕ คน ๓. เด็กผอม ๑๑ คน ๔. เด็กค่อนข้างผอม ๘ คน ๕. เด็กที่มีภาวะเสี่ยงต่อการทุพโภชนาการ - คน รวมทั้งสิ้น (คน) ๒๗ คน
ทั้งนี้เด็กที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการทุพโภชนาการ หมายถึง เด็กที่มีฐานะยากจน และ/หรือเด็กที่ผู้ปกครองประกอบอาชีพกรีดยางในช่วงเช้ามืด และ/หรือเด็กที่ผู้ปกครองมีอาชีพไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และหรือเด็กที่มีปัญหาครอบครัว ดังนั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งโดน เทศบาลเมืองคอหงส์ จึงเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมภาวะโภชนาการในเด็กปฐมวัย ในการสนับสนุนอาหารเช้าให้กับนักเรียน จึงกำหนดจัดโครงสร้างส่งเสริมภาวะโภชนาการและพัฒนาการในเด็กปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งโดน ฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ขึ้นนั่นเอง

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งโดน เทศบาลเมืองคอหงส์ ที่ทุพโภชนาการมีอาหารเช้ารับประทานอย่างเพียงพอ ส่งผลให้นักเรียนมีน้ำหนัก สมส่วนเพิ่มขึ้น

๑. จำนวนเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการมีจำนวนลดลง ๓ คน
๒. จำนวนเด็กทุพโภชนาการมีน้ำหนัก ส่วนสูง สมส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ ๘๕
๓. ผู้ปกครองและผู้ที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ด้านโภชนาการเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๘๐

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 0 89,280.00 1 65,760.00
23 มี.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 กิจกรรมส่งเสริมภาวะโภชนาการให้กับเด็กปฐมวัย 0 89,280.00 65,760.00
  1. จัดประชุมครู ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงสถานการณ์ปัญหาด้านสุขภาพ
  2. ดำเนินการจัดหาอาหารเช้าในเด็กที่มีภาวะเสี่ยงด้านโภชนาการ จำนวน ๒ ภาคเรียน
  3. ติดตาม และประเมินผล ดังนี้
    3.1 ชั่งน้ำหนัก และวัดส่วนสูงเด็กเป็นประจำทุกเดือน
    3.2 บันทึกภาวะโภชนาการรายบุคคลในสมุดรายงานประจำตัวเด็กปฐมวัย
    3.3 นำผลการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงมาวิเคราะห์ผล และจัดทำรายงานภาวการณ์เจริญเติบโตของเด็กทุก ๔ เดือน
  4. ดำเนินการจัดทำบอร์ดให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์ให้กับผู้ปกครอง
  5. ดำเนินการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
  6. รายงานผลการดำเนินงานโครงการให้กับกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองคอหงส์ (สปสช.)
stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. นักเรียนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งโดน เทศบาลเมืองคอหงส์ ที่ทุพโภชนาการ มีอาหารเช้ารับประทานอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักสมส่วนเพิ่มขึ้น
  2. ผู้ปกครองนักเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ด้านโภชนาการเพิ่มขึ้น
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 14:26 น.