กินให้ถูกกับโรค ลดการกินยา ห่างไกลโรคเบาหวาน
ชื่อโครงการ | กินให้ถูกกับโรค ลดการกินยา ห่างไกลโรคเบาหวาน |
รหัสโครงการ | 63-L5203-01-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปลักหนู |
วันที่อนุมัติ | 1 ตุลาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 1 ตุลาคม 2563 |
งบประมาณ | 29,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายคมสันติ์ ปิ่นแก้ว |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปลักหนู อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.676,100.663place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 24 มี.ค. 2563 | 30 ก.ย. 2563 | 29,000.00 | |||
รวมงบประมาณ | 29,000.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคเบาหวานนับเป็นปัญหาการเจ็บป่วยที่สำคัญและนำมาซึ่งความสูญเสียทรัพยากรในการดูแลรักษา มีผลกระทบต่อผู้ป่วยเอง และผู้ดูแลค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในครอบครัว มีอาการป่วยเรื้อรังเป็นเวลานาน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ นอกจากจะเป็นโรคที่รักษาไม่หายแล้ว ยังเชื่อมโยงไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดโรคไตเรื้อรัง สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรค คือ "กรรมพันธ์ุ" และ "สิ่งแวดล้อม" ในส่วนของกรรมพันธุ์นั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น ขณะที่สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เริ่มต้นตั้งแต่ในครรภ์แม่ แม้กรรมพันธุ์จะเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ แต่ก็สามารถควบคุมปัจจัยเรื่องอาหารและสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันโรคเบาหวานได้ จากผลการวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การควบคุมอาหารอย่างดี รวมไปถึงการออกกำลังกายเป็นประจำนั้นส่งผลโดยตรงต่อการป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูงทางกรรมพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นการควบคุมโรคเบาหวาน รวมไปถึงป้องกันโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้
จากข้อมูลอัตราการป่วยด้วยโรคเบาหวานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปลักหนู ปี ๒๕๖๒ พบว่า ประชาชนกลุ่มป่วยโรคเบาหวานในเขตรับผิดชอบทั้งหมด ๑๗๑ ราย ได้รับการตรวจภาวะน้ำตาลในเลือดทั้งหมด แต่พบว่ามีผู้ป่วยเบาหวาน ๕๐ ราย ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ หากไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ในอนาคต การรักษาโรคเบาหวานโดยการให้ความสำคัญเฉพาะด้านการแพทย์อาจไม่เพียงพอ เพื่อการควบคุมโรคที่สมบูรณ์ ผู้ป่วยต้องได้รับความรู้เรื่องโรค รวมไปถึงความรู้เรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง พร้อมทั้งได้รับการกระตุ้นการเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอซึ่งถ้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ระยะต้น ก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยปราศจากโรคแทรกซ้อนได้
ดังนั้นทาง ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข รพ.สต.ปลักหนูร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปลักหนู ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน โดยได้จัดโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มป่วยต่อโรคเบาหวาน โดยเน้นกิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ ๑.เพื่อให้ประชากรกลุ่มป่วยเบาหวานและญาติผู้ดูแลมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง ๑.ร้อยละ ๘๐ของประชากรกลุ่มป่วยเบาหวานและญาติผู้ดูแลมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง |
0.00 | |
2 | ข้อที่ ๒.เพื่อประชากรกลุ่มป่วยและญาติผู้ดูแลมีพฤติกรรมที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดภาวะแทรกซ้อนได้ ๒.ร้อยละ ๖๐ของประชากรกลุ่มป่วยโรคเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น และลดภาวะแทรกซ้อนได้ |
0.00 |
๑. จัดทำโครงการ/ขออนุมัติโครงการจากคณะกรรมการกองทุนพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินกองทุนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรม กินให้ถูกกับโรค ลดการกินยา ห่างไกลโรคเบาหวาน
๒. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยง/ปัจจัยเสี่ยงเข้าร่วมโครงการ
๓. จัดเตรียมเอกสาร/ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขั้นดำเนินการ
ดำเนินการตามกิจกรรม ดังนี้
๑. ประชุมคณะกรรมการ
๒. ประชาสัมพันธ์โครงการแก่แกนนำ ผู้ป่วยเบาหวาน
๓. จัดกิจกรรมฝึกอบรมให้ความรู้การดูแลสุขภาพการป้องกันภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวานและญาติที่ดูแล
๔.ติดตามผล ๓ ครั้ง (๑,๓ และ ๖เดือน)
๕.ผู้ที่สามารถควบคุมน้ำตาลได้ดีที่สุด 3 คน จะมีมอบเกียรติบัตรให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการควบคุมน้ำตาลในเลือด
ขั้นสรุปผล
๑. ประเมินผลการทำงานของโครงการ
๒. สรุปผลการดำเนินงานโครงการ
๑.ประชากรกลุ่มป่วยเบาหวานและญาติผู้ดูแลมีความรู้ในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
๒.ประชากรกลุ่มป่วยและญาติผู้ดูแลมีพฤติกรรมที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดภาวะแทรกซ้อนได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2563 14:24 น.