โครงการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ |
รหัสโครงการ | 63-L5209-10.2.046 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ |
วันที่อนุมัติ | 22 เมษายน 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 57,900.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสมิตา เบ็ญยู่โสะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.048,100.378place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การมีสุขภาพดี เริ่มต้นที่การมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง การที่จะมี พฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ต้องอาศัยตัวเราเองและการมีส่วนร่วมของครอบครัว และชุมชนเป็นสำคัญ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยให้ความสำคัญกับแนวความคิดการมีส่วนร่วมของชุมชน และความรับผิดชอบของชุมชน ซึ่งชุมชนจะต้องมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ เห็นคุณค่าและมีทัศนคติที่ดีต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อความเชื่อและการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพ จะทำให้การส่งเสริมสุขภาพประสบผลสำเร็จ ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มเป้าหมายและนำไปสู่สุขภาวะที่สมบูรณ์และยั่งยืนได้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมก็เช่นเดียวกัน การจัดสถานที่ที่เหมาะสม มีลานกีฬาในการออกกำลังกาย ในชุมชน การให้ประชาชนกินผักที่ปลอดภัย ต้องส่งเสริมให้ประชาชน มีการปลูกผักและกินผักที่ปลูก หรือเลือกซื้อผักที่ปลอดสารพิษ การรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก ในปัจจุบันนี้หลายองค์กรมีการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก เพราะถุงพลาสติกเป็นปัญหาหลักของภาวะโลกร้อน ซึ่งปัญหาหลัก ๆ ก็มาจากประชาชนที่เป็นตัวการสำคัญในการใช้พลาสติก โฟม หรือสิ่งที่ย่อยด้วยตัวเองไม่ได้ อีกทั้งการใช้ถุงพลาสติก หลอดพลาสติก ล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุของขยะมูลฝอยที่ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย นอกจากนี้ในการทำลายพลาสติกคนส่วนมากจะเผาซึ่งทำให้เกิดสารพิษในชั้นบรรยากาศ หากสะสมอยู่ในร่างกายมาก ๆ อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้การลดใช้ถุงพลาสติกจึงเป็นสิ่งที่ควรตระหนักอย่างมากในปัจจุบัน คลินิกชุมชนโคกเมาให้บริการผู้ป่วยโรคเรื้อรังเบาหวานและความดันโลหิตสูง 1 ครั้งต่อเดือน โดย มีแพทย์ เภสัชกร และทีมสหวิชาชีพ จากโรงพยาบาลบางกล่ำ มาให้บริการในทุกวันพฤหัสบดี ที่ 3 ของทุกเดือน ซึ่งในการให้บริการแต่ละเดือน มีผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงมารับบริการโดยเฉลี่ยเดือนละ 85-100 คน จากนโยบายลดโฟม ลดการใช้ถุงพลาสติก ทางโรงพยาบาลบางกล่ำ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย งดการจ่ายถุงพลาสติกสำหรับใส่ยาให้กับผู้ป่วยด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ป่วยต้องนำถุงพลาสติกมาเอง ซึ่งนอกจากจะเกิดความไม่สะดวกกับผู้ป่วยแล้ว อาจจะส่งผลเสียต่อยาบางชนิดที่ต้องเก็บให้พ้นแสง เนื่องจากหากถูกแสงอาจทำให้ยาเสื่อมสภาพได้ คลินิกชุมชนโคกเมาจึงเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพโดยการใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก เพื่อตอบสนองนโยบายลดภาวะโลกร้อน ลดขยะพลาสติก สร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่ให้กับชุมชน และเพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชนต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมกับโรคที่เป็นอยู่ 2.เพื่อรณรงค์ให้ผู้ป่วยลด/เลิกการใช้ถุงพลาสติก และโฟม
|
0.00 |
1.ให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงโดยทีมสหวิชาชีพ เช่น การบริโภคอาหาร การรับประทานยา การออกกำลังกาย/ฟื้นฟูสภาพร่างกาย การพบแพทย์ตามนัด
2.ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงในคลินิกเรื้อรัง ลด/เลิก การใช้ถุงพลาสติก โดยหันมาใช้ถุงผ้าแทน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมกับโรคที่เป็นอยู่ได้ 2.ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงสามารถลด/เลิกการใช้ถุงพลาสติก โฟม เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีในชุมชน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2563 11:14 น.