พัฒนาศักยภาพแกนนำสตรีและแกนนำหมู่บ้านด้านมะเร็งปี ๒๕๖๐
ชื่อโครงการ | พัฒนาศักยภาพแกนนำสตรีและแกนนำหมู่บ้านด้านมะเร็งปี ๒๕๖๐ |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.จะแนะ |
วันที่อนุมัติ | 5 พฤษภาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 11 กรกฎาคม 2560 - 12 กรกฎาคม 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 54,400.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสามีเราะห์ มะรือโบอุมา |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางบากอรีวาแม็ง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.077,101.693place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 220 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลทำให้วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และมีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพโดยรวมของประชาชนไทย จากการเปลี่ยนแปลงตามวัยและสภาพแวดล้อมสตรีไทยจึงจำเป็นต้องได้รับการป้องกันและการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงและลดภาวะเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ซึ่งมีอัตราการเกิดโรคสูงเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสอง และพบได้มากในสตรีช่วงวัยเจริญพันธุ์จากรายงานของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ จากหนังสือแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติ (พ.ศ.๒๕๕๖–พ.ศ.๒๕๖๐ )พบว่าประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกปีละเท่ากับ ๒๐.๙ ต่อประชากรสตรี หนึ่งแสนคนต่อปี ในแต่ละปีมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน และมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ ๕,๒๐๐ คนหรือประมาณร้อยละ ๒๗ และมีสตรีไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยวันละ๑๔ คน พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมละเท่ากับ๑๖.๓ ต่อประชากรสตรี หนึ่งแสนคนต่อปี พบผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่มากเป็นลำดับที่ ๔ หรือพบผู้ป่วยรายใหม่ ๑๑,๔๙๖ราย/ปี อัตราการเสียชีวิต ๖,๘๔๕ราย/ปี จากคลังข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรังจังหวัดนราธิวาสพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกจำนวน ๒๘๗ คน พบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจำนวน ๓๔๙คน ในตำบลจะแนะพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกจำนวน ๒ คน ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจำนวน ๒ คน ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ ๒ คน ดังนั้นการที่จะทำให้คนในชุมชนเกิดความตระหนักและใส่ใจกับสุขภาพของตนเองอย่างเป็นธรรมชาติควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตประจำวันโดยไม่รู้สึกเป็นภาระ จะต้องมีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบเพื่อสอนให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ทำให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ด้วยการพัฒนาคนด้านสุขภาพโดยเฉพาะ แกนนำสตรี ซึ่งเป็นแบบอย่างการดูแลสุขภาพตนเองของชาวบ้าน จัดกระบวนการเรียนรู้และฝึกทักษะด้านสุขภาพให้ แกนนำสตรี มีศักยภาพที่จะดูแลและถ่ายทอดความรู้ไปยังครัวเรือนที่รับผิดชอบ ตลอดจนสร้างกระแสให้เกิดการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีคุณภาพและสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทได้ดียิ่งขึ้น จากผลการดำเนินงานมะเร็งปี ๒๕๕๙ พบว่าเครือข่ายแกนนำสตรียังไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร แกนนำสตรีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายยังตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกไม่ครอบคลุมทุกคน สตรีอายุ๓๐-๖๐ปีมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกคิดเป็นร้อยละ๑๓.๗๐ ซึ่งยังไม่ถึงร้อยละ๒๐ เนื่องจากบางคนยังไม่ตระหนักเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มีทัศนคติที่ไม่ดี เช่น กลัว อาย กลัวว่าตรวจแล้วจะพบความผิดปกติ สตรีอายุ๓๐-๗๐ปี บางคนยังตรวจเต้านมด้วยตนเองไม่ถูกวิธี ตรวจไม่ต่อเนื่อง แกนนำสตรีมีการติดตาม ประเมินการตรวจเต้านมด้วยตนเองของกลุ่มเป้าหมายยังไม่ต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุ๕๐ ปีขึ้นไป ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวน ๕รายพบผล Positive ๒ ครั้งในจำนวน ๓ ครั้ง จำนวน ๔ รายซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แต่ปฏิเสธการส่องกล้องทั้ง ๔ รายดังนั้นกลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชนจึงได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำสตรีด้านมะเร็งปี ๒๕๖๐เพื่อให้แกนนำสตรี มีการพัฒนาศักยภาพ มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการจัดการด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ให้เกิดการพัฒนาและการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการดูแลจัดการด้านสุขภาพ เชื่อมโยงไปถึงการพัฒนาด้านอื่น ๆ การรวมพลังกับแกนนำสุขภาพอื่น ๆ ในการสร้างสุขภาพ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑.แกนนำสตรีและกลุ่มเป้าหมายสตรี อายุ ๓๐-๖๐ปีได้การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร้อยละ๒๐
|
||
2 | ๒.ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกร้อยละ๙๐
|
||
3 | ๓. แกนนำสตรีมีศักยภาพในการให้คำแนะนำและเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น
|
||
4 | ๔.เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความตระหนักเรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น
|
||
5 | ๕.เพื่อให้แกนนำสตรี มีศักยภาพในการให้คำแนะนำและเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
|
||
6 | เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
|
||
7 | เพื่อค้นหาความผิดปกติก่อนระยะเป็นมะเร็ง
|
||
8 | กิจกรรมที่ ๒ พัฒนาศักยภาพด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่
๑.เพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำหมู่บ้านให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
|
||
9 | .เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบทบาทแกนนำหมู่บ้านให้เป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างในการมารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
|
||
10 | เพื่อให้แกนนำหมู่บ้าน มีทักษะในการเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
|
||
11 | เพื่อสร้างเครือข่ายแกนนำในการค้นหา จูงใจกลุ่มเป้าหมายในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
|
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 54,400.00 | 0 | 0.00 | |
อบรม | 0 | 7,400.00 | - | |||
อบรมให้ความรู้ | 0 | 47,000.00 | - |
กิจกรรมที่๑ พัฒนาศักยภาพด้านมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
๑. จัดประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ฝ่ายเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชนเพื่อวางแผนการดำเนินงาน
๒. ทำหนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการและมีเดินหนังสือในชุมชนล่วงหน้า๒อาทิตย์ก่อนดำเนินโครงการ
๓. แจ้งแผนการดำเนินงานและกำหนดการให้แกนนำสตรี รับทราบ
๔. จัดทำสื่อการสอนเรื่องมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
๕. เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือการตรวจมะเร็งปากมดลูกเพื่อเป็นสื่อการสอน
๖. ให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมอธิบายพยาธิสภาพ แนวทางการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
๗.นำเสนอภาพโรคมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้ายเพื่อเพิ่มความตระหนัก
๘.กิจกรรมซักถามเพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้เข้าร่วมโครงการ
๙.ประเมินผลการดำเนินงาน
กิจกรรมที่ ๒พัฒนาศักยภาพด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่
๑. จัดประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ฝ่ายเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชนเพื่อวางแผนการดำเนินงาน
๒. ทำหนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการและมีการเดินหนังสือในชุมชนล่วงหน้า๒อาทิตย์ก่อนดำเนินโครงการ
๔. แจ้งแผนการดำเนินงานและกำหนดการให้แกนนำสตรี รับทราบ
๕. จัดทำสื่อการสอนเรื่องมะเร็งลำไส้ใหญ่
๖ให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และแนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
๗. จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ให้พร้อม
๘. ดำเนินการแผนงานกิจกรรมตามโครงการ
๙.ประเมินผลการดำเนินงาน
กิจกรรมที่๑ พัฒนาศักยภาพด้านมะเร็งปากมดลูก
๑.แกนนำสตรีและกลุ่มเป้าหมายสตรี อายุ ๓๐-๖๐ปีได้การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร้อยละ๒๐
๒.ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกร้อยละ๙๐
๓.แกนนำสตรีมีศักยภาพในการให้คำแนะนำและเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น
๔. สามารถค้นหาความผิดปกติก่อนระยะเป็นมะเร็งร้อยละ๗๐
๕.แกนนำสตรีและกลุ่มเป้าหมายสตรี อายุ ๓๐-๖๐ปีมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม
ร้อยละ๙๐
๖.แกนนำสตรีสามารถเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างในการมารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
๗.แกนนำสตรีมีศักยภาพและทักษะในการตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกวิธีและสามารถสอนกลุ่มเป้าหมายสตรีในเขตครัวเรือนที่รับผิดชอบได้ร้อยละ๙๕
๘. สามารถค้นหาความผิดปกติของก้อนที่เต้านมก่อนระยะเป็นมะเร็งร้อยละ๗๐
กิจกรรมที่๑ พัฒนาศักยภาพด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่
๑.แกนนำชุมชนและผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ร้อยละ ๙๕
๒.แกนนำหมู่บ้านสามารถเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างในการมารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
๓.แกนนำหมู่บ้าน มีทักษะในการเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ร้อยละ ๗๐
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2560 17:34 น.