โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันตนเอง
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันตนเอง |
รหัสโครงการ | L-2490-2-13 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | องค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ |
วันที่อนุมัติ | 1 มีนาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มีนาคม 2563 - 31 พฤษภาคม 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 130,378.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางนรารัตน์ สือเเม |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสาวปาวินัย เบนอะสาร |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกะลุวอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 มี.ค. 2563 | 31 พ.ค. 2563 | 130,378.00 | |||
รวมงบประมาณ | 130,378.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 500 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ด้วยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแจ้งว่า ขณะนี้มีรายงานข่าวการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เป็นระดับ 3 เพื่อติดตามสถานการณ์โรคทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการทรัพยากร เสริมสร้างความเข้มแข้งของระบบการเฝ้าระวังค้นหาป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสที่มาจากต่างประเทศ โดยเน้นการคัดกรองไข้ ณ ช่องทางเข้าออกประเทศที่ท่าอากาศยาน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ตและกระบี่ เพิ่มการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล สนับสนุนการเตรียมความพร้อมสำหรับรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ (ด่วนที่สุด นธ 0023.6/126) สถานการณ์ปัจจุบันข้อมูลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ทางการจีนรายงานผู้ป่วยทั้งสิ้น 74,186 ราย เสียชีวิต 2,006 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ จำนวน 1,014 ราย ในประเทศไทย 35 ราย รวมมีผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก จำนวน 75,200 ราย ขณะนี้มีหลักฐานการติดต่อจากคนสู่คน พบผู้ป่วยยืนยันในผู้ที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปประเทศจีน แต่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง และป้องกัน ก่อนการเกิดโรคดังกล่าว กองสวัสดิการสังคมองค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ จึงได้จัดทำโครงการรู้ไว รู้ทัน ป้องกันโรคโควิค 19 (COVID-19) เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และสามารถป้องกันโรคตระหนักถึงความร้ายแรงของโรค ให้ความร่วมมือและสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ หากพบที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรค
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค กรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ตำบลกะลุวอ ประชาชนสามารถรับมือกับสถานการณ์กรณีการเกิดโรคระบาด |
0.00 | |
2 | เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันโรคโคโรน่า 19 (COVID-19) เบื้องต้นได้ ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันโรคโคโรน่า 19 (COVID-19) เบื้องต้นได้ |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 11000 | 101,100.00 | 0 | 0.00 | |
1 มี.ค. 63 - 31 พ.ค. 63 | กิจกรรมประชาสัมพันธ์ การป้องกันโรคโคโรน่า 19 (COVID-19) เบื้องต้นได้ | 0 | 33,000.00 | - | ||
1 มี.ค. 63 - 31 พ.ค. 63 | กิจกรรมแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมื้อ | 11,000 | 68,100.00 | - |
1.ประชาชนในพื้นที่ได้รับการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาลและฟื้นฟูสมรรถภาพกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ตำบลกะลุวอ ตามความจำเป็นและเหมาะสม 2.ประชาชนมีความตระหนักถึงความร้ายแรงของโรค 3.สามารถแก้ไขปัญหากรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติฉุกเฉินได้ทันท่วงทีและทั่วถึง
1.ประชาชนในพื้นที่ได้รับการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาลและฟื้นฟูสมรรถภาพกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ตำบลกะลุวอ ตามความจำเป็นและเหมาะสม 2.ประชาชนมีความตระหนักถึงความร้ายแรงของโรค 3.สามารถแก้ไขปัญหากรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติฉุกเฉินได้ทันท่วงทีและทั่วถึง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2563 00:00 น.